นิทรรศการอัศจรรย์ศีลมหาสนิท

Carlo Acutis เยาวชนชาวอิตาลีได้จัดนิทรรศการอัศจรรย์ศีลมหาสนิทซึ่งเกิดขึ้นทั่วโลกในเว็ปไซต์ของเขาและที่โบสถ์ในเมืองมิลานของอิตาลี

ที่โบสถ์ St Joseph ในเทมส์, ออกซ์ฟอร์ดไชร์ ประเทศอังกฤษ มีการจัดนิทรรศการที่ไม่ธรรมดาขึ้น โดยสตรีผู้หนึ่งชื่อ Anna Johnstone  นิทรรศการแสดงอัศจรรย์ศีลมหาสนิททั้งหมด 60 กรณีที่เกิดขึ้นทั่วโลก (อัศจรรย์ศีลมหาสนิททั่วโลกมีทั้งหมด 160 กรณี) อีกทั้งมีการประกอบพิธีเคารพศีลมหาสนิททุกวันด้วย  นิทรรศการที่จัดขึ้นนี้มีจุดกำเนิดจากแรงบันดาลใจที่ได้รับจากชีวิตของเยาวชนชาวอิตาลีผู้หนึ่งชื่อ Carlo Acutis  เขาเสียชีวิตในปี 2006 ด้วยอายุ 15 ปี และมีการเสนอชื่อและชีวประวัติของเขาโดยอัครสังฆมณฑลมิลานเพื่อการสถาปนาเป็นบุญราศี  คาร์โลเกิดในปี 1991 เขาเป็นเด็กธรรมดาเหมือนเด็กทั่วไป ชอบเล่นกีฬา ชอบความสนุกสนานและยังชอบคอมพิวเตอร์เป็นพิเศษด้วย แต่เขาก็ได้พัฒนาความเชื่อต่อพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท  เขารับศีลมหาสนิททุกวัน ไปสารภาพบาปสัปดาห์ละครั้งและสวดสายประคำอย่างสม่ำเสมอ

นิทรรศการนี้เปิดให้เข้าชมฟรีสามารถติดตามได้จากเว็ปไซต์ www.carloacutis.com

อันนา ผู้จัดนิทรรศการ เล่าว่า ในปี 2015 เธอมีความยุ่งยากในชีวิตเป็นเวลานานถึง 18 เดือน รวมทั้งปัญหาด้านการเงินด้วย เธอวอนขอพระเจ้าให้ช่วยชี้แนวทางแก่เธอ เธอทำนพวารถึงสองครั้ง ครั้งหนึ่งเป็นนพวารต่อนักบุญยอแซฟ และอีกครั้งเป็นนพวารต่อนักบุญเทเรซา ในวันที่เก้าของนพวารเหล่านี้ เธอได้พบและพูดคุยกับบิดาของคาร์โลซึ่งอยู่ในอัสซีซีของอิตาลีโดย ผ่านทางโปรแกรม Skype ของคอมพิวเตอร์ เธอได้รับรู้เรื่องราวของพี้น้องฝาแฝดสองคนของเขา และรู้สึกประทับใจมาก เธอบอกว่า “ความอ่อนโยน ความเรียบง่าย ความบริสุทธิ์และหัวใจแบบมิชชันนารีของคาร์โลทำให้ฉันคิดถึงนักบุญเทเรซา แห่งลีซีเออร์”

แล้วอะไรที่นำไปสู่การจัดนิทรรศการขึ้นที่เทมส์?  อันนาเล่าว่า ถึงแม้ขณะนี้เธอจะอาศัยอยู่ที่อัสซีซี แต่เธอก็มีบ้านอยู่ที่เทมส์ตั้งแต่เมื่อสิบปีที่แล้ว  ในปี 2016 เธอได้เสนอแนะคุณพ่อ Fr David Hartley เจ้าอาวาสของโบสถ์เซนต์โยเซฟให้มาแสวงบุญที่อัสซีซี  และต่อมาไม่กี่เดือน คุณพ่อและผู้แสวงบุญอีก 17 คนก็ได้มาแสวงบุญที่นี่ เมื่อเวลาของการแสวงบุญสิ้นสุดลง ได้มีการสวดภาวนาเบื้องหน้าศีลมหาสนิท  อันนารู้สึกได้รับการดลใจให้ถามคุณพ่อเดวิดว่า ท่านต้องการจัดนิทรรศการอัศจรรย์ศีลมหาสนิทขึ้นที่เทมส์หรือไม่? คุณพ่อเดวิดรู้สึกกระตือรือร้นที่จะทำตาม

