วันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2560

สวดภาวนาด้วยความเชื่อ


 
อย่าประเมินพลังอำนาจของการสวดภาวนาต่ำเกินไป  ยากอบ 5:16-18 กล่าวว่า “...คำภาวนาของผู้ชอบธรรมมีพลังอำนาจมากและมีประสิทธผล  เอลียาห์ก็เป็นคนธรรมดาเหมือนเรา  ท่านสวดาภาวนาด้วยสิ้นสุดจิตใจวอนขออย่าให้มีฝนตก  และฝนก็ไม่ตกบนแผ่นดินอิสราแอลเป็นเวลาสามปีครึ่ง  ท่านสวดภาวนาอีกครั้งหนึ่งและสวรรค์ก็ประทานฝนให้ตกลงมาทำให้แผ่นดินเกิดผลผลิตงอกงาม”  พระเป็นเจ้าทรงฟังคำภาวนาอย่างแน่นอนและทรงตอบสนองคำภาวนาเหล่านั้น

พระเยซูเจ้าทรงสอนว่า “...เราบอกความจริงแก่ท่านว่า  ถ้าท่านมีความเชื่อเพียงเท่าเมล็ดมัสตาดเล็กๆ  ท่านจะสามารถย้ายภูเขา จากที่นี่ไปที่นั่น และมันก็จะย้าย  ไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้สำหรับท่าน” (มท. 17:20) และ 2 โครินทร์ 10:4-5 บอกเราว่า “อาวุธที่เราใช้ต่อสู้ไม่ใช่อาวุธของโลกนี้ ตรงกันข้าม  พวกมันเป็นอาวุธจากสวรรค์ที่ทำลายอำนาจของศัตรู  เราทำลายการโต้เถียงและการโอ้อวดทุกชนิดที่ต่อสู้กับความรู้ของพระเป็นเจ้า  และเราทำลายความสงสัยในความคิด ทำให้มันเชื่อฟังพระคริสตเจ้า”  พระคัมภีร์ยังกระตุ้นเตือนเราว่า “จงอธิษฐานภาวนาอยู่เสมอ  ขอพระจิตเจ้าทรงดลใจคำอธิษฐานวอนขอต่างๆทุกโอกาส  จงตื่นเฝ้า  อย่าท้อถอยที่จะวอนขอเพื่อบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย” (อฟ. 6:18)

พลังอำนาจจากการสวดภาวนาของเรานั้น  เกิดจากพระเป็นเจ้าผู้ทรงฟังคำภาวนาของเรา  ใน 1ยอห์น 5:14-15 บอกเราว่า “ความมั่นใจของเราต่อพระเป็นเจ้ามีอยู่ว่า  ถ้าเราวอนขอสิ่งใดที่เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์  พระองค์จะทรงฟังเรา  และถ้าเรารู้ว่าพระองค์ทรงฟังสิ่งที่เราวอนขอ ไม่ว่าเราจะวอนขอสิ่งใด  เราย่อมรู้ว่า เราจะได้รับตามที่เราวอนขอนั้น” เหตุนี้ ไม่ว่าผู้ใดจะวอนขอสิ่งใด ด้วยจุดประสงค์อันใด พระเป็นเจ้าจะทรงประทานตามวอนขอก็ต่อเมื่อสิ่งนั้นเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์เท่านั้น พระองค์อาจไม่ประทานให้ตามที่เราวอนขอเสมอไป แต่จะทรงประทานให้เพื่อประโยชน์ที่ดีและเหมาะสมที่สุดสำหรับเรา  เมื่อความปรารถนาของเราสอดคล้องกับน้ำพระทัยของพระองค์ และเราจะเข้าใจเมื่อถึงเวลา  ดังนั้นเมื่อเราสวดภาวนาด้วยสุดหัวใจของเราวอนขอสิ่งที่สอดคล้องกับน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า  พระองค์จะทรงตอบสนองคำภาวนาของเราอย่างแน่นอน

