วันอาทิตย์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2560

วิญญาณต้องอยู่ในไฟชำระนานเท่าไร?


 
เดือนพฤศจิกายนเป็นเดือนที่เราระลึกถึงวิญญาณของผู้เสียชีวิตเป็นพิเศษ  ผู้เสียชีวิตแล้วและวิญญาณของเขาอยู่ในสวรรค์  เราเรียกพวกเขาว่า  พระศาสนจักรที่มีชัยชนะ  วิญญาณของผู้ที่อยู่ในไฟชำระ  เราเรียกพวกเขาว่า  พระศาสนจักรที่กำลังทนทุกข์  ส่วนผู้มีความเชื่อที่มีชีวิตอยู่บนโลก  เราเรียกว่า  พระศาสนจักรที่กำลังสู้รบ

เราคิดถึงวิญญาณในไฟชำระเป็นพิเศษ  เพราะพวกเขาน่าสงสาร  พวกเขากำลังได้รับความทุกข์อย่างแสนสาหัส  ความทุกข์บนโลกนี้แม้ว่าจะมากสักเพียงไร  เมื่อเปรียบเทียบกับความทุกข์ในไฟชำระแล้ว  ก็เป็นเพียงฝุ่นธุลีที่เล็กกว่าก้อนหินที่ใหญ่  เมื่อเราประสบความทุกข์ เราก็ยังหลีกเลี่ยงได้บ้างหรือบรรเทาให้น้อยลง  แต่ในไฟชำระ  วิญญาณเหล่านั้นช่วยเหลือตัวเองไม่ได้  พวกเขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือบรรเทาความทุกข์ให้ลดน้อยลงได้ด้วยตัวเอง  พวกเขาจำเป็นต้องพึ่งพิงความช่วยเหลือจากผู้มีความเชื่อในโลกนี้เท่านั้น



วิญญาณในไฟชำระต้องทนทุกข์เป็นเวลานานเท่าไร?

ระยะเวลาที่ต้องอยู่ในไฟชำระของวิญญาณแต่ละคนขึ้นอยู่กับ

1.        จำนวนบาปความผิดที่วิญญาณได้กระทำ

2.        เจตนาและความหนักเบาของบาปเหล่านั้น

3.        มีการทำกิจใช้โทษบาปแล้วหรือไม่?  หรือมีความเสียใจในบาปอย่างสมบูรณ์หรือไม่? ในเวลาที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลก

4.        ข้อนี้มีผลอย่างมากต่อระยะเวลาที่อยู่ในไฟชำระ นั่นคือ มีความช่วยเหลือพวกเขาจากผู้มีความเชื่อหลังจากที่เขาได้ตายไปแล้ว

ระยะเวลาที่วิญญาณต้องอยู่ในไฟชำระนั้นยาวนานเกินกว่าที่เราอาจคิดถึง  มีตัวอย่างมากมายในเรื่องนี้จากประวัติและการเปิดเผยของนักบุญบางองค์

บิดาของนักบุญหลุยส์  เบอร์แทรนด์ (St. Louis Bertrand)เป็นผู้มีใจศรัทธามากจนถือได้ว่าเป็นคริสตชนตัวอย่างทีเดียว  จึงทำให้ท่านได้เป็นบิดาของนักบุญผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง  ท่านเคยปรารถนาที่จะเป็นนักบวชคาร์ทูเซียน  จนกระทั่งรู้ตัวว่านั่นไม่ใช่พระประสงค์ของพระเจ้า
 
เมื่อเสียชีวิตแล้ว  ลูกชายคือ นักบุญหลุยส์ ได้ประกอบพิธ๊มิสซาอุทิศมากมายหลายครั้งสวดภาวนาและทำพลีกรรมเพื่อบิดาอย่างมากมายเป็นเวลานาน  เพราะตระหนักดีถึงพระยุติธรรมของพระเจ้า  และท่านได้เห็นนิมิตของบิดาที่กำลังทนทุกข์อยู่ในไฟชำระ  แม้กระนั้น เวลาก็ผ่านไปถึง 8 ปี  ท่านนักบุญจึงได้ทราบว่าบิดาถูกปลดปล่อยจากไฟชำระขึ้นสู่สวรรค์แล้ว

น้องสาวของนักบุญมาลาคี เสียชีวิตและไปอยู่ในไฟชำระเป็นเวลานาน ทั้งๆที่นักบุญมาลาคีได้สวดภาวนาและทำพลีกรรมเป็นเวลานานและอย่างจริงจังเพื่ออุทิศแก่เธอก็ตาม
 
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับซิสเตอร์คาร์เมลไลท์ท่านหนึ่งในเมืองแพมพลูนา (Pampluna) ท่านดำเนินชีวิตที่ศักดิ์สิทธิ์มากและท่านได้ช่วยวิญญาณของเพื่อนซิสเตอร์หลายคนให้ออกจากไฟชำระ  แต่วิญญาณที่ท่านช่วยเหลือนี้  ส่วนใหญ่ต้องใช้เวลานานตั้งแต่ 30 – 60 ปี
 
วิญญาณของซิสเตอร์คาร์เมลไลท์ที่อยู่ในไฟชำระ กว่าจะได้เป็นอิสระจากไฟชำระก็ต้องใช้เวลานานถึง 40 , 50 และ 60  ปี  แล้วผู้มีความเชื่อที่เป็นสามัญชนทั่วไปล่ะ? ผู้ที่มีชีวิตอยู่ในท่ามกลางกระแสของโลก  และมีความอ่อนแอประสามนุษย์?

