วันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2560

นักบุญยอห์น มารีย์ เวียนเนย์เทศน์เกี่ยวกับไฟชำระ


 
วิญญาณในไฟชำระถูกชำระล้างให้บริสุทธ์ด้วยความทุกข์ทรมาน และพวกเราที่ยังมีชีวิตอยู่ในโลกสามารถช่วยเหลือวิญญาณนั้นได้ด้วยการสวดภาวนา การพลีกรรม และการประกอบพิธิมิสซาอุทิศแก่พวกเขา    แต่ยังมีวิญญาณในไฟชำระอีกมากมายที่ไม่มีใครคิดถึง    อาจเป็นวิญญาณของปู่ย่าตายายพ่อแม่พี่น้องหรือญาติมิตรของเราก็ได้   เพราะเราอาจลืมพวกเขาไปแล้ว   ลองมาฟังนักบุญ ยอห์น มารีย์ วีอันเนย์ เจ้าอาวาสแห่งอารส พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้

************

ทำไมพ่อจึงมาอยู่บนธรรมมาสน์ในวันนี้, พี่น้องที่รัก? พ่อกำลังจะพูดอะไรกับลูกหรือ ? อา... พ่อมาในนามของพระเป็นเจ้า. พ่อมาในนามของบรรดาวิญญาณที่น่าสงสาร, พ่อต้องการปลุกสำนึกของลูกให้รักและกตัญญูต่อพวกเขา

พ่อมาบอกให้ลูกทราบถึงความรักและความกรุณาที่พวกเขามอบให้แก่พวกลูกที่อยู่บนโลกนี้. พ่อมาเพื่อบอกลูกให้รู้ถึงความทุกข์ทรมานที่พวกเขาได้รับในไฟชำระ. พวกเขาหลั่งน้ำตาและวิงวอนขอให้ลูกสวดภาวนาและมอบกิจการดีอุทิศแก่พวกเขา. พ่อเหมือนจะได้ยินพวกเขาร้องระงมจากเบื้องลึกของขุมไฟที่กำลังเผาไหม้พวกเขา. "ช่วยบอกผู้ที่เรารักด้วย, บอกลูกๆของเรา, บอกญาติมิตรของเรา ให้เขารู้ถึงความเมินเฉยของพวกเขาซึ่งทำให้เรายังคงต้องรับทนทุกข์ทรมานอยู่ในขณะนี้. เราขอกราบลงแทบเท้าพวกเขาวิงวอนให้ช่วยสวดภาวนาเพื่อเรา. อา....ช่วยบอกพวกเขาว่า ตั้งแต่เราจากพวกเขามา. เราต้องถูกเผาไหม้อยู่ในเปลวไฟ โอ...ใครจะทำเมินเฉยได้เล่า ถ้าเขาได้รู้ถึงความทุกข์ทรมานที่เราต้องทนรับอยู่ในเวลานี้ ?

พี่น้องที่รักของพ่อ, ลูกเห็นหรือยัง, ลูกได้ยินคุณแม่ผู้อ่อนโยนผู้นั้นไหม, และคุณพ่อใจศรัทธาคนนั้น, ญาติมิตรทั้งหลายเหล่านั้น ที่ร้องขอความช่วยเหลือและวิงวอนต่อลูก? "สหายของฉัน" พวกเขาร้องเรียก "โปรดปลดปล่อยเราจากความเจ็บปวดเหล่านี้ด้วยเถิด, ท่านสามารถทำได้" พี่น้องที่รักจงพิจารณาดูสิ่งต่อไปนี้ : (1) ความทุกข์ทรมานสุดที่จะทนทานซึ่งวิญญาณในไฟชำระได้รับ และ (2) วิธีการต่างๆซึ่งเราสามารถผ่อนคลายความทุกข์ของพวกเขาได้ เช่น การสวดภาวนา การทำกิจการดี, และ เหนือสิ่งอื่นใดคือ พิธีบูชามิสซาอันศักดิ์สิทธิ์

