วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ฟาติมาและสิ่งเหนือธรรมชาติ


By June Klins
 
วันที่ 13 ต.ค. 2017เป็นวันครบรอบ 100 ปีของอัศจรรย์ดวงอาทิตย์ที่ฟาติมา  มีการพูดกันถึงเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง แต่สิ่งที่ไม่ค่อยได้พูดกันก็คือยังมีอัศจรรย์อื่นๆอีกในฟาติมา ซิสเตอร์ลูซีอาหนึ่งในผู้ที่เห็นแม่พระได้เขียนไว้ในหนังสือของท่าน Mother of Christ Crusade ว่า ในวันที่มีการประจักษ์ครั้งที่ 5 อากาศเย็นลงทันทีทันใดและดวงอาทิตย์ก็มืดสลัวลงจนประชาชนนับพันคนที่อยู่ที่นั่นสามารถมองเห็นดวงดาวได้ทั้งๆที่เป็นเวลาเที่ยงวัน และยังมีฝนกลีบดอกไม้สีรุ้งร่วงหล่นลงมาจากอากาศซึ่งหายไปทันทีเมื่อตกถึงพื้นดิน
 
ฤดูร้อนที่แล้ว ฉันได้เข้าร่วมในกลุ่มที่พูดคุยกันเรื่องของฟาติมาที่อารามคาร์เมลไลท์ของเรา คุณพ่อเจมส์ ได้พูดถึงสิ่งเหนือธรรมชาติที่ฟาติมาซึ่งไม่ค่อยมีใครรู้กัน คนส่วนมากรู้เรื่องที่เทวดาได้มาพบกับเด็กสามคนคือ ลูซีอา ยาชินา และฟรังซิสโก และเทวดาได้ให้พวกเขารับศีลมหาสนิท แต่มีใครรู้บ้างว่า เทวดาได้ปรากฏแก่ลูซีอาและเพื่อนสามคนของเธอในปีก่อนหน้านี้? หรือเหตุการณ์ที่ปีศาจปรากฏแก่ฟรังซิสโกด้วยความโกรธเกรี้ยวและพ่นลมหายใจเปลวไฟใส่เขา ขณะที่ฟรังซิสโกอยู่เพียงลำพัง?
 
คุณพ่อบอกว่าเพื่อเตรียมตัวสำหรับการพูดคุยครั้งนี้ ท่านได้อ่านหนังสือ “ความทรงจำของซิสเตอร์ลูซีอา” คุณพ่อได้เล่าให้พวกเราฟังเกี่ยวกับอัศจรรย์บางอย่างที่เกิดขึ้นผ่านทางยาชินทาและฟรังซิสโก
 
ครั้งหนึ่งมีผู้หญิงคนหนึ่งเจ็บป่วยด้วยโรคที่น่ากลัว เธอร้องไห้และมาคุกเข่าต่อหน้ายาชินทา ขอร้องให้เธอช่วยวอนขอต่อแม่พระให้รักษาเธอ ยาชินทาได้สวดบทวันทามารีย์สามบทกับผู้หญิงคนนี้ และเธอก็หายจากโรค
 
อีกเวลาหนึ่ง มีทหารคนหนึ่งที่ถูกเรียกให้เข้าประจำการที่แนวหน้า เวลานั้นภรรยาของเขากำลังป่วยหนักนอนอยู่บนเตียงและเขามีลูกเล็กๆสามคน เขาร้องไห้เข้ามาหายาชินทาวอนขอให้ภรรยาของเขาหายป่วยหรือไม่ก็ขอให้หมายเกณฑ์ที่เรียกเขาไปนั้นถูกยกเลิก ยาชินทาเชื้อเชิญให้ทหารคนนั้นสวดสายประคำกับเธอ ยาชินทาบอกเขาว่า “อย่าร้องไห้ไปเลย แม่พระของเราพระทัยดีมาก พระนางจะทรงประทานพระหรรษทานแก่คุณอย่างแน่นอนเมื่อคุณวอนขอ” ไม่เพียงแต่ทหารคนนั้นถูกปลดประจำการในวันก่อนที่เขาจะต้องออกเดินทางเท่านั้น แต่ภรรยาของเขาก็ได้รับการรักษาให้หายอย่างอัศจรรย์ด้วย

ต่อมายาชินทาได้ช่วยเด็กหญิงคนหนึ่งที่พ่อของเธอต้องทรมานจากโรคสะอึกเป็นเวลานานถึงสามปีแล้วทำให้เขาไม่สามารถพักผ่อนได้เลย เป็นกางเขนที่หนักมาก ร่างกายของเขาผ่ายผอมและร้องไห้โดยที่ควบคุมไม่ได้ ยาชินทาสวดสายประคำกับคนในครอบครัวนี้ ในเช้าวันรุ่งขึ้น เด็กหญิงและพ่อของเธอก็กลับมาหายาชินทาเพื่อขอบคุณ เพราะเขาไม่มีอาการสะอึกต่อไปแล้วและยังมีพละกำลังแข็งแรงกลับคืนมาด้วย     
 
