วันอาทิตย์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

การประจักษ์ที่อิตาปาริงกา


 
ในหนังสือเล่มใหม่ของนักเทววิทยาเกี่ยวกับแม่พระ Mark Miravalle of Ohio ได้เล่าถึงบทบาทของนักบุญโยเซฟในการประจักษ์ที่ Itaparinga, Brazil  แม่พระ , พระเยซูเจ้า และนักบุญโยเซฟ ได้ประจักษ์แก่ผู้เห็นสองคนซึ่งเป็นบุตรชาย และมารดาของเขา หนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า The Three Hearts: Church-Approved Apparitions from the Amazon Jungle  ทางสังฆมณฑลที่นั่นได้รับรองแล้ว (แม้ว่าจะไม่ทั้งหมด) และถือว่าเป็นการไขแสดงส่วนบุคคล  ในหนังสือยังกล่าวถึงการประจักษ์แก่ซิสเตอร์ผู้หนึ่งใน Fostoria, Ohio ด้วยและเธอได้รับสาส์นจากนักบุญโยเซฟ

หนังสือนี้จะกล่าวถึงการประจักษ์ที่บราซิลในปี 1994จนถึงปัจจุบัน (แต่มีเฉพาะปี 1998 ที่พระสังฆราช, Carillo Gritti ให้ความเห็นไปในทางที่ดี)  และได้รับอนุญาติให้สามารถประกอบพิธีบริเวณสถานที่ประจักษ์ได้

ในเว็ปไซต์ของการประจักษ์ได้เขียนไว้ในปี 2005 ว่า “ที่เชิงกางเขนเราได้พบกับพระนางมารีย์...และพระนางปรากฏมาในฐานะทรงเป็นราชินีแห่งสันติภาพ  เพราะสันติภาพมาจากพระเจ้าเท่านั้น”

Dr. Miravalle ผู้เขียนหนังสือนี้ได้ให้ความเห็นว่า “สาส์นแห่ง Itaparinga เปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับความจริงในเรื่องความเป็นพรหมจรรย์ของนักบุญโยเซฟ บิดาเลี้ยงของพระเยซูเจ้า และเจ้าบ่าวผู้บริสุทธิ์ของพระนางมารีย์ และถือว่าท่านเป็นบิดาฝ่ายจิตของมวลมนุษยชาติด้วย”

********

ในฤดูใบไม้ผลิปี 1994 เอ็ดสัน เกลาเบอร์ Edson Glauber (เกิดเมื่อ 27 ตุลาคม 1972) มีอายุครบ 22 ปี กำลังศึกษาวิชาเศรษฐศาสตร์อยู่ที่ Brazilian college ในเมือง Manaus ของบราซิล  วิทยาลัยอยู่ห่างจากบ้านของเขาในเมือง Itaparinga ไปห้าชั่วโมงเมื่อเดินทางโดยรถยนต์  แม่พระทรงประจักษ์แก่เขาในฐานะ “ราชินีแห่งสายประคำและสันติภาพ”

            “พระนางทรงประจักษ์มาพร้อมกับพระบุตรและสามีผู้บริสุทธิ์ของพระนาง  เหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ใหม่ในความเข้าใจเกี่ยวกับครอบครัวศักดิ์สิทธิ์และทำให้เกิดความศรัทธาต่อดวงหทัยดวงที่สาม”

             มีสาส์นมากมายที่ได้ประทานมา (แต่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการพิจารณนาจากทางฝ่ายศาสนจักร) ซึ่งพุ่งประเด็นไปที่ภัยความไม่บริสุทธิ์ที่กำลังลุกลามไปทั่วโลก

สาส์นของแม่พระวันที่ 4 เม.ย. 1994 “ซาตานกำลังนำลูกของแม่จำนวนมากไปสู่ความมืดมิด”

พระเยซูเจ้าตรัสแก่เกลาเบอร์ว่า “จงเตรียมตัวให้พร้อมเพราะเวลาใกล้เข้ามาแล้ว”

นอกจากนี้อัครเทวดามีคาแอลยังได้ปรากฏมาด้วยและกล่าวแก่เกลาเบอร์ในปี 1995

“เธอไม่รู้หรอกว่าอะไรกำลังจะมาสู่มนุษยชาติที่เต็มไปด้วยบาปและโชคร้ายนี้”

“จงสวดขอการปกป้องอันทรงอานุภาพของเราและเราสัญญาจะสวดภาวนาต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าสำหรับพวกเธอแต่ละคน  พระนางพรหมจารีย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งเสด็จมาในโลกในหลายโอกาสในช่วงเวลาเหล่านี้เพื่อเรียกพวกเธอให้สำนึกผิดกลับใจหันมาหาพระเจ้า  อย่างไรก็ตาม พระนางยังคงไม่ได้ยินสิ่งที่พระนางควรได้ยิน เพราะมนุษยชาตินั้นมีใจอกตัญญู”