พ่อไม่อยากเสียเวลาในการพิสูจน์ในเรื่องความมีอยู่จริงของไฟชำระแก่พวกลูกหรอก. มันเป็นการเสียเวลาเปล่าๆ. และพวกลูกก็ไม่มีใครสงสัยในเรื่องนี้ด้วย. พระศาสนาจักร,ซึ่งพระเยซูคริสตเจ้าได้ทรงสัญญาประทานพระจิตให้เป็นผู้นำทางนั้น ย่อมไม่ผิดพลาดหรือนำเราไปในทางที่ผิด พระศาสนาจักรได้สอนพวกเราเกี่ยวกับไฟชำระอย่างชัดเจน เป็นที่แน่นอนว่ามีสถานที่ที่ชำระวิญญาณให้บริสุทธิ์จากบาปก่อนที่เขาจะได้ไปสู่สวรรค์. ถูกแล้ว, พี่น้องที่รักของพ่อ, นี่เป็นเรื่องของความเชื่อ : ถ้าเราไม่สำนึกผิดกลับใจใช้โทษบาปอย่างเหมาะสมกับความหนักเบาของบาปของเรา, ถึงแม้เราจะได้รับการอภัยบาปในสถานที่แก้บาปแล้ว....เราก็ยังจะต้องไปรับการชำระล้างในสถานที่ชำระบาปนั้น......ในพระคัมภีร์มีข้อความหลายตอนที่กล่าวอย่างชัดเจนว่าถึงแม้บาปของเราจะได้รับการอภัยแล้ว, พระเป็นเจ้ายังทรงกำหนดให้เราต้องรับความทุกข์ในโลกนี้เป็นการชั่วคราวหรือไม่ก็ถูกชำระด้วยความทุกข์ทรมานในไฟชำระ.

จงดูที่อาดัมสิว่า เกิดอะไรกับท่าน. เมื่อท่านสำนึกผิดภายหลังจากที่ทำบาปและพระเป็นเจ้าทรงประทานความมั่นใจว่าได้อภัยให้กับท่านแล้ว แม้กระนั้น พระองค์ก็ยังให้ท่านต้องรับใช้โทษบาปบนโลกเป็นเวลานานถึงเก้าร้อยปี เป็นการใช้โทษบาปที่ยาวนานเกินกว่าจินตนาการของเรา ดูอีกเรื่องหนึ่ง  กษัตริย์ดาวิดได้ทรงกระทำขัดต่อพระบัญชาของพระเป็นเจ้า โดยทำการสำรวจสำมะโนครัวประชากรชาวยิว แต่เมื่อได้สติท่านก็ทราบถึงบาปที่ได้กระทำ ท่านทรุดลงกับพื้นวิงวอนต่อพระเป็นเจ้าให้ทรงอภัยแก่ท่าน พระเป็นเจ้าทรงทราบถึงความสำนึกผิดของท่าน จึงได้ให้อภัยต่อการกระทำผิดนี้ ถึงกระนั้นก็ตาม พระองค์ทรงส่งประกาศกกาดไปบอกกษัตริย์ดาวิดว่า ให้พระองค์เลือกว่าจะรับโทษอะไรในสามอย่างนี้ ซึ่งพระเป็นเจ้าทรงเตรียมไว้สำหรับพระองค์เพื่อเป็นการลงโทษความผิดของพระองค์: โทษนั้นได้แก่ โรคระบาด, สงคราม, หรือ ทุพภิกขภัย. กษัตริย์ดาวิดตรัสว่า "ให้ข้าพเจ้าตกอยู่ในพระหัตถ์ของพระเป็นเจ้า (ผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระทัยกรุณา) ยังดีกว่าตกอยู่ในมือของมนุษย์" ท่านเลือกโรคระบาด, ซึ่งระบาดนานสามวัน คร่าชีวิตชาวอิสราเอลไป 70,000 คน ถ้าพระเป็นเจ้ามิได้ทรงยับยั้งเทวดาของพระองค์แล้ว ชาวอิสราเอลทุกคนจะต้องเสียชีวิตทั้งเมือง กษัตริย์ดาวิดเมื่อได้เห็นโทษอันร้ายแรงของบาปแล้ว ก็ได้วิงวอนขอต่อพระเป็นเจ้าให้ทรงลงโทษพระองค์แต่เพียงผู้เดียว และขอให้ไว้ชีวิตประชาชนชาวอิสราเอลผู้บริสุทธิ์ อนิจจา...พี่น้องสุดที่รัก....แล้วพวกเราเล่า...จะต้องทนรับความทรมานนานสักกี่ปีในไฟชำระ เราผู้มีบาปมากมาย เราผู้ที่อ้างว่าได้สารภาพบาปแล้ว แต่ยังไม่ได้ใช้โทษบาปและไม่ได้หลั่งน้ำตา? เราคิดว่าจะต้องรับโทษในชีวิตหน้านานสักกี่ปีเล่า?

