วันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2560

อำนาจแห่งการสวดภาวนาด้วยความเชื่อ


มารดาของคุณพ่อเฮอร์แมน โคเฮนเสียชีวิตลง โดยไม่ได้รับศีลล้างบาป  ในสายตาของผู้ไม่มีความเชื่อ  นางเสียชีวิตในฐานะสตรีชาวยิวผู้ไม่เชื่อในพระเยซูคริสต์  คุณพ่อเฮอร์แมนได้สวดภาวนามากมายอุทิศแก่มารดา

ผมได้แปลเรื่องราวชีวิตของคุณพ่อเฮอร์แมนนี้ ซึ่งน่าสนใจสำหรับพวกเราทุกคนที่กำลังสวดภาวนาเพื่อวิญญาณที่ดูเหมือนจะสิ้นหวังที่จะได้รับพระหรรษทานในการกลับใจ

คุณพ่อเฮอร์แมนได้มอบถวายมารดาของท่านแก่แม่พระเป็นร้อยๆครั้งและได้สวดภาวนามากมายเพื่อความรอดของมารดา ท่านไม่เคยสิ้นหวังในกรณีของมารดาของท่านเลย

Rev. Fr. Hermann Cohen, O.C.D.

วาระสุดท้ายของ นางโคเฮนมาถึงเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 1855  ในเวลาเดียวกัน คุณพ่อเฮอร์แมน โคเฮน กำลังเทศน์ในโบสถ์สำหรับเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตสมภพที่เมืองลิยอง (ฝรั่งเศส) และท่านได้บอกเพื่อนของท่านให้ทราบข่าวการเสียชีวิตของมารดาของท่านว่า

“พระเจ้าทรงทำให้ผมเศร้าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง แม่ที่น่าสงสารของผมเสียชีวิตแล้ว...และผมรู้สึกหวั่นไหวไม่แน่ใจ  อย่างไรก็ตามเราต้องสวดภาวนามากๆด้วยความหวังว่าจะช่วยวิญญาณของแม่ของผมให้ได้อยู่กับพระเจ้า ในเวลานี้เราไม่อาจรู้ได้ว่าจะเป็นอย่างไร..”

เราคงจะพอเข้าใจความเจ็บปวดของคุณพ่อเฮอร์แมนเมื่อท่านทราบข่าวการเสียชีวิตของมารดาของท่าน  ทุกวันท่านได้สวดภาวนาเป็นอันมากเพื่อขอให้มารดาของท่านกลับใจ  แต่เธอก็เสียชีวิตเสียก่อนก่อนที่จะได้รับศีลล้างบาป.....

คุณพ่อเฮอร์แมนได้เขียนไว้ว่า “ผมก็มีแม่เหมือนกัน และผมปล่อยให้เธอติดตามพระเยซูคริสต์ด้วยตัวเธอเอง  แต่เธอไม่เรียกผมว่า “ลูกรักของแม่” อีกต่อไปแล้ว  ผมของเธอเปลี่ยนเป็นสีเงินยวง มีรอยย่นที่ใบหน้า และผมก็กลัวว่าเธอจะเสียชีวิต  โอ ผมไม่อยากเห็นเธอเสียชีวิตก่อนที่เธอจะได้รักพระเยซูคริสต์เลย  เป็นเวลาหลายปีที่ผมเฝ้ารอคอยแม่ของผมเหมือนกับที่นางโมนิการอคอยออกัสติน...”

ดูเหมือนพระเจ้าจะไม่ทรงฟังคำภาวนาทั้งหมดของคุณพ่อเฮอร์แมน และปฏิเสธความรักและความปราถนาของท่าน  ความเชื่อและความรักต่อพระเจ้าของคุณพ่อเฮอร์แมนถูกทดสอบอย่างหนัก  ความเศร้าเสียใจของท่านมากมายนัก แต่ความหวังในพระทัยดีอันไม่มีที่สิ้นสุดของพระเจ้าของท่านยังคงอยู่...

