วันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2560

แม่พระแห่งการเปิดเผยพระวิวรณ์


หนังสือที่เพิ่งตีพิมพ์จากไดอารี่ของบรูโน คอร์นาชิโอลา Bruno Cornacchiola


เราได้มีประสบการณ์ภัยพิบัติหลายอย่างที่เกิดขึ้นมาไม่นานหลังจากสุริยคลาสเต็มดวงในสหรัฐอเมริกา  อย่างแรกคือแผ่นดินไหวที่เกาะอิสเชียซึ่งเกิดขึ้นหลังจากสุริยคลาสเพียง 9 นาที เกาะอิสเชียคือเกาะที่แม่พระทรงประจักษ์แก่เด็กบางคน และยังมีคำทำนายเกี่ยวกับเหตุการณ์ 911 ที่นิวยอร์ก  แผ่นดินไหวในที่ต่างๆ ภูเขาไฟระเบิด เกาะที่จมลงในทะเล เป็นต้น  แผ่นดินไหวที่เกาะอิสเชียนี้ยังได้ทำลายโบสถ์ Church of St. Michael ซึ่งเป็นที่รู้จักในท้องถิ่นนั้นว่าเป็น “โบสถ์แห่งไฟชำระ” ที่อยู่ไม่ไกลจากสถานที่แม่พระประจักษ์ที่ซาโร  สี่วันต่อมาก็เกิดพายุเฮอร์ริเคนฮาวี่ที่รุนแรงมากที่สุดในรอบสิบปี  ตามมาคือเหตุการณ์ที่เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธไฮโดรเจนบอมบ์เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2017

ขณะที่เกิดเหตุการณ์เหล่านี้บนพื้นโลก  ยามค่ำคืนที่บริเวณขั้วโลกเหนือก็มีปรากฏการณ์แสงเหนือ (ออโรร่า) ดังที่รู้กันว่าซิสเตอร์ลูซีอามีความเชื่อมโยงกับแสงเหนือที่เกิดขึ้นในปี 1938 เพราะในสาส์นความลับของแม่พระนั้น พระนางทรงแจ้งให้ทราบถึงสงครามโลกครั้งที่ 2   และแม่พระยังบอกกับซิสเตอร์ลูซีอาว่า

“เมื่อใดที่ลูกเห็นแสงสว่างประหลาดในยามค่ำคืน  จงรู้ไว้เถิดว่านี่เป็นหมายสำคัญยิ่งใหญ่ที่พระเป็นเจ้าทรงประทานแก่ลูกเกี่ยวกับโทษทัณท์ที่จะมีต่อโลกเพราะบาปความผิดมหันต์ของมนุษย์  จะเกิดสงคราม  ภัยพิบัติ  การเบียดเบียนพระศาสนจักรและพระสันตะปาปา”

จากเหตุการณ์ต่างเหล่านี้ ทำให้ผมลองค้นดูเกี่ยวกับการประจักษ์ของแม่พระแห่งการเปิดเผยพระวิวรณ์  แม่พระประจักษ์แก่บรูโน คอร์นาชีโอลา ในปี 1947 ผมพบว่าไดอารี่ของบรูโนถูกตีพิมพ์ขึ้นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วโดยมีชื่อว่า Il Veggente: Il Segreto della Tre Fontane โดยนักหนังสือพิมพ์อิตาเลี่ยน ซาเวรีโอ เกอตา (Salani, 2016) ยังไม่มีการแปลเป็นภาษาอังกฤษ แต่หนังสือได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากสื่อต่างๆของอิตาลี  นายแอนเดรีย ทอร์เนลลี่ แห่งวาติกัน อินไซด์เดอร์ ได้กล่าวถึงหนังสือไดอารี่นี้โดยยกคำพูดในไดอารี่ของบรูโนว่า

 “จากตะวันออก ประชาชนที่แข็งแกร่งซึ่งอยู่ห่างไกลจากพระเจ้า จะโจมตีอย่างรุนแรงจะทำลายศีลศักดิ์สิทธิ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกอย่าง”

จากคำพูดนี้ เป็นการยากที่จะตีความว่า  คำพูดที่มาจากไดอารี่ของบรูโนนี้หมายถึงเหตุการณ์ 911 หรือเป็นเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้นแต่จะเกิดในอนาคต (ซึ่งอาจเกิดจากเกาหลีเหนือหรือไม่ ?) 

