วิญญาณในไฟชำระถูกชำระล้างให้บริสุทธ์ด้วยความทุกข์ทรมาน
และพวกเราที่ยังมีชีวิตอยู่ในโลกสามารถช่วยเหลือวิญญาณนั้นได้ด้วยการสวดภาวนา การพลีกรรม
และการประกอบพิธิมิสซาอุทิศแก่พวกเขา แต่ยังมีวิญญาณในไฟชำระอีกมากมายที่ไม่มีใครคิดถึง
อาจเป็นวิญญาณของปู่ย่าตายายพ่อแม่พี่น้องหรือญาติมิตรของเราก็ได้
เพราะเราอาจลืมพวกเขาไปแล้ว ลองมาฟังนักบุญ ยอห์น มารีย์ วีอันเนย์ เจ้าอาวาสแห่งอารส พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้
************
ทำไมพ่อจึงมาอยู่บนธรรมมาสน์ในวันนี้, พี่น้องที่รัก? พ่อกำลังจะพูดอะไรกับลูกหรือ
? อา... พ่อมาในนามของพระเป็นเจ้า. พ่อมาในนามของบรรดาวิญญาณที่น่าสงสาร,
พ่อต้องการปลุกสำนึกของลูกให้รักและกตัญญูต่อพวกเขา
พ่อมาบอกให้ลูกทราบถึงความรักและความกรุณาที่พวกเขามอบให้แก่พวกลูกที่อยู่บนโลกนี้.
พ่อมาเพื่อบอกลูกให้รู้ถึงความทุกข์ทรมานที่พวกเขาได้รับในไฟชำระ. พวกเขาหลั่งน้ำตาและวิงวอนขอให้ลูกสวดภาวนาและมอบกิจการดีอุทิศแก่พวกเขา.
พ่อเหมือนจะได้ยินพวกเขาร้องระงมจากเบื้องลึกของขุมไฟที่กำลังเผาไหม้พวกเขา. "ช่วยบอกผู้ที่เรารักด้วย,
บอกลูกๆของเรา, บอกญาติมิตรของเรา ให้เขารู้ถึงความเมินเฉยของพวกเขาซึ่งทำให้เรายังคงต้องรับทนทุกข์ทรมานอยู่ในขณะนี้.
เราขอกราบลงแทบเท้าพวกเขาวิงวอนให้ช่วยสวดภาวนาเพื่อเรา. อา....ช่วยบอกพวกเขาว่า ตั้งแต่เราจากพวกเขามา.
เราต้องถูกเผาไหม้อยู่ในเปลวไฟ โอ...ใครจะทำเมินเฉยได้เล่า ถ้าเขาได้รู้ถึงความทุกข์ทรมานที่เราต้องทนรับอยู่ในเวลานี้
?”
พี่น้องที่รักของพ่อ, ลูกเห็นหรือยัง,
ลูกได้ยินคุณแม่ผู้อ่อนโยนผู้นั้นไหม, และคุณพ่อใจศรัทธาคนนั้น,
ญาติมิตรทั้งหลายเหล่านั้น ที่ร้องขอความช่วยเหลือและวิงวอนต่อลูก?
"สหายของฉัน" พวกเขาร้องเรียก "โปรดปลดปล่อยเราจากความเจ็บปวดเหล่านี้ด้วยเถิด,
ท่านสามารถทำได้" พี่น้องที่รักจงพิจารณาดูสิ่งต่อไปนี้
: (1) ความทุกข์ทรมานสุดที่จะทนทานซึ่งวิญญาณในไฟชำระได้รับ และ (2)
วิธีการต่างๆซึ่งเราสามารถผ่อนคลายความทุกข์ของพวกเขาได้ เช่น การสวดภาวนา
การทำกิจการดี, และ เหนือสิ่งอื่นใดคือ พิธีบูชามิสซาอันศักดิ์สิทธิ์
พ่อไม่อยากเสียเวลาในการพิสูจน์ในเรื่องความมีอยู่จริงของไฟชำระแก่พวกลูกหรอก.
มันเป็นการเสียเวลาเปล่าๆ. และพวกลูกก็ไม่มีใครสงสัยในเรื่องนี้ด้วย. พระศาสนาจักร,ซึ่งพระเยซูคริสตเจ้าได้ทรงสัญญาประทานพระจิตให้เป็นผู้นำทางนั้น
ย่อมไม่ผิดพลาดหรือนำเราไปในทางที่ผิด พระศาสนาจักรได้สอนพวกเราเกี่ยวกับไฟชำระอย่างชัดเจน
เป็นที่แน่นอนว่ามีสถานที่ที่ชำระวิญญาณให้บริสุทธิ์จากบาปก่อนที่เขาจะได้ไปสู่สวรรค์.