“จงอย่าปฏิเสธสาส์นเหล่านั้นซึ่งพระมารดาของพระเจ้าทรงตรัสแก่เธอด้วยพระนางเองในเวลานี้  จงยอมรับสาส์นและปฏิบัติตามอย่างเร่งด่วนเท่าที่จะทำได้  เพราะเวลาปัจจุบันนั้นเร่งด่วนมากและกระชั้นเข้ามาแล้ว”

แม่พระทรงบอกไว้ว่า “การสู้รบระหว่างความดีและความชั่วกำลังมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว – แต่ไม่ใช่ก่อนที่จะมีความขัดแย้ง , ความเปลี่ยนแปลงและการทำลายครั้งสำคัญ  ผู้มีความเชื่อต้องไม่พูดในทางไม่ดีต่อผู้อื่น  แต่ควรจะสวดภาวนาในทุกโอกาสเพื่อผู้ที่ทำผิดและควรทำพลีกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยวิญญาณจากนรก”

สาส์นวันที่ 24 มี.ค. 1995 “ผู้ที่รักพระเจ้า การสวดภาวนาของพวกเขาจะได้รับการรับฟังเสมอ และพวกเขาจะได้รับการปกป้องในระหว่างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง  ความชั่วร้ายที่ยิ่งใหญ่กำลังจะมาสู่มนุษยชาติที่เต็มไปด้วยบาปและน่าสงสาร”

แม่พระทรงแสดงความกังวล ทรงตรัสว่า “ทุกสิ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยองค์พระบุตรเยซูของแม่  ถ้าหากพวกลูกเชื่อฟังคำขอร้องของแม่  พระศาสนจักรกำลังอยู่ในวิกฤตการณ์”

เกลาเบอร์บอกว่า เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2001 พระนางมารีย์ทรงประจักษ์พร้อมด้วยน้ำตาหลั่งไหลลงสู่พระพักตร์ พระนางไม่ได้ตรัสอะไรเลย  นั่นเป็นวันก่อนที่จะมีการโจมตีครั้งสำคัญของกลุ่มก่อการร้าย  ส่วนนาง Maria do Carmo ผู้เห็นคนที่สองก็ถูกขอร้องในระหว่างการประจักษ์ให้สวดภาวนาอย่างเร่งด่วนมิฉะนั้น “หลายคนจะต้องตาย”  นาง Maria do Carmo ยังได้ยินเสียงกรีดร้องและร้องไห้ด้วย

Maria do Carmo เล่าว่าแม่พระตรัสในปี 1994 แก่เธอว่า “การลงทัณฑ์ครั้งยิ่งใหญ่กำลังมาสู่โลกทั้งโลก และมันอยู่ใกล้มากแล้ว”

มีรายงานว่าในเดือนมกราคม 2010 มีการศึกษา การสวดภาวนา การพิจารณาไตร่ตรองและการสังเกตการณ์ในเรื่องนี้  มีความเจริญเติบโตในความเชื่อของผู้คนนับพัน  พระสังฆราชท้องถิ่น Bishop Carillo Gritti ได้ประกาศ Decree of Worship ยืนยันการประจักษ์ที่ Itapiranga และในเอกสารก่อนหน้านี้ก็บอกว่าสิ่งนี้เป็น “เหตุการณ์เหนือธรรมชาติ”

******

ตั้งแต่ปี 1998 ของการประจักษ์เป็นต้นมา ถือว่าเป็นปีของนักบุญโยเซฟ

วันที่ 1 มีนาคม 1998 นักบุญโยเซฟได้บอกกับ  Edson Glauber หนึ่งในผู้เห็นว่า

“บุตรชายสุดที่รักของเรา  พระเป็นเจ้าทรงส่งเรามาเพื่อบอกลูกเกี่ยวกับพระหรรษทานทุกประการที่ผู้มีความเชื่อจะได้รับจากดวงหทัยอันบริสุทธิ์ของเรา ซึ่งพระเยซูเจ้าและเจ้าสาวผู้ได้รับพระพรของเราปรารถนาจะประทานให้  เราคือนักบุญโยเซฟ และชื่อของเรามีความหมายว่า “พระเจ้าจะทรงเติบโต” เพราะทุกๆวันเราเติบโตในพระหรรษทานและคุณธรรมความดี”

 “ด้วยความศรัทธาต่อดวงหทัยอันบริสุทธิ์ของเรา  วิญญาณจำนวนมากจะรอดพ้นจากเงื้อมมือของปีศาจ”