การประจักษ์ของแม่พระที่เตรฟอนตาเน ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากทางพระศาสนจักรแล้ว และสาส์นของแม่พระก็มีอิทธิพลต่อหลายท่านภายในพระศาสนจักร เช่น พระสันตะปาปาปีโอที่ 12  และพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ผู้ที่ได้เสด็จมาที่เตรฟอนตาเนในปี 1997 เพื่อทรงเยี่ยม “พระนางมารีย์แห่งสหัสวรรษที่สามผู้เสด็จมาที่น้ำพุทั้งสาม”

แม่พระประจักษ์แก่บรูโนเพื่อหยุดยั้งเขาไม่ให้ลอบสังหารพระสันตะปาปาปีโอที่12 และที่เตรฟอนตาเนนี้ยังเป็นสถานที่ซึ่งนักบุญเปาโลถูกประหารชีวิตเป็นมรณสักขี  ต่อจากนักบุญเปโตรที่ถูกประหารชีวิตไปก่อนในสมัยการเบียดเบียนของจักรพรรดิเนโร  (ตามสมมติฐานของบางคน มรณสักขีทั้งสององค์นี้คือพยานของพระเจ้าสององค์ภายใต้อำนาจของแอนตี้ไครส์ ดังที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์วิวรณ์)

ในไดอารี่นี้มีคำทำนายของแม่พระแห่งการเปิดเผยพระวิวรณ์ที่ถูกบันทึกเอาไว้ ที่อาจทำให้เห็นภาพในอนาคตได้บางอย่าง  และเป็นเรื่องประหลาดที่สาส์นแม่พระมีความคล้ายคลึงกับวาจาของซิสเตอร์ลูซีอาที่กล่าวถึงพระศาสนจักรในระหว่างการสัมภาษณ์โดย Fr. Fuentes และยังคล้ายกับคำทำนายของนักบุญ ฮิลเดการ์ด แห่งบินเยน  เรื่องหนึ่งซึ่งสะดุดใจในหนังสือเล่มนี้มาจากบางส่วนของสาส์นที่ประทานแก่บรูโน และตรงกับข้อสมมุติฐานของผมเกี่ยวกับยุคสมัยปัจจุบันของพระศาสนจักรซึ่งเป็นยุคที่ซาตานถูกปล่อยออกมาล่อลวงโลกในปลายยุคซึ่งเขียนอยู่ในวิวรณ์ที่ 20 นี่เป็นข้อความบางส่วนจากไดอารี่ของบรูโน

“พระศาสนจักรทั้งมวลจะอยู่ภายใต้การทดสอบอันยิ่งใหญ่  เพื่อเป็นการชำระล้างมนุษย์ใจสกปรกจำนวนมากที่แทรกซึมเข้าไปอยู่ในพระศาสนจักร  โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือผู้ที่ทรยศต่อกฏบัญญัติแห่งความยากจน  จะเป็นการทดสอบฝ่ายร่างกาย และการทดสอบฝ่ายจิตใจ  เวลานั้นได้ถูกกำหนดไว้แล้วในหนังสือแห่งสวรรค์  พระสงฆ์และผู้มีความเชื่อทั้งหลายจะถูกปล่อยให้อยู่ในช่วงเวลาที่เป็นจุดเปลี่ยนที่อันตรายในโลกแห่งความสูญเสีย  ซึ่งจะรีบเร่งไปสู่การทดสอบด้วยวิธีต่างๆอาศัย – เทววิทยาและอุดมการณ์ที่ผิดพลาดซึ่งมีที่มาจากทั้งสองฝ่ายคือ จากผู้มีความเชื่อและจากผู้ไม่มีความเชื่อ มันนำไปสู่การทดสอบซึ่งจะติดตามมา แม่ซึ่งอยู่ท่ามกลางพวกลูกผู้ที่ได้รับเลือก พร้อมกับองค์พระคริสตเจ้าในฐานะจอมทัพ จะคอยสู้รบเพื่อพวกลูก [...]  ความโกรธแค้นของซาตานไม่สามารถยังยั้งต่อไปได้อีกแล้ว  พระจิตของพระเจ้าถูกถอดถอนออกจากโลก  พระศาสนจักรจะถูกทิ้งไว้ให้เป็นหม้าย  จงมองดูศพที่ถูกคลุมไว้ด้วยผ้าเถิด  เธอจะถูกทิ้งให้อยู่ในความปราณีของโลก  ลูกทั้งหลาย จงกลับกลายเป็นนักบุญและทำให้ตัวเองศักดิ์สิทธิ์มากยิ่งขึ้น จงรักซึ่งกันและกันเสมอ [...]จงเป็นทหารหาญภายใต้เครื่องหมายของพระคริสต์  จงทำงานในหนทางนี้  แล้วลูกจะได้เห็นผลลัพท์แห่งชัยชนะในการตื่นอยู่ของสติเพื่อความดี  ถึงแม้จะอยู่ในความชั่วร้าย  ลูกจะได้เห็น  โดยอาศัยความร่วมมือของลูกและความช่วยเหลือที่ได้ผลแน่นอนของลูก คนบาปจะกลับใจและจะมีผู้ได้รับความรอดมากมาย”

จาก - (The Virgin of the Revelation to Bruno Cornacchiola, the 12th of April at the Tre Fontane. Trans. by Francesca Romana at Rorate Caeli, here. Originally found in Gaeta, S. Il Veggente: Il Segreto della Tre Fontane, pp81-86)

