วันพุธที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2561

จงสรรเสริญพระเป็นเจ้า


“ให้เราสรรเสริญพระเป็นเจ้าตลอดเวลาเถิด”(ฮบ. 13:15)
 
วันที่ 28 ก.พ. 1944 หญิงสาวชาวดัทช์ชื่อ คอร์รี เทนบูมและคนในครอบครัวของเธอถูกจับและส่งตัวไปค่ายกักกันชาวยิว  ช่วงเวลานั้นนาซีกำลังยึดครองฮอล์แลนด์อยู่  ในท่ามกลางความทุกข์ยากลำบากอย่างยิ่งนี้  เบทซี่ พี่สาวของคอร์รี ได้พูดเตือนคนในครอบครัวว่า  พระคัมภีร์กล่าวว่าให้เราขอบพระคุณพระเป็นเจ้าในทุกสิ่ง  ทุกคนในครอบครัวจึงทำตามคำพูดของเธอ  พวกเขาขอบพระคุณพระเป็นเจ้า แม้แต่ในเรื่องที่ถูกรบกวนจากเห็บหมัดในที่พักของค่ายกักกันนี้  พวกเขาขอบพระคุณพระเป็นเจ้าเสมอ  และสังเกตเห็นว่ายามจะปล่อยพวกเขาให้อยู่ตามลำพังโดยไม่มาคอยควบคุม  ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถอ่านและศึกษาพระคัมภีร์ได้และยังช่วยให้คนอื่นที่ถูกจับกุมมาพร้อมกันให้รู้จักและเชื่อในพระเยซูเจ้าอีกด้วย  พวกเขามารู้ภายหลังว่าที่ยามอยู่ห่างจากพวกเขาก็เป็นเพราะเห็บหมัดนี่เอง  มองอีกด้านหนึ่ง  พระเป็นเจ้าทรงทำงานของพระองค์ในทุกสิ่งและพระองค์ทรงช่วยเหลือพวกเราด้วยวิธีการพิเศษ  ขณะที่คอร์รีและเบทซี่สรรเสริญพระเป็นเจ้า  พวกเธอก็สนใจในความยากลำบากของตัวเองน้อยลง  แต่สนใจในผู้อื่นที่ได้รับความยากลำบากเช่นเดียวกับเธอและได้แนะนำพวกเขาให้มารู้จักพระเยซูเจ้า
 
ในพระวรสารกล่าวว่า พระเยซูเจ้าตรัสกับศิษย์ของพระองค์ว่า “ท่านทั้งหลายจงมาพักผ่อนกับเราตามลำพังในที่สงัดระยะหนึ่งเถิด” (มก. 6: 31) การสรรเสริญและขอบพระคุณพระเป็นเจ้าเป็นสิ่งที่เราสามารถทำ ณ.ที่ใดก็ได้ ในถนน ในรถยนต์ ในห้องอาหาร ฯลฯ  เราเพียงแต่ยกจิตใจขึ้นหาพระเยซูเจ้าและขอบพระคุณพระองค์ในทุกสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำเพื่อเรา  และเช่นเดียวกับที่คอร์รีและเบทซี่ได้ค้นพบ  ยิ่งเราสรรเสริญพระเป็นเจ้ามากเท่าไร พระองค์ยิ่งทรงช่วยเหลือเรามากเพียงนั้น
บทภาวนา
“พระบิดา  พระองค์ทรงพระทัยดีและทรงฤทธานุภาพ  ลูกขอบพระคุณพระองค์สำหรับความรักและพระเมตตาของพระองค์ที่ทรงมีต่อลูก  ลูกขอสรรเสริญพระองค์ที่ทรงโอบอุ้มค้ำชูลูกไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์”
*********************
“ผู้ได้รับความทุกข์ร้อน ย่อมเป็นสุข  เพราะเขาจะได้รับความบรรเทา”
ผู้ที่พึ่งพาพระเจ้าและสรรเสริญพระองค์ด้วยจิตใจที่เป็นอิสระทำให้จิตใจของเขาโบยบินไปหาพระเจ้า 
เขาจึงไม่วิตกกังวลในความทุกข์ร้อนของตน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น