วันอาทิตย์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2560

อัศจรรย์ศีลมหาสนิทแห่งโซโคลคา


แผ่นศีลเป็นเนื้อเยื่อจากหัวใจของมนุษย์ที่ใกล้ตาย

การวิเคราะห์ของห้องทดลองได้ยืนยันว่าโครงสร้างของเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อหัวใจและโครงสร้างของปังนั้นยึดติดเกี่ยวพันกันในลักษณะที่ไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ด้วยวิธีใดก็ตามของมนุษย์

ทุกวันในโบสถ์คาทอลิกทั่วโลกมีอัศจรรย์ยิ่งใหญ่เกิดขึ้น นั่นคือการที่ปังและเหล้าองุ่นถูกเปลี่ยนเป็นพระกายและพระโลหิตแท้ของพระคริสตเจ้า

เมื่อเรารับแผ่นศีลเข้าในปาก เราสัมผัสธรรมชาติแท้ของศีลมหาสนิทได้ด้วยความเชื่อของเราเท่านั้น เพราะประสาทสัมผัสของเราจะรับรู้แต่เพียงธรรมชาติของปังและเหล้าองุ่น แต่กายภาพของปังและเหล้าองุ่นนั้นถูกเปลี่ยนไปแล้วด้วยการเสกศีลของพระสงฆ์

เหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นในศีลมหาสนิทที่เมืองโซโคลคา ของโปแลนด์ด้วยเช่นกัน

เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 12 ต.ค. 2008 สองสัปดาห์หลังการสถาปนาคุณพ่อ Fr. Michael Sopocko เป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า (พระสงฆ์วิญญาณของซิสเตอร์โฟสตินา)

ระหว่างพิธีมิสซาเฉลิมฉลองในโบสถ์ St. Anthony ของเมืองโซโคลคา เวลา 8.30 น. แผ่นศีลที่เสกแล้วได้หล่นจากมือของพระสงฆ์ท่านหนึ่งขณะที่แจกศีล  พระสงฆ์จึงได้ก้มลงหยิบแผ่นศีล และโดยวิธีตามแบบแผน พระสงฆ์วางแผ่นศีลไว้ในภาชนะที่มีน้ำบรรจุอยู่ เป็นภาชนะที่ใส่น้ำเพื่อพระสงฆ์ใช้ล้างนิ้วหลังการแจกศีล  วิธีนี้จะทำให้แผ่นศีลละลายในน้ำและอาจจะถูกนำไปรดน้ำต้นไม้ต่อไปหรือวิธีอื่นที่เหมาะสม

คุณพ่อ Stanislaw Gniedziejko พระสงฆ์อธิการโบสถ์ได้ขอให้ซิสเตอร์ จูเลีย ดูโบวส์กา Sister Julia Dubowska ในคณะนักบวชแห่งศีลมหาสนิท เป็นผู้นำภาชนะที่ใส่ศีลมหาสนิทนั้นไปบรรจุลงในภาชนะอีกใบหนึ่ง  เพราะคิดว่าแผ่นศีลที่เสกแล้วนั้นคงจะละลายหมดแล้ว  ซิสเตอร์นำภาชนะใบใหม่ไปวางที่ห้องซาคริสเตียภายในโบสถ์ที่มีตู้เซฟตั้งอยู่ และมีเพียงซิสเตอร์และคุณพ่ออธิการเท่านั้นที่มีกุญแจไขตู้

หนึ่งสัปดาห์ต่อมา วันที่ 19 ต.ค. เป็นวันอาทิตย์ เมื่อคุณพ่ออธิการถามซิสเตอร์เกี่ยวกับสภาพของแผ่นศีล ซิสเตอร์ไปที่ตู้เซฟนั้น  เมื่อเปิดตู้ ซิสเตอร์สังเกตว่ามีกลิ่นหอมอ่อนของขนมปังไร้เชื้อ และเมื่อเปิดภาชนะที่บรรจุแผ่นศีลก็เห็นว่าแผ่นศีลยังไม่ละลายและมีวงสีแดงเกิดขึ้นบนแผ่นศีล เหมือนคราบเลือด แต่น้ำไม่ได้เปลี่ยนสีไปเลย

ซิสเตอร์รีบไปรายงานให้คุณพ่ออธิการทราบ และท่านได้นำคุณพ่ออีกท่านหนึ่ง Fr. Ryszard Gorowski ไปดู ทั้งสองรู้สึกอัศจรรย์ใจและไม่พูดอะไร

ทั้งสองท่านปิดเงียบไม่ได้บอกให้ใครทราบ เพราะเป็นเรื่องสำคัญ แผ่นศีลถูกเสกแล้วด้วยอำนาจของพระวาจาของพระคริสต์ในการเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้าย แผ่นศีลกลายเป็นพระกายของพระองค์อย่างแท้จริง ในมุมมองของมนุษย์ ไม่มีวิธีใดที่จะทำให้แผ่นศีลจะกลับกลายเป็นเนื้อเยื่อของมนุษย์ได้ ไม่ว่าจะเป็นวิธีทางเคมีหรือวิธีทางวิทยาศาสตร์ใดๆก็ตาม

ในทันที พระสงฆ์ทั้งสองรายงานเหตุการณ์นี้ให้แก่พระอัครสังฆราชแห่ง Bialystok พณ. Edward Ozorowski ซึ่งเดินทางมาที่โซโคลคาพร้อมกับมนตรีของคูเรียและเจ้าหน้าสังฆมณฑลอื่นๆ ทุกคนเมื่อได้ทราบและได้เห็นสิ่งนี้ ต่างก็อัศจรรย์ใจ พระอัครสังฆราชสั่งให้เก็บรักษาแผ่นศีลไว้อย่างดีและรอดูอีกสักระยะหนึ่งว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