คุณพ่อยังเล่าเรื่องเกี่ยวกับ ลูกพี่ลูกน้องที่เกเรคนหนึ่งของยาชินทา  เขาได้หายตัวไปจากบ้าน  แม่ของเขาซึ่งเป็นป้าของยาชินทาได้วิงวอนต่อยาชินทาให้วอนขอความช่วยเหลือจากแม่พระ  แล้วลูกพี่ลูกน้องคนนี้ก็กลับมาในวันต่อมา  เขาเล่าให้ฟังว่าเขาหลงทางอยู่ในป่าสนที่เนินเขาและมีลมพายุพัดมาด้วย  เขาได้คุกเข่าลงสวดภาวนาวอนขอความช่วยเหลือ  และเขาบอกว่ายินชินทาได้มานำทางแก่เขากลับบ้าน  เมื่อเขากำลังจะขอบคุณยาชินทา  ยาชินทาบอกว่าเธอไม่รู้เรื่องที่เขาเล่าเลย  ดูเหมือนว่ายาชินทาจะได้รับพระพรให้อยู่สถานที่สองแห่งในเวลาเดียวกันในคืนวันนั้น  ยาชินทาพูดว่า “หนูเพียงแต่สวดภาวนามากๆวอนขอต่อแม่พระ  เพราะหนูรู้สึกเสียใจสำหรับคุณป้าวิคตอเรียมาก”
 
คุณพ่อได้เล่าเรื่องอัศจรรย์โดยผ่านทางฟรังซิสโกด้วย  มีเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ  มีสมาชิกของครอบครัวหนึ่งมาหาฟรังซิสโก เขาขอร้องด้วยน้ำตาให้ฟรังซิสโกช่วยเหลือครอบครัวของเขาซึ่ง “ไม่มีความปรองดองกัน  ไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน และแตกแยกกัน”  ฟรังซิสโกได้สวดภาวนาเพื่อครอบครัวนั้น  และพวกเขาก็กลับมาเป็นหนึ่งเดียวกันได้ไม่มีร่องรอยของความแตกแยกเกิดขึ้นอีกเลย  คุณพ่อแนะนำพวกเราว่า ผู้ใดที่มีปัญหาคล้ายๆกับเรื่องนี้ในครอบครัว  ก็ควรสวดภาวนาต่อ นักบุญฟรังซิสโกให้ช่วยเหลือ
 
ในเวลาที่ฉันกำลังฟังเรื่องเหล่านี้  ฉันก็อดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบกับอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นที่เมดจูกอเรจ์ด้วย  มีรายงานของการเยียวยารักษาของคนบางคนโดยผ่านทางการสวดภาวนาของวิกก้าพร้อมกับประชาชน  และมีรายงานด้วยว่าบางครั้งวิกก้าได้รับพระพรอยู่สถานที่สองแห่งในเวลาเดียวกันด้วย  ปีศาจเคยปรากฏต่อมีรยานาเหมือนกับที่มันทำกับฟรังซิสโก  และคนจำนวนมากทีเดียวที่ได้เห็นอัศจรรย์ของดวงอาทิตย์ที่เมดจูกอเรจ์


ถึงแม้ฉันจะไม่เคยได้ยินเกียวกับการที่กลีบดอกไม้ร่วงหล่นลงมาจากอากาศที่เมดจูกอเรจ์  ผู้แสวงบุญบางคนก็บอกว่าพวกเขาเห็น “ฝุ่นทองคำ”บนคนบางคน  เมื่อฉันไปที่เมดจูกอเรจ์ในปี 2001  ในช่วยเทศกาลฉลองพระกายและพระโลหิตพระคริสตเจ้า  มีผู้แสวงบุญหลายคนในกลุ่มของฉัน ซึ่งรวมทั้งหลานสาววัยรุ่นของฉันด้วย ที่ได้เห็นฝุ่นทองคำบนพระสงฆ์ที่มาพร้อมกับพวกเรา
 
ในการพูดคุยเรื่องของฟาติมาและสิ่งเหนือธรรมชาติ  คุณพ่อเจมส์บอกว่า “พ่อคิดว่า พวกเรามุ่งแต่สิ่งที่เป็นของโลก  วัตถุ และสิ่งของทางกายภาพที่นี่จนลืมไปว่ายังมีสิ่งที่ไม่อาจมองเห็นได้  สิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติซึ่งอยู่รอบๆเรา  ฟาติมาได้เตือนเราให้รู้สึกถึงความจริงที่ไม่อาจมองเห็นได้นี้  ฟาติมาเปิดตาของเราให้รู้สึกถึงสิ่งเหนือธรรมชาติ...ฟาติมายกระดับจิตใจของเรา  ช่วยเปิดสติปัญญาของเราและเพิ่มพลังใจของเราให้อยู่เหนือประสาทสัมผัส”
 
คุณพ่อเจมส์เตือนพวกเราว่าพวกเรายึดติดกับสิ่งที่เป็นของโลกมากเกินไปจนเราไม่รู้สึกถึงพระเจ้าหรือรู้สึกถึงการปรากฏอยู่ของพระองค์ในชีวิตของเรา  พระองค์ทรงทำงานในชีวิตของเรา “ในตอนเช้า พวกคุณเคยมองออกไปข้างนอกบ้านและเห็นสิ่งสร้างทั้งหลายเหมือนดังภาพวาดที่น่ามหัศจรรย์จากฝีพระหัตถ์ของพระเจ้าบ้างหรือไม่?  พวกคุณระลึกถึงความรักของพระองค์บ้างไหม?....ฟาติมาช่วยให้พวกเรามีจิตสำนึกในสิ่งนี้  ความรู้นี้จะอยู่ในตัวของเราและทำให้เรารู้สึกถึงสิ่งเหนือธรรมชาติต่างๆที่นำไปสู่นิรันดรภาพ  ที่นำไปสู่การปรากฏของพระเจ้า”
 
ถูกแล้ว มันเป็นเช่นนั้น และฉันอยากพูดด้วยว่า “เป็นเช่นเดียวกันกับเมดจูกอเรจ์”
 
แม่พระแห่งฟาติมา  แม่พระแห่งเมดจูกอเรจ์  โปรดเปิดจิตใจของพวกเราต่อสิ่งเหนือธรรมชาติ  ต่อการปรากฏของพระเจ้าด้วยเถิด
 
-------------------------------------------------------

***********************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น