นักบุญยอห์นมารีย์ เวียนเนย์
เจ้าอาวาสแห่งอารส

ในเวลาต่อมา คุณพ่อเฮอร์แมนมอบความเศร้าเสียใจเกี่ยวกับการเสียชีวิตของมารดาต่อเจ้าอาวาสแห่งอารส มารดาซึ่งเสียชีวิตโดยยังไม่ได้รับพระหรรษทานแห่งศีลล้างบาป ท่านเดินทางไปพบกับเจ้าอาวาสแห่งอารส  ท่านเจ้าอาวาสตอบว่า  “จงมีความหวัง”....“ความหวัง  ซึ่งวันหนึ่งท่านจะได้รับ  ในวันฉลองการปฏิสนธินิรมลของแม่พระท่านจะได้รับจดหมายฉบับหนึ่งที่บรรเทาใจท่านเป็นอย่างยิ่ง”

หกปีแห่งการรอคอย

คำพูดของท่านเจ้าอาวาสแห่งอารสเกือบถูกลืมไปหมดสิ้นแล้ว ในวันที่ 8 ธันวาคม 1861 หกปีต่อมาหลังจากความตายของมารดา  คุณพ่อท่านหนึ่งแห่งคณะ the Company of Jesus ได้ยื่นซองจดหมายให้แก่คุณพ่อเฮอร์แมน

(ผู้เขียนจดหมายฉบับนี้เสียชีวิตในฐานะผู้ศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่ง  เธอเป็นนักบวชที่มีชื่อเสียงและได้สร้างผลงานไว้ด้วยการเขียนหนังสือเกี่ยวกับศีลมหาสนิท)

ในจดหมายเขียนว่า

“วันที่ 18 ตุลาคม หลังจากรับศีลมหาสนิท ฉันพบตัวเองอยู่ในช่วงเวลาความเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าของเรา พระองค์ทรงให้ฉันรู้สึกถึงการปรากฏของพระองค์ในศีลมหาสนิทแห่งความรักของพระองค์ ซึ่งทำให้ดูเหมือนว่าความเชื่อไม่เป็นสิ่งจำเป็นอีกต่อไปเพื่อที่จะเชื่อถึงพระองค์

ต่อมา พระองค์ทรงให้ฉันได้ยินพระดำรัสและทรงประสงค์จะอธิบายความสัมพันธ์บางอย่างที่เกี่ยวกับการสนทนากับบางคนของฉันในคืนก่อน

ฉันจำได้ว่า ในการสนทนานั้น เพื่อนคนหนึ่งของฉันแสดงความประหลาดใจเกี่ยวกับคำสัญญาของพระคริสตเจ้าที่ว่า จะทรงประทานทุกสิ่งแก่ผู้ที่สวดภาวนาวอนขอ  แต่ทำไมจึงทรงนิ่งเฉยต่อการสวดภาวนาตามคำขอของคุณพ่อเฮอร์แมน ผู้ซึ่งได้มาแสดงความต้องการหลายครั้งให้สวดภาวนาเพื่อการกลับใจของมารดาของท่าน ความประหลาดใจของเพื่อนของฉันนั้นเกินเลยจนกลายเป็นความไม่พอใจ  และฉันก็มีความยุ่งยากในการอธิบายให้เธอเข้าใจว่า เราต้องเคารพในพระยุติธรรมของพระเจ้าและต้องไม่พยายามไปแทรกแซงในเรื่องนี้ซึ่งเป็นความลับของพระเจ้า

ฉันถามพระเยซูเจ้าด้วยความกล้าว่า “เหตุใดพระองค์ผู้ทรงความดีโดยพระองค์เอง จึงสามารถปฏิเสธคำภาวนาตามคำขอของคุณพ่อเฮอร์แมนได้เล่า ทำไมจึงไม่ทรงทำให้มารดาของท่านกลับใจ?”

