By June Klins
วันที่ 13
ต.ค. 2017เป็นวันครบรอบ 100 ปีของอัศจรรย์ดวงอาทิตย์ที่ฟาติมา มีการพูดกันถึงเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง แต่สิ่งที่ไม่ค่อยได้พูดกันก็คือยังมีอัศจรรย์อื่นๆอีกในฟาติมา ซิสเตอร์ลูซีอาหนึ่งในผู้ที่เห็นแม่พระได้เขียนไว้ในหนังสือของท่าน Mother of Christ Crusade ว่า
ในวันที่มีการประจักษ์ครั้งที่ 5
อากาศเย็นลงทันทีทันใดและดวงอาทิตย์ก็มืดสลัวลงจนประชาชนนับพันคนที่อยู่ที่นั่นสามารถมองเห็นดวงดาวได้ทั้งๆที่เป็นเวลาเที่ยงวัน และยังมีฝนกลีบดอกไม้สีรุ้งร่วงหล่นลงมาจากอากาศซึ่งหายไปทันทีเมื่อตกถึงพื้นดิน
ฤดูร้อนที่แล้ว
ฉันได้เข้าร่วมในกลุ่มที่พูดคุยกันเรื่องของฟาติมาที่อารามคาร์เมลไลท์ของเรา
คุณพ่อเจมส์ ได้พูดถึงสิ่งเหนือธรรมชาติที่ฟาติมาซึ่งไม่ค่อยมีใครรู้กัน คนส่วนมากรู้เรื่องที่เทวดาได้มาพบกับเด็กสามคนคือ
ลูซีอา ยาชินา และฟรังซิสโก และเทวดาได้ให้พวกเขารับศีลมหาสนิท แต่มีใครรู้บ้างว่า
เทวดาได้ปรากฏแก่ลูซีอาและเพื่อนสามคนของเธอในปีก่อนหน้านี้? หรือเหตุการณ์ที่ปีศาจปรากฏแก่ฟรังซิสโกด้วยความโกรธเกรี้ยวและพ่นลมหายใจเปลวไฟใส่เขา
ขณะที่ฟรังซิสโกอยู่เพียงลำพัง?
คุณพ่อบอกว่าเพื่อเตรียมตัวสำหรับการพูดคุยครั้งนี้ ท่านได้อ่านหนังสือ “ความทรงจำของซิสเตอร์ลูซีอา” คุณพ่อได้เล่าให้พวกเราฟังเกี่ยวกับอัศจรรย์บางอย่างที่เกิดขึ้นผ่านทางยาชินทาและฟรังซิสโก
ครั้งหนึ่งมีผู้หญิงคนหนึ่งเจ็บป่วยด้วยโรคที่น่ากลัว เธอร้องไห้และมาคุกเข่าต่อหน้ายาชินทา
ขอร้องให้เธอช่วยวอนขอต่อแม่พระให้รักษาเธอ ยาชินทาได้สวดบทวันทามารีย์สามบทกับผู้หญิงคนนี้ และเธอก็หายจากโรค
อีกเวลาหนึ่ง มีทหารคนหนึ่งที่ถูกเรียกให้เข้าประจำการที่แนวหน้า เวลานั้นภรรยาของเขากำลังป่วยหนักนอนอยู่บนเตียงและเขามีลูกเล็กๆสามคน เขาร้องไห้เข้ามาหายาชินทาวอนขอให้ภรรยาของเขาหายป่วยหรือไม่ก็ขอให้หมายเกณฑ์ที่เรียกเขาไปนั้นถูกยกเลิก ยาชินทาเชื้อเชิญให้ทหารคนนั้นสวดสายประคำกับเธอ ยาชินทาบอกเขาว่า “อย่าร้องไห้ไปเลย แม่พระของเราพระทัยดีมาก
พระนางจะทรงประทานพระหรรษทานแก่คุณอย่างแน่นอนเมื่อคุณวอนขอ” ไม่เพียงแต่ทหารคนนั้นถูกปลดประจำการในวันก่อนที่เขาจะต้องออกเดินทางเท่านั้น แต่ภรรยาของเขาก็ได้รับการรักษาให้หายอย่างอัศจรรย์ด้วย
ต่อมายาชินทาได้ช่วยเด็กหญิงคนหนึ่งที่พ่อของเธอต้องทรมานจากโรคสะอึกเป็นเวลานานถึงสามปีแล้วทำให้เขาไม่สามารถพักผ่อนได้เลย เป็นกางเขนที่หนักมาก ร่างกายของเขาผ่ายผอมและร้องไห้โดยที่ควบคุมไม่ได้ ยาชินทาสวดสายประคำกับคนในครอบครัวนี้ ในเช้าวันรุ่งขึ้น เด็กหญิงและพ่อของเธอก็กลับมาหายาชินทาเพื่อขอบคุณ เพราะเขาไม่มีอาการสะอึกต่อไปแล้วและยังมีพละกำลังแข็งแรงกลับคืนมาด้วย
คุณพ่อยังเล่าเรื่องเกี่ยวกับ
ลูกพี่ลูกน้องที่เกเรคนหนึ่งของยาชินทา
เขาได้หายตัวไปจากบ้าน
แม่ของเขาซึ่งเป็นป้าของยาชินทาได้วิงวอนต่อยาชินทาให้วอนขอความช่วยเหลือจากแม่พระ แล้วลูกพี่ลูกน้องคนนี้ก็กลับมาในวันต่อมา
เขาเล่าให้ฟังว่าเขาหลงทางอยู่ในป่าสนที่เนินเขาและมีลมพายุพัดมาด้วย
เขาได้คุกเข่าลงสวดภาวนาวอนขอความช่วยเหลือ
และเขาบอกว่ายินชินทาได้มานำทางแก่เขากลับบ้าน เมื่อเขากำลังจะขอบคุณยาชินทา ยาชินทาบอกว่าเธอไม่รู้เรื่องที่เขาเล่าเลย
