คอมพิวเตอร์ของคุณเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตอยู่หรือเปล่า
ถ้าใช่.. ชีวิตส่วนตัวของคุณอาจหายไปในพริบตา!
ประมาณ
สองปีก่อน สก็อตต์ แมคนีลลี ประธานบริษัท ซัน ไมโครซิสเต็ม เคยกล่าวไว้ว่า “ถ้าคุณใช้อินเทอร์เน็ต คุณไม่มีทางได้ความเป็นส่วนตัวหรอก
ดังนั้นทำใจเสียเถอะ” คำกล่าวนี้อาจจะเป็นการมองในแง่ร้ายมากไปสักหน่อย
แต่หลังจากนั้นไม่นานนักก็มีข่าวการจับกุมแคร็กเกอร์ชาวรัสเซียที่เจาะเข้า
เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซเพื่อขโมยหมายเลขบัตรเครดิตของลูกค้า และเร็วๆ นี้
ไมโครซอฟต์ออกมายอมรับว่าระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 2000 ทุกเวอร์ชันมีปัญหาด้านความปลอดภัย
ซึ่งเป็นช่องโหว่ที่ทำให้แคร็กเกอร์สามารถเจาะเข้าควบคุมหรือโจรกรรมข้อมูล
จากเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ไม่ยาก
ไมโครซอฟต์แนะนำให้ผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 2000 ทุกเวอร์ชันให้ดาว์นโหลดโปรแกรมแก้ไขและทำการปิดช่องโหว่เร็วที่สุดเท่าที่
จะทำได้
ดูเหมือนว่าปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัวบนอินเทอร์เน็ตจะกลาย
เป็นเรื่องใหญ่ขึ้นทุกวัน จากการสำรวจของนิตยสารไทม์พบว่าผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต 61
เปอร์เซ็นต์ต่างกังวลว่าข้อมูลส่วนตัวจะรั่วไหลผ่านทางอินเทอร์เน็ต
และอันที่จริงแล้ว ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างเราๆ ท่านๆ อาจจะไม่รู้มาก่อนเลยว่า
เวลานี้ข้อมูลส่วนตัวของคุณบางอย่างได้รั่วไหลออกไปในอินเทอร์เน็ตแล้ว อย่างน้อยที่สุดก็ผ่านทางการเยี่ยมชมเว็บไซต์หลายๆ
แห่งที่มีอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง คุณต้องเสี่ยงกับอะไรบ้างเมื่อคุณออนไลน์ และคุณจะหาทางปกป้องตัวเองได้อย่างไร วันนี้เรามีคำตอบให้กับคุณ
โจรกรรม ตัวตนของคุณ
ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย แต่มันเกิดขึ้นแล้ว
ทุกวันนี้ตัวตนของคุณไม่ได้พิสูจน์ด้วยหน้าตา ลักษณะเฉพาะทางร่างกาย
หรือลายเซ็นของคุณเท่านั้น การทำธุรกิจหลายๆ อย่าง
คุณไม่จำเป็นต้องปรากฏตัวเลยด้วยซ้ำ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่กระทำผ่านอินเทอร์เน็ต
และนั่นเป็นช่องโหว่ที่ทำให้ผู้คนสามารถปลอมเป็นตัวคุณได้
หากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวคุณมากพอ ตัวอย่างที่เกิดขึ้นมาแล้ว
คือกรณีของนายอับราฮัม อับดุลลาห์ ซึ่งถูกตำรวจจับกุมในข้อหาโจรกรรม ”ตัวตน" (identity) ของดารา และผู้มีชื่อเสียง
เพื่อนำไปแอบอ้างหาเงินผ่านทางระบบออนไลน์และวิธีการอื่นๆ
ขณะถูกจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจพบนิตยสาร ฉบับแสดงรายชื่อผู้ที่ร่ำรวยที่สุด
400 อันดับแรกของอเมริกา นอกจากนี้อับดุลลาห์ยังมี
หมายเลขบัตรประกันสังคม หมายเลขบัตรเครดิต ข้อมูลบัญชีในธนาคาร
หรือแม้แต่ชื่อก่อนแต่งงานของมารดาเหล่าคนดังทั้งหลาย เช่น สตีเวน สปีลเบิร์ก
โอปราห์ วินฟรีย์ และมาร์ธา สจ๊วต
ว่ากันว่าเขาสามารถทำเงินได้นับล้านเหรียญสหรัฐจากข้อมูลที่เขามีในมือ
หนึ่งในกรณีที่เป็นข่าวคือการปลอมอีเมล์อ้างตัวป็น โธมัส ซีเบล
ผู้ก่อตั้งบริษัทซีเบล ซิสเต็มส์ โดยส่งไปยังเมอร์ริล ลินช์ เพื่อขอให้โอนเงิน 10
ล้านเหรียญเข้าบัญชี
คดีของอับดุลลาห์กลายเป็น
เรื่องที่คนทั้งสหรัฐให้ความสนใจ เอฟบีไอประมาณตัวเลขไว้ว่าทุกๆ
ปีชาวอเมริกันถูกโจรกรรมตัวตนมากกว่า 500,000 ราย ปัจจุบัน
ตัวเลขที่สูงลิ่งนี้ทำให้บริษัทประกันบางแห่งเริ่มเสนอขายกรมธรรม์คุ้มครอง
ตัวตนกันแล้ว หลายคนอาจกลัวว่าผู้ร้ายอาจนำตัวตนของคุณไปใช้ก่ออาชญากรรมบนอินเทอร์เน็ต
แต่ที่น่ากลัวที่สุดในเรื่องนี้
เห็นจะเป็นกรณีที่ผู้ร้ายใช้ตัวตนของผู้อื่นเมื่อถูกจับกุม
หากเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายไหวตัวไม่ทัน ตัวตนของเหยื่อจะมีคำว่า ติดตัวไปตลอด กว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
ก็ยากที่จะแก้ไขเสียแล้ว
การโจรกรรมตัวตนนี้มักเริ่มจากวิธีที่ไม่ต้องอาศัยระบบออนไลน์ เช่น
การเฝ้าดูพฤติกรรมของเหยื่อ การค้นขยะหาเศษเอกสารที่เหยื่ออาจจะทิ้ง
เมื่อได้ตัวตนของเหยื่อแล้ว
ขั้นต่อไปจึงเป็นการอาศัยระบบออนไลน์เพื่อทำธุรกรรมต่างๆ ครั้งหนึ่ง ชาร์ล กลูอิค
ทำกระเป๋าเงินหล่นหาย ผู้ร้ายที่พบกระเป๋าเงินดังกล่าว
นำใบขับขี่ของเขาไปทำบัตรเครดิต ใบในชื่อของกลูอิค
และใช้บัตรเครดิตไปรูดจ่ายเงินไปกว่า 30,000 เหรียญสหรัฐ คุณจะปลอมตัวเป็นใครก็ได้หากคุณให้ใช้คอมพิวเตอร์เป็น” เขากล่าว
------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น