และพระองค์ทรงตอบว่า

“ทำไมอันนาจึงต้องการรู้ความลับแห่งพระยุติธรรมของเราเสมอ  และทำไมเธอจึงพยายามแทรกแซงความลึกลับที่เธอไม่สามารถเข้าใจได้เล่า?”

จงบอกเธอว่า เราไม่ได้เป็นหนี้พระหรรษทานของใคร  พระหรรษทานที่เราจะประทานให้แก่ผู้ที่เราพอใจ  ด้วยการกระทำเช่นนี้เราจึงไม่หยุดที่จะทำในสิ่งที่ยุติธรรม และเราเป็นความยุติธรรมด้วยตัวของเราเอง

แต่เพื่อที่จะทำให้เธอได้รู้ว่า นอกจากทำตามสัญญาที่ให้ไว้แก่ผู้สวดภาวนาแล้ว  เราจะทำให้สวรรค์และแผ่นดินประหลาดใจอีกด้วย  และเธอจะได้รู้ว่า การสวดบทภาวนาที่ประกอบด้วยพระสิริรุ่งโรจน์และความรอดของเราเพื่อจุดประสงค์ในการช่วยวิญญาณนั้นจะได้รับการสดับฟังจากเราก็ต่อเมื่อเป็นการสวดภาวนาที่มีคุณภาพอันจำเป็น

พระองค์ตรัสต่อไปว่า “และเพื่อพิสูจน์ให้เธอเห็นในความจริงข้อนี้ เราปรารถนาให้ทุกคนรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลาที่มารดาของคุณพ่อเฮอร์แมนเสียชีวิต”

พระเยซูเจ้าทรงส่องสว่างจิตใจของฉันด้วยแสงรังสีแห่งสวรรค์และฉันบังเกิดความเข้าใจหรือพูดได้ว่าฉันมองเห็นในพระองค์ในสิ่งที่ฉันต้องการจะเข้าใจ

ในช่วงเวลานั้น ขณะที่มารดาของคุณพ่อเฮอร์แมนใกล้จะสิ้นลมหายใจครั้งสุดท้าย  เธอดูเหมือนจะหมดสิ้นการรับรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง เกือบจะไร้ซึ่งชีวิตแล้ว  พระนางมารีย์ พระมารดาผู้ทรงพระทัยดีของเรา ทรงปรากฏพระองค์เบื้องหน้าพระบุตรของพระนาง  และทรงหมอบกราบแทบพระบาท พระนางตรัสต่อองค์พระบุตรว่า “โปรดทรงอภัยและมีพระเมตตาด้วยเถิด โอ องค์พระบุตรของแม่ โปรดเมตตาต่อวิญญาณดวงนี้ที่กำลังจะไปสู่นรก  วิญญาณนี้กำลังจะสูญเสียไป,,,สูญเสียไปชั่วนิรันดร  แม่ขอวิงวอนต่อพระองค์ โปรดทรงกระทำต่อมารดาของผู้รับใช้เฮอร์แมนของแม่เหมือนที่ทรงปรารถนาจะกระทำต่อพระองค์เองด้วยเถิด  ถ้าหากพระองค์ทรงเป็นเขาและนางเป็นมารดาของพระองค์  วิญญาณของมารดาของเขาย่อมเป็นสิ่งล้ำค่าที่สุดของเขา  เขาได้มอบถวายมารดาของเขาแก่แม่เป็นพันๆครั้ง เขาได้มอบถวายมารดาของเขาแด่ดวงหทัยอันอ่อนโยนและดวงหทัยอันห่วงใยของแม่  แม่จะทนดูเธอต้องอยู่ในนรกได้อย่างไรเล่า? อย่า อย่าเลย วิญญาณดวงนี้เป็นของแม่  แม่ขอเรียกร้องสิทธิว่าวิญญาณนี้เป็นมรดกของแม่ที่ได้มาจากพระโลหิตของพระองค์และได้มาจากความทุกข์ทรมานของแม่ณ.แทบกางเขนของพระองค์”