นักบุญวินเซนต์ เฟอร์เรอร์ เมื่อน้องสาวของท่านเสียชีวิต ท่านได้สวดภาวนาและประกอบพิธีมิสซามากมายเพื่อช่วยวิญญาณของน้องสาวให้ออกจากไฟชำระ  ต่อมาวิญญาณของน้องสาวได้ปรากฏแก่ท่านนักบุญและบอกกับท่านว่า  ถ้าไม่ใช่อำนาจจากความช่วยเหลือของท่านนักบุญที่วิงวอนต่อพระเมตตาของพระเจ้าแล้ว  เธอจะต้องอยู่ในไฟชำระเป็นเวลายาวนานมากจนไม่อาจคาดคิดได้เลยทีเดียว
 
ในคณะนักบวชโดมินิกัน มีกฏอยู่ข้อหนึ่งที่จะสวดภาวนาอุทิศแก่วิญญาณของเพื่อนนักบวชในคณะด้วยการเอ่ยนามของนักบวชเหล่านั้นในวันครบรอบการตายของเขาทุกปี  และวิญญาณเหล่านั้นบางท่านได้เสียชีวิตไปนานหลายร้อยปีแล้ว  ทั้งๆที่ท่านเหล่านั้นเป็นผู้มีใจศรัทธาและมีความรู้ดีในทางศาสนา  กฏนี้คงไม่ได้รับการรับรองจากทางพระศาสนจักร ถ้าหากไม่เป็นสิ่งที่จำเป็นและควรกระทำ
 
ไม่ใช่วิญญาณทุกดวงที่ต้องอยู่ในไฟชำระอันแสนทรมานเป็นเวลานาน  วิญญาณหลายดวงที่ได้ทำบาปความผิดต่างๆ แต่เขาได้สำนึกผิดด้วยความเสียใจอย่างสมบูรณ์และทำกิจใช้โทษบาปอย่างดีแล้ว แต่อาจมีความผิดบางอย่างหลงเหลืออยู่บ้าง  เขาก็จะได้รับโทษไม่หนักมากและไม่นานนัก

ทำไมวิญญาณจึงได้รับความทรมานเป็นเวลานานเช่นนั้น? เหตุผลอาจพบได้โดยไม่ยาก
 
1.        ความเลวร้ายของบาปที่คนเรากระทำและเราคิดว่าเล็กน้อยนั้น  เป็นเรื่องใหญ่โตมากที่กระทำต่อพระเจ้าผู้ทรงความดีอย่างหาที่เปรียบมิได้  ดังนั้นเราจึงเห็นว่าบรรดานักบุญขณะที่มีชีวิตอยู่บนโลก  พวกท่านร้องไห้ในความผิดที่ท่านได้กระทำลงไป

2.        ถ้าวิญญาณถูกสาปแช่งให้ตกนรกเพราะบาปหนักเพียงข้อเดียว  ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่า  วิญญาณที่ได้รับโทษในไฟชำระ ต้องอยู่เป็นเวลานานสักเพียงใดถ้าหากเขาทำบาปเบานับจำนวนไม่ถ้วน

พระเยซูเจ้าตรัสแก่เราว่า  เราต้องถูกพิพากษาให้จองจำอยู่ในคุกสำหรับคำพูดไม่ดีต่อเพื่อนพี่น้องของเรา  และเราจะออกมาไม่ได้จนกว่าจะชำระถึงเศษสุดท้าย (มธ. 5:26)

            บรรดานักบุญได้เคยทำบาปซึ่งไม่หนักมาก  แต่ท่านมีความเศร้าเสียใจเป็นอย่างมากและทำกิจใช้โทษบาปอย่างจริงจัง  เราเคยทำบาปที่หนักมากกว่านักบุญเหล่านั้นไม่ใช่หรือ  แต่เราก็เศร้าเสียใจในบาปเพียงเล็กน้อย  และทำกิจใช้โทษบาปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

            วิญญาณที่กลับใจในวาระสุดท้ายของชีวิต  หลังจากประพฤติตนไม่ดีมาตลอด  ย่อมอยู่ในไฟชำระเป็นเวลายาวนานมาก  ทำไมนะหรือ?  ก็เพราะพวกเขาไม่มีเวลาในการทำกิจใช้โทษบาปนั่นเอง




            ขอให้เราสวดภาวนาอุทิศแก่วิญญาณในไฟชำระเถิด

พวกเขาต้องพึ่งพาการสวดภาวนาของเรา

ขอมิสซาอุทิศแก่พวกเขาด้วย  สิ่งเหล่านี้เป็นความรักอันยิ่งใหญ่ของเราต่อพวกเขา

เมื่อวิญญาณของเขาเหล่านั้นได้เข้าสู่สวรรค์แล้ว  พวกเขาจะกตัญญูต่อเรา  พวกเขาจะสวดภาวนาแก่เราที่ได้ช่วยเหลือพวกเขา  พวกเขาจะไม่หยุดสวดภาวนเพื่อเราเลยจนกว่าจะได้เห็นเราเข้าสู่สวรรค์เช่นเดียวกับเขาด้วย

****************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น