“พระเป็นเจ้าทรงอนุญาตให้เราเปิดเผยแก่ลูกถึงพระสัญญาแห่งดวงหทัยของเรานั่นคือ -  ผู้ที่ศรัทธาต่อดวงหทัยของเราจะก็จะเป็นผู้บริสุทธิ์ ชอบธรรม และศักดิ์สิทธิ์ในสายพระเนตรของพระเจ้า ดังเช่นที่เราเป็นผู้บริสุทธิ์และชอบธรรมเบื้องพระพักตร์พระเป็นเจ้า”

 “เราจะเติมเต็มลูกด้วยพระหรรษทานเหล่านี้และด้วยคุณธรรม  ทำให้ลูกเจริญเติบโตทุกวันบนหนทางแห่งความศักดิ์สิทธิ์”

นักบุญโยเซฟกล่าวอย่างหนักแน่น ไม่ได้นิ่งเงียบเหมือนกับการประจักษ์ที่น็อคและฟาติมา

นักบุญโยเซฟยังได้กล่าวเตือนถึงเหตุการณ์ในอนาคตด้วย (ต้องพิจารณาให้ดีและมีความระมัดระวังในเรื่องนี้)

 “บุตรชายสุดที่รักของเรา  จงฟังและบอกเล่าให้แก่ทุกคนได้รู้ถึงสิ่งที่พระเจ้าทรงอนุญาตให้เราเปิดเผยแก่ลูก  ลูกเอ๋ย, บาปได้แพร่กระจายไปอย่างร้ายแรง  มนุษย์ยอมให้ตนเองถูกนำทางโดยปีศาจด้วยวิธีที่ร้ายกาจที่สุดของมัน  ศัตรูแห่งความรอดต้องการทำลายมนุษย์ทุกคน เพื่อว่า โดยวิธีนี้  ทุกคนจะสูญเสียไป  มันอิจฉาและเกลียดชังมนุษยชาติทั้งมวล”

“ซาตานต้องการทำลายภาพลักษณ์ของพระเจ้าที่ปรากฏอยู่ในสิ่งสร้าง (มนุษย์) ซึ่งก็คือคุณธรรมแห่งความบริสุทธิ์  ด้วยเหตุนี้พระเจ้าจึงทรงขอให้มนุษยชาติมีความศรัทธาต่อดวงหทัยอันบริสุทธิ์ของเรา”

ในขณะหนึ่ง พระเยซูเจ้าและแม่พระทรงแสดงดวงพระหฤทัยของทั้งสองพระองค์และทรงชี้ไปที่ดวงหทัยของนักบุญโยเซฟที่มีดอกลิลลี่สิบสองดอกล้อมรอบทั้งภายในและภายนอก มีกางเขนและตัวอักษร “M” ที่หมายถึงแม่พระปักอยู่ในรอยบาดแผลบนหัวใจ

ดอกลิลลี่หมายถึงความบริสุทธิ์และความศักดิ์สิทธิ์และหมายถึงชาวอิสราแอลสิบสองเผ่า

รอยบาดแผลหมายถึงนักบุญโยเซฟได้ร่วมในความทุกข์ของพระเยซูเจ้าและแม่พระ

การประจักษ์ครั้งหนึ่งนักบุญได้กล่าววิจารณ์ถึงโทรทัศน์และแฟชั่นที่ลามกอนาจาร  ท่านบอกว่าบทวันทามารีย์เป็น “การเฆี่ยนตีซาตานอย่างรุนแรง”

วันที่ 31 มกราคม 2010 พระสังฆราช Gritti of the Prelature of Itacoatiara ได้ออกจดหมาย “decree of worship” รับรองการประจักษ์ของพระนางพรหมจารีย์มารีย์  ราชินีแห่งสายประคำและสันติภาพ และอนุญาตให้มาแสวงบุญ ณ.สถานที่ประจักษ์ได้ พระสังฆราชกล่าวว่า จดหมาย “decree of worship”นี้ มีจุดประสงค์ในการส่งเสริมชีวิตฝ่ายจิตของประชาชนของพระเจ้าซึ่งมาที่นี่เพื่อถวายเกียรติแด่แม่พระและเพื่อเพิ่มความศรัทธานี้ในสถานที่นี้”

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีจดหมายรับรองในขั้นสุดท้าย  การตรวจสอบยังคงดำเนินต่อไป

             แม่พระตรัสในระหว่างปี 1994 ถึง 1998 ว่า “แม่มีความกังวลเกี่ยวสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในโลก  ถ้าหากพวกลูกยังคงไม่สวดภาวนาด้วยความเชื่อและความรักในหัวใจ”
***********

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น