เมื่อคำวอนขออันศักดิ์สิทธิ์ของพระนางมารีย์สิ้นสุดลง  พระหรรษทานอันร้อนแรงทรงอานุภาพได้หลั่งไหลออกมาจากแหล่งที่มาของพระหรรษทานทุกชนิด  จากดวงพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้าของเรา  หลั่งลงมาสู่วิญญาณของสตรีชาวยิวที่กำลังจะสิ้นชีวิตและมีชัยชนะต่อความดื้อรั้นและการต่อต้านของเธอ

วิญญาณดวงนี้เปลี่ยนแปลงไปด้วยความรักต่อพระเยซูเจ้า พระผู้ทรงใช้พระเมตตาของพระองค์เชื้อเชิญเธอ  เธอยื่นแขนออกไปหาพระองค์และพูดกับพระองค์ “โอ พระเยซูเจ้า พระเจ้าของบรรดาคริสตชน  พระเจ้าที่ลูกชายของข้าพเจ้าเทิดทูนบูชา  ข้าพเจ้าเชื่อแล้ว  ข้าพเจ้าหวังในพระองค์ โปรดทรงสงสารข้าพเจ้าด้วยเทอญ”

เสียงร้องนี้ มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่ทรงได้ยิน  เสียงที่ออกมาจากส่วนลึกของหัวใจของสตรีที่กำลังเสียชีวิต เสียงที่แสดงออกอย่างจริงใจเสียใจในบาปของเธอ  ปรารถนาที่จะรับศีลล้างบาป  แสดงออกถึงความปรารถนาที่จะเข้าสู่พระศาสนาอันศักดิ์สิทธิ์ถ้าหากเธอสามารถกลับมามีชีวิตได้อีก

ความเชื่อและความหวังในพระเยซูเจ้าเป็นความรู้สึกแห่งความปรารถนาครั้งสุดท้ายของวิญญาณดวงนี้  ในเวลานั้นเองวิญญาณของเธอก็ถูกนำไปอยู่เบื้องหน้าพระบัลลังก์พระเมตตาแห่งสวรรค์ ได้ทำลายความเชื่อมโยงของวิญญาณเธอกับที่คุมขังแห่งเนื้อหนังของเธอ  เธอมาอยู่แทบพระบาทของพระองค์ผู้ทรงได้เป็นพระผู้ไถ่ของเธอ ก่อนที่เธอจะถูกพิพากษา”

หลังจากที่สิ่งเหล่านี้ถูกแสดงให้แก่ฉันแล้ว  พระเยซูเจ้าตรัสว่า

“ขอให้สิ่งนี้เป็นที่ประจักษ์แก่คุณพ่อเฮอร์แมนเถิด มันเป็นสิ่งปลอบประโลมใจที่เราปรารถนาจะบรรเทาความเศร้าของเขา  เพื่อที่เขาจะได้อวยพร และอวยพรในทุกแห่งหน ซึ่งพระพรความดีแห่งดวงหทัยของพระมารดาของเราและอำนาจของพระนางที่มีต่อเรา”

ดิฉันซึ่งคุณพ่อเฮอร์แมนไม่เคยรู้จักเลย ซึ่งได้เขียนจดหมายนี้รู้สึกเป็นสุขใจที่คิดว่า คงทำให้คุณพ่อบรรเทาใจขึ้นบ้างและคงช่วยเยียวยาบาดแผลในหัวใจของผู้เป็นบุตรและเป็นพระสงฆ์  ฉันขอให้คุณพ่อช่วยสวดภาวนาเพื่อฉันด้วยและฉันเชื่อว่าคุณพ่อคงไม่ปฏิเสธฉันซึ่งท่านเองก็ไม่รู้จักแต่เป็นหนึ่งเดียวกับท่านในความเชื่อและความหวังอันศักดิ์สิทธิ์อย่างเดียวกัน...”

นักบุญยอห์นมารีย์ เวียนเนย์ เจ้าอาวาสแห่งอารส ได้บอกล่วงหน้าถึงหกปีเกี่ยวกับจดหมายนี้

*************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น