ดูเหมือนว่ายาชินทาจะได้รับพระพรให้อยู่สถานที่สองแห่งในเวลาเดียวกันในคืนวันนั้น ยาชินทาพูดว่า “หนูเพียงแต่สวดภาวนามากๆวอนขอต่อแม่พระ เพราะหนูรู้สึกเสียใจสำหรับคุณป้าวิคตอเรียมาก”
คุณพ่อได้เล่าเรื่องอัศจรรย์โดยผ่านทางฟรังซิสโกด้วย มีเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ มีสมาชิกของครอบครัวหนึ่งมาหาฟรังซิสโก
เขาขอร้องด้วยน้ำตาให้ฟรังซิสโกช่วยเหลือครอบครัวของเขาซึ่ง “ไม่มีความปรองดองกัน ไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน และแตกแยกกัน” ฟรังซิสโกได้สวดภาวนาเพื่อครอบครัวนั้น
และพวกเขาก็กลับมาเป็นหนึ่งเดียวกันได้ไม่มีร่องรอยของความแตกแยกเกิดขึ้นอีกเลย คุณพ่อแนะนำพวกเราว่า
ผู้ใดที่มีปัญหาคล้ายๆกับเรื่องนี้ในครอบครัว
ก็ควรสวดภาวนาต่อ นักบุญฟรังซิสโกให้ช่วยเหลือ
ในเวลาที่ฉันกำลังฟังเรื่องเหล่านี้ ฉันก็อดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบกับอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นที่เมดจูกอเรจ์ด้วย
มีรายงานของการเยียวยารักษาของคนบางคนโดยผ่านทางการสวดภาวนาของวิกก้าพร้อมกับประชาชน
และมีรายงานด้วยว่าบางครั้งวิกก้าได้รับพระพรอยู่สถานที่สองแห่งในเวลาเดียวกันด้วย ปีศาจเคยปรากฏต่อมีรยานาเหมือนกับที่มันทำกับฟรังซิสโก
และคนจำนวนมากทีเดียวที่ได้เห็นอัศจรรย์ของดวงอาทิตย์ที่เมดจูกอเรจ์
ถึงแม้ฉันจะไม่เคยได้ยินเกียวกับการที่กลีบดอกไม้ร่วงหล่นลงมาจากอากาศที่เมดจูกอเรจ์ ผู้แสวงบุญบางคนก็บอกว่าพวกเขาเห็น “ฝุ่นทองคำ”บนคนบางคน เมื่อฉันไปที่เมดจูกอเรจ์ในปี 2001
ในช่วยเทศกาลฉลองพระกายและพระโลหิตพระคริสตเจ้า มีผู้แสวงบุญหลายคนในกลุ่มของฉัน
ซึ่งรวมทั้งหลานสาววัยรุ่นของฉันด้วย
ที่ได้เห็นฝุ่นทองคำบนพระสงฆ์ที่มาพร้อมกับพวกเรา
ในการพูดคุยเรื่องของฟาติมาและสิ่งเหนือธรรมชาติ คุณพ่อเจมส์บอกว่า “พ่อคิดว่า พวกเรามุ่งแต่สิ่งที่เป็นของโลก วัตถุ
และสิ่งของทางกายภาพที่นี่จนลืมไปว่ายังมีสิ่งที่ไม่อาจมองเห็นได้ สิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติซึ่งอยู่รอบๆเรา
ฟาติมาได้เตือนเราให้รู้สึกถึงความจริงที่ไม่อาจมองเห็นได้นี้ ฟาติมาเปิดตาของเราให้รู้สึกถึงสิ่งเหนือธรรมชาติ...ฟาติมายกระดับจิตใจของเรา
ช่วยเปิดสติปัญญาของเราและเพิ่มพลังใจของเราให้อยู่เหนือประสาทสัมผัส”
คุณพ่อเจมส์เตือนพวกเราว่าพวกเรายึดติดกับสิ่งที่เป็นของโลกมากเกินไปจนเราไม่รู้สึกถึงพระเจ้าหรือรู้สึกถึงการปรากฏอยู่ของพระองค์ในชีวิตของเรา พระองค์ทรงทำงานในชีวิตของเรา “ในตอนเช้า พวกคุณเคยมองออกไปข้างนอกบ้านและเห็นสิ่งสร้างทั้งหลายเหมือนดังภาพวาดที่น่ามหัศจรรย์จากฝีพระหัตถ์ของพระเจ้าบ้างหรือไม่? พวกคุณระลึกถึงความรักของพระองค์บ้างไหม?....ฟาติมาช่วยให้พวกเรามีจิตสำนึกในสิ่งนี้ ความรู้นี้จะอยู่ในตัวของเราและทำให้เรารู้สึกถึงสิ่งเหนือธรรมชาติต่างๆที่นำไปสู่นิรันดรภาพ ที่นำไปสู่การปรากฏของพระเจ้า”
ถูกแล้ว มันเป็นเช่นนั้น
และฉันอยากพูดด้วยว่า “เป็นเช่นเดียวกันกับเมดจูกอเรจ์”
แม่พระแห่งฟาติมา แม่พระแห่งเมดจูกอเรจ์ โปรดเปิดจิตใจของพวกเราต่อสิ่งเหนือธรรมชาติ ต่อการปรากฏของพระเจ้าด้วยเถิด
-------------------------------------------------------
***********************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น