อย่างไรก็ตาม เมื่อพระบิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ทรงตรัสแก่เราถึงความทุกข์ทรมานที่พวกเขาได้รับในสถานที่แห่งนั้นซึ่งดูเหมือนจะเท่าเทียมกับพระมหาทรมานของพระเยซูคริสตเจ้าพระเจ้าของเราที่ทรงได้รับ พ่อจะสามารถบรรยายให้พวกลูกได้เห็นถึงความทุกข์ทรมานของวิญญาณที่น่าสงสารได้อย่างไรเล่า? แต่ก็เป็นที่แน่นอนว่า ถ้าพระมหาทรมานเพียงเล็กน้อยของพระเยซูเจ้าของเรานั้นจะถูกแบ่งปันไปให้มนุษย์ทุกคน พวกเขาก็จะต้องตายไปในความทารุณของความทรมานนั้น เปลวไฟของไฟชำระเป็นชนิดเดียวกับไฟในนรก ความแตกต่างระหว่างไฟทั้งสองก็คือไฟชำระไม่คงอยู่นิรันดร โอ...ถ้าหากพระเป็นเจ้าผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระทัยเมตตา จะทรงอนุญาตให้วิญญาณในไฟชำระสักดวงมาปรากฏในที่นี้ท่ามกลางเปลวไฟที่แผดเผาอยู่ และอนุญาตให้พวกลูกได้ลิ้มรสของความทุกข์ทรมานที่เขาได้รับ ภายในโบสถ์นี้ พี่น้องที่รัก เสียงร้องคร่ำครวญที่ดังกึกก้องและน้ำตาของเขาอาจจะทำให้หัวใจของพวกลูกอ่อนลงได้บ้างกระมัง

โอ...เรารับความทุกข์ทรมานมากเหลือเกิน...พวกเขาร้องเรียกเรา โอ..พวกท่านผู้เป็นสหายของเรา โปรดช่วยให้เราพ้นจากความทุกข์ทรมานนี้ด้วยเถิด ท่านทำได้ อา...ถ้าเพียงท่านมีประสพการณ์ที่ต้องแยกจากพระเป็นเจ้า....การแยกจากที่ช่างโหดร้ายทารุณ...การถูกเผาในไฟแห่งพระยุติธรรมของพระเป็นเจ้า........ความทุกข์โศกเหลือคณานับได้ของมนุษย์ผู้ตาย....การถูกปฏิเสธ...ทั้งๆที่รู้ว่าเราสามารถได้รับความบรรเทาจากความทุกข์นี้ได้ง่ายดายเพียงใด....โอ...ลูกๆของเรา พ่อและแม่ของเธอกำลังส่งเสียงร้องคร่ำครวญ ลูกจะยอมละทิ้งเราได้หรือ เรารักลูกมากสุดประมาณ? ลูกจะนอนหลับอย่างสุขสบายได้อย่างไรและละทิ้งเราให้อยู่ในเตียงไฟ ลูกจะสนุกสนานได้อย่างไรในขณะที่เราทุกข์ทรมานและร้องไห้คร่ำครวญทั้งวันทั้งคืน? พวกลูกได้ทรัพย์สมบัติของเรา บ้านของเรา ลูกเป็นสุขจากผลพวงของการงานของเรา และลูกก็ยังละทิ้งหลงลืมเราให้อยู่ในสถานที่แห่งความทรมานนี้ เราต้องทนทุกข์ทรมานเป็นเวลานานหลายปี....โดยไม่ได้รับการแผ่บุญกุศลมาให้สักนิด ไม่มีการทำมิสซาอุทิศให้เลยสักหน่อย ซึ่งจะช่วยปลดปล่อยเรา...ลูกสามารถผ่อนบรรเทาความทุกข์ของเราได้ ลูกสามารถเปิดประตูคุกนี้ได้ แต่ลูกก็ละทิ้งเรา โอ...ช่างโหดร้ายเหลือเกิน ความทุกข์ทรมานเช่นนี้...
 
             ถูกแล้ว พี่น้องที่รัก เมื่ออยู่ในเปลวไฟของไฟชำระ เราแต่ละคนจะเข้าใจแสงไฟนี้ต่างกันและอย่างไม่ถูกต้อง ถ้าหากจะเรียกว่าแสงไฟได้เพราะมันทำให้เราต้องทนรับความทุกข์โศกเศร้าสาหัสนัก. มนุษย์จะถูกโทษทัณฑ์อะไรหรือ, ท่านประกาศกได้กล่าวไว้ ถ้าหากพระเป็นเจ้าทรงพิพากษาเขาโดยไม่ปราณีแล้ว แม้แต่คนที่ชอบธรรมที่สุดก็ยังต้องประหวั่นพรั่นพรึง ถ้าแม้นพระเป็นเจ้ายังพบตำหนิบนดวงอาทิตย์และข้อบกพร่องในทูตสวรรค์ แล้วโทษทัณฑ์จะเป็นอะไรสำหรับมนุษย์ผู้มีบาปเล่า? และสำหรับเราผู้ทำบาปมากมายและยังไม่ได้ใช้โทษบาปอย่างเหมาะสมกับพระยุติธรรมของพระเป็นเจ้า, เราจะต้องโทษในไฟชำระนานสักกี่ปี......
**************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น