เมื่อวันพุธที่
6 ธันวาคม 2017 ประธานาธิบดีโดนัลด์
ทรัมป์ได้สร้างความประหลาดใจให้แก่ประชาคมโลกอีกครั้งด้วยการประกาศว่าจะย้ายสถานฑูตสหรัฐจากเมืองเทลอาวิฟของอิสราเอล
มาอยู่ที่กรุงเยรูซาเล็ม
ซึ่งเท่ากับเป็นการประกาศว่า สหรัฐยอมรับว่ากรุงเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล
โดนัลด์ ทรัมป์เป็นผู้นำประเทศคนแรกที่กล้าหาญประกาศรับรองในเรื่องนี้
ในขณะที่ประเทศอื่นๆไม่ว่าจะเป็นประเทศอาหรับในตะวันออกกลาง ประเทศมุสลิมอื่นๆทั่วโลก
และรวมทั้งประเทศในยุโรปต่างก็แสดงความเห็นคัดค้านเป็นอย่างมาก
เพราะกลัวว่าจะทำให้ชาวมุสลิมทั่วโลกไม่พอใจทำให้เกิดปัญหาความรุนแรงขึ้นได้
เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์เป็นผู้นำประเทศที่ได้เอ่ยพระนามพระเยซูเจ้าในบางโอกาส ขณะที่ผู้นำประเทศอื่นๆในยุโรปซึ่งถึงแม้ว่าจะมีศาสนาคริสต์เป็นรากเหง้าความเจริญของประเทศในประวัติศาสตร์ก็ตาม
ก็ไม่เคยอื่นพระนามพระเยซูเจ้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว
แล้วสาเหตุใดที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศรับรองกรุงเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลในตอนนี้? อันที่จริงเรื่องนี้ก็เป็นนโยบายหนึ่งในการหาเสียงเป็นประธานาธิบดีของเขาอยู่แล้ว
หรืออาจเป็นเพราะเขามีลูกเขยและลูกสะใภ้เป็นชาวยิวใช่หรือไม่?
หรือเขาต้องการเบี่ยงเบนประเด็นปัญหาต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นในรัฐสภา
ท่าทีของนายโดนัลด์
ทรัมป์ นั้นเป็นคนที่ไม่ลดราวาศอกให้ใคร อย่างเช่นกรณีของเกาหลีเหนือ
นายทรัมป์ก็ตอบโต้กับ คิม จอง อิน อย่างไม่ลดราวาศอก และการแก้ปัญหาของทรัมป์บางครั้งก็เป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้
สิ่งนี้คือลักษณะที่แท้จริงของโดนัลด์ ทรัมป์ และยังแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญของเขาด้วย
เหตุการณ์การประกาศของโดนัลด์ ทรัมป์ก่อนถึงวันคริสต์มาสนี้จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
และต้องติดตามดูผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อไป
กรุงเยรูซาเล็มถูกสร้างขึ้นเมื่อ 3,000 ปีก่อนและถือว่าเป็นนครศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า
เป็นเมืองแห่งสันติภาพ
ความหมายของชื่อเยรูซาเล็ม มีรากฐานมาจากคำว่า Uru-sa-lim ที่มีความหมายได้หลายอย่าง อาทิเช่น “เมืองแห่งสันติภาพ”
หรือ “เมืองของ(เทพเจ้า)ซาเล็ม”
แต่มีผู้แปลโดยพิจารณาจากรากศัพท์ของฮิบรู แปลว่า “ถูกครอบครองโดยสันติภาพ”
หรือ “รากฐานแห่งสันติภาพ”
แต่มีสันติภาพเกิดขึ้นเพียงน้อยครั้งในนครที่มีชื่อเสียงแห่งนี้ ในหลายศตวรรษที่ผ่านมา สถานที่นี้กลายเป็นสถานที่แห่งความขัดแย้ง ตามที่นักประวัติศาสตร์ Eric H. Cline เขียนไว้ - เยรูซาเล็มเคยถูกทำลายจนพินาศไปอย่างน้อย 2
ครั้ง ถูกยึดครองจากศัตรู 23 ครั้ง ถูกโจมตีทั้งใหญ่และเล็ก 52 ครั้ง“
ในพระคัมภีร์วิวรณ์ 16:14 กล่าวถึงเยรูซาเล็มว่า ในวันของพระเจ้าจะเกิดสงครามครั้งใหญ่ในสถานที่เรียกว่า
อามาเก็ดดอน ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากเยรูซาเล็มไป 55 ไมล์
ประกาศกซากาเรียทำนายว่าพระเยซูเจ้าจะเสด็จกลับมายังโลกบนภูเขามะกอกในกรุงเยรูซาเล็มแล้วจะเกิดความขัดแย้งไปทั่วเมือง
(Zechariah
14:1-4)
--------------------------
โดนัลด์
ทรัมป์ โชว์ลายเซ็นบนคำประกาศรับรองเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงอิสราเอล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น