วันที่ 29 ต.ค. มีการนำภาชนะบรรจุแผ่นศีลไปไว้ที่โบสถ์น้อยแห่งพระเมตตา วางไว้บนพระแท่น วันต่อพระอัครสังฆราชตัดสินใจให้นำแผ่นศีลออกมาจากภาชนะและไปใส่ในถ้วยบรรจุศีล และนำกลับไปไว้ในตู้ศีล แผ่นศีลถูกเก็บรักษาอยู่ที่นี่เป็นเวลาสามปีจนกระทั่งถูกนำไปไว้ที่โบสถ์เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2011  ในช่วงปีแรก เรื่องนี้ถูกเก็บไว้เป็นความลับ และระหว่างนั้น เจ้าหน้าที่ของโบสถ์ได้รับคำแนะนำในสิ่งที่ต้องทำ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับหมายสำคัญจากพระเจ้าซึ่งต้องมีการแปลความหมายนี้

กลางเดือนมกราคม 2009 ส่วนที่เปลี่ยนเป็นเลือดทั้งหมดได้แห้งไปตามธรรมชาติ และมีสภาพเหมือนคราบเลือดแข็งกรัง ตั้งแต่นั้นสภาพนี้ก็ไม่เปลี่ยนแปลงอีกเลย

ในเดือนเดียวกันนี้ พระอัครสังฆราชสั่งให้มีการศึกษาทางจุลพยาธิวิทยาของแผ่นศีล  วันที่ 30 มี.ค. ท่านได้ตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาปรากฏการณ์นี้

มีการแบ่งชิ้นส่วนของแผ่นศึลที่มีคราบเลือดไปวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญสองท่านได้แก่ Prof. Maria Sobaniec-Lotowska, MD, และ Prof. Stanislaw Sulkowski, MD, เพื่อให้แน่ใจในความน่าเชื่อถือของผลวิเคราะห์ ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองท่านเป็นศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยแพทย์ Medical University of Bialystok  และได้ทำการวิเคราะห์ที่แผนกจุลพยาธิวิทยาของมหาวิทยาลัย university’s Department of Pathomorphology

ผลงานของผู้เชี่ยวชาญจะถูกควบคุมโดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่ใช้สำหรับวิเคราะห์ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ใดๆก็ตามซึ่งกำหนดขึ้นโดยคณะกรรมการวิทยาศาสตร์แห่งสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติโปแลนด์  การศึกษาได้ทำขึ้นอย่างเข้มข้นมีการถ่ายรูปและบรรยายแต่ละขั้นตอนอย่างชัดเจน เอกสารทั้งหมดถูกส่งให้กับ Metropolitan Curia of Bialystok

เมื่อตัวอย่างถูกส่งไปวิเคราะห์ ชิ้นส่วนที่ไม่ละลายน้ำถูกวางไว้บนผ้า คราบเลือดยังคงชัดเจนอยู่ตลอดเวลา ชิ้นส่วนนี้ถูกทำให้แห้งและแตกเพื่อให้ติดกับส่วนอื่นๆที่ยังเป็นปังอยู่ ตัวอย่างที่ได้รับมีขนาดใหญ่พอสำหรับการวิเคราะห์

ผลการวิเคราะห์จากทั้งสองหน่วยงานมีผลที่สอดคล้องกันอย่างสมบูรณ์ สรุปได้ว่าโครงสร้างของส่วนที่เปลี่ยนแปลงของแผ่นศีลนี้ตรงกับเนื้อเยื่อหัวใจของมนุษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่แต่ใกล้จะเสียชีวิตแล้ว โครงสร้างเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อหัวใจนี้ยึดติดเกี่ยวพันกับส่วนที่เป็นปังอย่างเหนียวแน่น ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้เกิดขึ้นด้วยวิธีใดทางวิทยาศาสตร์ของมนุษย์ (ตามการรายงานของ of Prof. Maria Sobaniec-Lotowska)

การวิเคราะห์ยังพิสูจน์ด้วยว่าไม่มีสารแปลกปลอมอื่นๆถูกใส่เพิ่มเข้าไปในแผ่นศีลที่เสกแล้ว นอกจากนั้น แผ่นศีลได้กลายเป็นกล้ามเนื้อหัวใจของมนุษย์ที่ใกล้ตายแล้ว ปรากฏการณ์นี้ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ ตามคำสอนของพระศาสนจักร แผ่นศีลที่เสกแล้วได้กลับกลายเป็นพระกายของพระคริสต์ด้วยฤทธิอำนาจของพระวาจาของพระคริสต์เองในการเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้าย และสิ่งนี้กระทำซ้ำโดยพระสงฆ์ในระหว่างการเสกศีลในพิธีมิสซา

การแถลงการณ์อย่างเป็นทางการของ Metropolitan Curia of Bialystok กล่าวว่า :

“เหตุการณ์ที่โซโคลคาไม่ผิดต่อความเชื่อของพระศาสนจักร  ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นการยืนยันอีกด้วย พระศาสนจักรสอนว่า หลังจากพระสงฆ์เอ่ยวาจาเสกศีลแล้ว และด้วยฤทธิอำนาจของพระจิตเจ้า ปังได้เปลี่ยนเป็นพระกายของพระคริสตเจ้า และเหล้าองุ่นได้กลายเป็นพระโลหิตของพระองค์  สิ่งนี้เป็นเครื่องชี้นำให้ผู้อภิบาลแห่งศีลมหาสนิททุกท่านให้ทำการแจกจ่ายศีลแห่งพระกายของพระเจ้าด้วยความเชื่อและความเอาใจใส่ให้แก่บรรดาผู้มีความเชื่อทั้งหลายซึ่งจะรับพระองค์ด้วยความเคารพและเทิดทูนบูชา


---------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น