ถูกแล้ว, พี่น้องที่รักของพ่อ, นี่เป็นเรื่องของความเชื่อ
: ถ้าเราไม่สำนึกผิดกลับใจใช้โทษบาปอย่างเหมาะสมกับความหนักเบาของบาปของเรา,
ถึงแม้เราจะได้รับการอภัยบาปในสถานที่แก้บาปแล้ว....เราก็ยังจะต้องไปรับการชำระล้างในสถานที่ชำระบาปนั้น......ในพระคัมภีร์มีข้อความหลายตอนที่กล่าวอย่างชัดเจนว่าถึงแม้บาปของเราจะได้รับการอภัยแล้ว,
พระเป็นเจ้ายังทรงกำหนดให้เราต้องรับความทุกข์ในโลกนี้เป็นการชั่วคราวหรือไม่ก็ถูกชำระด้วยความทุกข์ทรมานในไฟชำระ.
จงดูที่อาดัมสิว่า
เกิดอะไรกับท่าน. เมื่อท่านสำนึกผิดภายหลังจากที่ทำบาปและพระเป็นเจ้าทรงประทานความมั่นใจว่าได้อภัยให้กับท่านแล้ว
แม้กระนั้น พระองค์ก็ยังให้ท่านต้องรับใช้โทษบาปบนโลกเป็นเวลานานถึงเก้าร้อยปี เป็นการใช้โทษบาปที่ยาวนานเกินกว่าจินตนาการของเรา
ดูอีกเรื่องหนึ่ง กษัตริย์ดาวิดได้ทรงกระทำขัดต่อพระบัญชาของพระเป็นเจ้า
โดยทำการสำรวจสำมะโนครัวประชากรชาวยิว แต่เมื่อได้สติท่านก็ทราบถึงบาปที่ได้กระทำ ท่านทรุดลงกับพื้นวิงวอนต่อพระเป็นเจ้าให้ทรงอภัยแก่ท่าน
พระเป็นเจ้าทรงทราบถึงความสำนึกผิดของท่าน จึงได้ให้อภัยต่อการกระทำผิดนี้ ถึงกระนั้นก็ตาม
พระองค์ทรงส่งประกาศกกาดไปบอกกษัตริย์ดาวิดว่า ให้พระองค์เลือกว่าจะรับโทษอะไรในสามอย่างนี้
ซึ่งพระเป็นเจ้าทรงเตรียมไว้สำหรับพระองค์เพื่อเป็นการลงโทษความผิดของพระองค์: โทษนั้นได้แก่
โรคระบาด,
สงคราม, หรือ ทุพภิกขภัย. กษัตริย์ดาวิดตรัสว่า
"ให้ข้าพเจ้าตกอยู่ในพระหัตถ์ของพระเป็นเจ้า
(ผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระทัยกรุณา) ยังดีกว่าตกอยู่ในมือของมนุษย์"
ท่านเลือกโรคระบาด, ซึ่งระบาดนานสามวัน คร่าชีวิตชาวอิสราเอลไป
70,000 คน ถ้าพระเป็นเจ้ามิได้ทรงยับยั้งเทวดาของพระองค์แล้ว
ชาวอิสราเอลทุกคนจะต้องเสียชีวิตทั้งเมือง กษัตริย์ดาวิดเมื่อได้เห็นโทษอันร้ายแรงของบาปแล้ว
ก็ได้วิงวอนขอต่อพระเป็นเจ้าให้ทรงลงโทษพระองค์แต่เพียงผู้เดียว และขอให้ไว้ชีวิตประชาชนชาวอิสราเอลผู้บริสุทธิ์
อนิจจา...พี่น้องสุดที่รัก....แล้วพวกเราเล่า...จะต้องทนรับความทรมานนานสักกี่ปีในไฟชำระ
เราผู้มีบาปมากมาย เราผู้ที่อ้างว่าได้สารภาพบาปแล้ว แต่ยังไม่ได้ใช้โทษบาปและไม่ได้หลั่งน้ำตา?
เราคิดว่าจะต้องรับโทษในชีวิตหน้านานสักกี่ปีเล่า?