ข้อความที่แม่พระตรัสว่า “ความโกรธแค้นของซาตานไม่สามารถยับยั้งได้อีกต่อไป” สอดคล้องกับสงครามโลกครั้งที่ 2 และยังอาจเชื่อมโยงต่อไปถึงนิมิตฝันของพระสันตะปาปาเลโอที่ 13 เกี่ยวกับระยะเวลาของซาตานในโลกที่ถูกบรรยายไว้ในพระวิวรณ์บทที่ 20

ยังมีข้อความที่น่าสนใจอีกเล็กน้อยที่ผมได้มาจากบทนำของทอร์เนลลี แห่งวาติกันอินไซด์เดอร์ที่เขียนส่วนหนึ่งของไดอารี่ของบรูโนไว้ดังนี้

 หลายปีต่อมา ในวันที่ 26 มกราคม 1996 มีนิมิตที่พูดถึงการคุมคามต่อวาติกันดังนี้

“คุณเคยฝันมากเท่าใด? นี่เป็นคืนที่ผมเห็นอาสนวิหารนักบุญเปโตรกำลังเกิดไฟไหม้  และผมก็พูดว่า ทำไมจึงถูกไฟไหม้ได้เล่า? มีเสียงหนึ่งพูดว่า มันเป็นไฟที่มีไว้ชำระล้างเพื่อทำให้ เกิดความเข้าใจว่าภายในนั้นมีแต่เพียงพลังแห่งชีวิตและความรักเท่านั้น  และมันก็ยังไม่เป็นที่เข้าใจ  พระเจ้าทรงชำระล้างทุกสิ่งเพื่อทำให้ทุกคนมีความเข้าใจในหนทางแห่งความจริงเพื่อชีวิต”  โอ้ พระแม่สุดที่รัก  พระแม่คือเสียงนั้นนั่นเอง  ผมจำได้”

วันที่ 3 มีนาคม 2000 ในสมัยพระคุณการุณย์อันยิ่งใหญ่  ในสาส์นล่าสุดสาส์นหนึ่ง (บรูโนเสียชีวิตในปีถัดมา) บรูโนเขียนไว้ว่า “วันนี้ผมมีนิมิตที่เศร้ามากซึ่งทำให้ผมต้องร้องไห้  ผมเห็นเลือดมากมายหลั่งไหลออกมาในอาสนวิหารนักบุญเปโตร  เลือดไหลไปตามขั้นบันไดและเสาโดยรอบ และที่น้ำพุสองแห่ง  ผมเห็นเลือดที่ไหลหลั่งมาและ (มีเสียงตะโกน?) – ความตายมาสู่ผู้นำ!’ ผมมีความรู้สึกเศร้าสำหรับพระสันตะปาปาและคนอื่นๆ”

นิมิตกล่าวถึงการโจมตีอาสนวิหารนักบุญเปโตร นิมิตนี้สอดคล้องกับสาส์นหนึ่งของการประจักษ์ที่เกาะอิสเชียซึ่งพูดถึงการแตกแยกที่จะเกิดในพระศาสนจักร

“จงสวดภาวนามากๆเพื่อพระสันตะปาปาฟรังซิส  เวลาแห่งความยากลำบากกำลังรอพระองค์อยู่...”

ลูกสาวของแม่  จะมีการแตกแยกอย่างหนักและใหญ่โตในเซนต์ปีเตอร์ :  จงดูที่กำแพงที่เปื้อนไปด้วยเลือดสิ  เลือดของบรรดามรณสักขี  จะมีความโกลาหล  ถ้าพวกลูกไม่สวดภาวนา  ทุกสิ่งเหล่านี้จะบังเกิดขึ้นในไม่ช้า

โดมพระวิหารของเซนต์ปีเตอร์จะเต็มไปด้วยควัน  ประชาชนที่สับสนอลหม่านมารวมตัวกันที่เซนต์ปีเตอร์  ประชาชนที่ก่อจลาจล  มีชนหลายชาติที่ต่อสู้ซึ่งกันและกัน  มันมืดมิด  ไม่มีแสงสว่าง  หลายคนต่อสู้และหลายคนนอนตายอยู่บนพื้น  มังกรผ่านไปตามซากศพและหัวเราะ :  มันมีความสุขมาก  ประชาชนพยายามพูดจากัน แต่พวกเขาไม่เข้าใจกันเลย  โลกสั่นสะเทือน  สั่นสะเทือนไปทุกหนแห่ง”

(สาส์นประทานแก่แองเจล่า 26 มิ.ย. 2014) 

ข้อความในสาส์นนี้ทำให้ผมต้องสั่นสะท้านเมื่อคิดถึงคำขู่ของกลุ่มผู้ก่อการร้ายมุสลิม ISIS ที่มีต่อวาติกันและพระสันตะปาปา  พวกมันกำลังพุ่งเป้ามาที่วาติกันและพระสันตะปาปาฟรังซิส

-------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น