เราต้องไม่สวดภาวนาเหมือนกับ “การพร่ำบ่นคาถา” การที่ได้รับการตอบสนองต่อคำอธิษฐานภาวนาของเรานั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับการใช้คำพูดที่สวยหรู  และไม่มีคำพูดหรือประโยคใดๆที่เฉพาะเจาะจงเพื่อทำให้พระเป็นเจ้าทรงตอบสนองการวอนขอของเรา  ในทางตรงกันข้าม พระเยซูเจ้าทรงตำหนิคนที่สวดภาวนาซ้ำไปซ้ำมา “เมื่อท่านอธิษฐานภาวนา  จงอย่าทำเหมือนคนต่างศาสนา  เขาคิดว่าถ้าเขาพูดมากพระเจ้าจะทรงสดับฟัง อย่าทำเหมือนเขาเลย เพราะพระบิดาทรงทราบแล้วว่าท่านต้องการอะไรก่อนที่ท่านจะขอเสียอีก” (มท. 6:7-8)  การสวดภาวนาเป็นการสื่อสารกับพระเป็นเจ้า สิ่งที่ท่านต้องทำก็คือวอนขอความช่วยเหลือจากพระองค์ สดุดีที่ 107 28-30 เตือนเราว่า “เมื่อพวกเขาร้องขอต่อพระเป็นเจ้าในความทุกข์ยากของพวกเขา  พระองค์ก็ทรงนำพวกเขาออกมาจากความทุกข์นั้น พระองค์ทรงทำให้พายุอ่อนกำลังลง  ทรงทำให้คลื่นในทะเลเงียบสงบ แล้วพวกเขาก็ยินดีเมื่อทุกสิ่งเป็นปกติ พระองค์ทรงนำพวกเขาไปสู่ที่หลบภัยตามที่พวกเขาต้องการ”การสวดภาวนามีพลังอำนาจมากยิ่งนัก

พระเป็นเจ้าทรงประทานความช่วยจากคำอธิษฐานภาวนาในทุกสิ่งทุกเรื่องที่ผู้สวดภาวนาประสงค์  ในจดหมายถึงชาวฟิลิปปี 4:6-7 บอกเราว่า “อย่ากระวนกระวายใจถึงสิ่งใดเลย จงทูลพระเจ้าให้ทรงทราบถึงความปรารถนาทุกอย่างของท่านโดยคำอธิษฐาน การวอนขอพร้อมด้วยการขอบพระคุณ แล้วสันติสุขของพระเป็นเจ้าซึ่งเกินสติปัญญาจะเข้าใจได้นั้น จะคุ้มครองดวงใจและความคิดของท่านไว้ในพระคริสตเยซู” ถ้าคุณต้องการตัวอย่างของการอธิษฐานภาวนา ให้คุณอ่าน พระคัมภีร์ มัททิว 6:9-13  ซึ่งเป็นบทอธิษฐานภาวนาที่พระเยซูเจ้าทรงสอน  นั่นคือ “บทข้าแต่พระบิดา”  บทภาวนานี้เป็นตัวอย่างของการอธิษฐานภาวนาและการวอนขอที่เราควรทำ  อันได้แก่  นมัสการพระเป็นเจ้า , วางใจในพระองค์ , บอกสิ่งที่เราต้องการ , สารภาพความผิดบาปของเรา , วอนขอการปกป้องจากพระเป็นเจ้า และอื่นๆ  สวดภาวนาแบบนี้โดยใช้คำพูดจากใจของคุณเอง

พระวาจาของพระเป็นเจ้าเต็มไปด้วยการอธิบายถึงอำนาจของการสวดภาวนาในสถานการณ์ต่างๆ พลังอำนาจของการสวดภาวนาสามารถเอาชนะศัตรู (สดุดี 6:9-11)  เอาชนะความตาย (2 พงศ์กษัตริย์ 4:3-36) ช่วยเยียวยารักษาความเจ็บป่วย (ยากอบ 5:14-15) และขับไล่ปีศาจ (มาร์โก 9:29) โดยอาศัยการสวดภาวนา พระเป็นเจ้าทรงเปิดตาใจของเรา  เปลี่ยนแปลงหัวใจ  เยียวยารักษาบาดแผล และประทานสติปัญญา (ยอกอบ 1:5)  อย่าประเมินพลังอำนาจของการสวดภาวนาไว้ต่ำเกินไป  เพราะพลังอำนาจนั้นมาจากฤทธิอำนาจของพระเป็นเจ้าผู้สรรพานุภาพ พระเป็นเจ้าแห่งสากลจักรวาล ในหนังสือดาเนียล 4:35 บอกว่า “สำหรับพระองค์ประชากรของโลกนับว่าไร้ค่า พระองค์ทรงกระทำตามที่ทรงพอพระทับท่ามกลางสวรรค์และประชากรของโลกด้วย ไม่มีผู้ใดยับยั้งพระหัตถ์ของพระองค์ได้  หรือถามพระองค์ได้ว่า พระองค์ทรงกระทำสิ่งใด
***************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น