อันนายังได้เล่าชีวประวัติของคาร์โลซึ่งทำให้เขาได้รับการประกาศให้เป็นผู้น่าเคารพ(Servant of God) ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกสำหรับการพิจารณาเป็นบุญราศีและนักบุญ  ถึงแม้พ่อแม่ของคาร์โลจะไม่ใช่ผู้ศรัทธาเคร่งครัดในศาสนามากนัก  แต่คาร์โลกก็เริ่มมีประสบการณ์ของความศรัทธาต่อศีลมหาสนิท เมื่ออายุ 11 ปีเขาได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับอัศจรรย์ศีลมหาสนิทที่มีชื่อเสียงแห่งแลนซีอาโนที่เกิดขึ้นในปีค.ศ.750  เขายังได้ศึกษาอัศจรรย์ศีลมหาสนิทในที่อื่นๆด้วย  คาร์โลคิดว่าถ้าประชาชนทั่วไปได้รู้เรื่องราวอัศจรรย์ศีลมหาสนิทแห่งแลนซีอาโนและที่อื่นๆแล้ว ก็จะเข้าใจได้เป็นอย่างดีว่าพระคริสตเจ้าทรงสถิตย์ในศีลมหาสนิทบนพระแท่นอย่างแท้จริง และจิตใจของพวกเขาก็จะเปลี่ยนไป  โบสถ์ก็จะมีผู้เข้าร่วมพิธีมิสซามากขึ้น คาร์โลได้ศึกษารวบรวมเรื่องราวอัศจรรย์ศีลมหาสนิทที่ได้รับการรับรองจากพระศาสนจักรด้วยตนเองและนำเรื่องราวเหล่านี้ไปบรรจุไว้ในเว็ปไซต์ที่เขาสร้างขึ้น สามารถเข้าไปชมได้ที่ www.miracolieucaristici.org

คาร์โลเสียชีวิตด้วยโรคลูคีเมีย (มะเร็งในเม็ดเลือด)  กระบวนการเสนอชื่อของคาร์โลดำเนินไปอย่างรวดเร็ว มีผู้มาแสวงบุญที่บ้านของคาร์โลในมิลานจากทั่วโลกหลังจากที่ได้เข้าชมนิทรรศการในเว็ปไซต์ของเขาหรือจากที่โบสถ์

อันนาบอกว่านิทรรศการของคาร์โล “ทำให้ความเชื่อของฉันเข้มแข็งและลึกซึ้งมากขึ้น มีความจริงมากมายที่เชื่อมโยงกับอัศจรรย์ศีลมหาสนิทเหล่านี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สามารถอธิบายได้ทางวิทยาศาสตร์”

นิทรรศการซึ่งจัดขึ้นที่เทมส์จะมีการประกอบพิธีเคารพศีลมหาสนิท 60 ชั่วโมงทุกสัปดาห์ มีประชาชนมาเข้าร่วมมากมาย อันนากล่าวแสดงความรู้สึกว่า “มันเหมือนกับได้อยู่ปากประตูสวรรค์ ทำให้รู้สึกถึงการปรากฏของพระเจ้าของเรา”

อันนาวางแผนการณ์อย่างไรในอนาคตเกี่ยวกับการจัดนิทรรศการนี้?  อันนาได้ติดต่อกับการประชุมพระสังฆราชแห่งอังกฤษและเวลส์  และหวังว่าพวกท่านจะสนใจที่จะเป็นเจ้าภาพจัดนิทรรศการนี้ในการประชุมเคารพศีลมหาสนิทที่จะจัดขึ้นที่ลิเวอร์พูลในปี 2018 นี้ อันนากล่าวว่า “ฉันอยากจะให้พวกท่านเป็นเจ้าภาพจัดนิทรรศการในอาสนวิหารเวสมินเตอร์ด้วย ซึ่งเป็นอาสนวิหารประจำเมืองแห่งพระโลหิตของพระคริสตเจ้า”

อันนาบอกว่า ที่โบสถ์วัลซิงแฮมส์ได้เป็นเจ้าภาพจัดนิทรรศการเมื่อฤดูร้อนนี้ เธอบอกว่าตัวเธอเป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยกระตุ้นความศรัทธาต่อศีลมหาสนิทของโบสถ์เท่านั้น เธอพูดว่า “ในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนของพระศาสนจักรที่ร้ายแรงนี้ นี่เป็นวิธีที่นำบางสิ่งบางอย่างที่เรียบง่าย สวยงามและเป็นความเชื่อพื้นฐานมาสู่ประชาชนทั่วไปผู้เป็นประชากรของพระเจ้า”

***************