อย่างไรก็ตาม เมื่อพระบิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ทรงตรัสแก่เราถึงความทุกข์ทรมานที่พวกเขาได้รับในสถานที่แห่งนั้นซึ่งดูเหมือนจะเท่าเทียมกับพระมหาทรมานของพระเยซูคริสตเจ้าพระเจ้าของเราที่ทรงได้รับ
พ่อจะสามารถบรรยายให้พวกลูกได้เห็นถึงความทุกข์ทรมานของวิญญาณที่น่าสงสารได้อย่างไรเล่า? แต่ก็เป็นที่แน่นอนว่า
ถ้าพระมหาทรมานเพียงเล็กน้อยของพระเยซูเจ้าของเรานั้นจะถูกแบ่งปันไปให้มนุษย์ทุกคน
พวกเขาก็จะต้องตายไปในความทารุณของความทรมานนั้น เปลวไฟของไฟชำระเป็นชนิดเดียวกับไฟในนรก
ความแตกต่างระหว่างไฟทั้งสองก็คือไฟชำระไม่คงอยู่นิรันดร โอ...ถ้าหากพระเป็นเจ้าผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระทัยเมตตา
จะทรงอนุญาตให้วิญญาณในไฟชำระสักดวงมาปรากฏในที่นี้ท่ามกลางเปลวไฟที่แผดเผาอยู่ และอนุญาตให้พวกลูกได้ลิ้มรสของความทุกข์ทรมานที่เขาได้รับ
ภายในโบสถ์นี้ พี่น้องที่รัก เสียงร้องคร่ำครวญที่ดังกึกก้องและน้ำตาของเขาอาจจะทำให้หัวใจของพวกลูกอ่อนลงได้บ้างกระมัง
โอ...เรารับความทุกข์ทรมานมากเหลือเกิน...พวกเขาร้องเรียกเรา
โอ..พวกท่านผู้เป็นสหายของเรา โปรดช่วยให้เราพ้นจากความทุกข์ทรมานนี้ด้วยเถิด ท่านทำได้
อา...ถ้าเพียงท่านมีประสพการณ์ที่ต้องแยกจากพระเป็นเจ้า....การแยกจากที่ช่างโหดร้ายทารุณ...การถูกเผาในไฟแห่งพระยุติธรรมของพระเป็นเจ้า........ความทุกข์โศกเหลือคณานับได้ของมนุษย์ผู้ตาย....การถูกปฏิเสธ...ทั้งๆที่รู้ว่าเราสามารถได้รับความบรรเทาจากความทุกข์นี้ได้ง่ายดายเพียงใด....โอ...ลูกๆของเรา
พ่อและแม่ของเธอกำลังส่งเสียงร้องคร่ำครวญ ลูกจะยอมละทิ้งเราได้หรือ เรารักลูกมากสุดประมาณ? ลูกจะนอนหลับอย่างสุขสบายได้อย่างไรและละทิ้งเราให้อยู่ในเตียงไฟ
ลูกจะสนุกสนานได้อย่างไรในขณะที่เราทุกข์ทรมานและร้องไห้คร่ำครวญทั้งวันทั้งคืน?
พวกลูกได้ทรัพย์สมบัติของเรา บ้านของเรา ลูกเป็นสุขจากผลพวงของการงานของเรา
และลูกก็ยังละทิ้งหลงลืมเราให้อยู่ในสถานที่แห่งความทรมานนี้ เราต้องทนทุกข์ทรมานเป็นเวลานานหลายปี....โดยไม่ได้รับการแผ่บุญกุศลมาให้สักนิด
ไม่มีการทำมิสซาอุทิศให้เลยสักหน่อย ซึ่งจะช่วยปลดปล่อยเรา...ลูกสามารถผ่อนบรรเทาความทุกข์ของเราได้
ลูกสามารถเปิดประตูคุกนี้ได้ แต่ลูกก็ละทิ้งเรา โอ...ช่างโหดร้ายเหลือเกิน ความทุกข์ทรมานเช่นนี้...
ถูกแล้ว พี่น้องที่รัก เมื่ออยู่ในเปลวไฟของไฟชำระ
เราแต่ละคนจะเข้าใจแสงไฟนี้ต่างกันและอย่างไม่ถูกต้อง ถ้าหากจะเรียกว่าแสงไฟได้เพราะมันทำให้เราต้องทนรับความทุกข์โศกเศร้าสาหัสนัก.
มนุษย์จะถูกโทษทัณฑ์อะไรหรือ, ท่านประกาศกได้กล่าวไว้ ถ้าหากพระเป็นเจ้าทรงพิพากษาเขาโดยไม่ปราณีแล้ว
แม้แต่คนที่ชอบธรรมที่สุดก็ยังต้องประหวั่นพรั่นพรึง ถ้าแม้นพระเป็นเจ้ายังพบตำหนิบนดวงอาทิตย์และข้อบกพร่องในทูตสวรรค์
แล้วโทษทัณฑ์จะเป็นอะไรสำหรับมนุษย์ผู้มีบาปเล่า? และสำหรับเราผู้ทำบาปมากมายและยังไม่ได้ใช้โทษบาปอย่างเหมาะสมกับพระยุติธรรมของพระเป็นเจ้า,
เราจะต้องโทษในไฟชำระนานสักกี่ปี......
**************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น