วันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ประสบการณ์ฝ่ายจิตของพระสงฆ์ท่านหนึ่ง

 
ในปี 2007 พระเยซูเจ้าและแม่พระทรงเริ่มต้นตรัสในหัวใจของพระสงฆ์นักบวชเบเนดิกตินท่านหนึ่ง
พระสงฆ์ท่านนี้อยู่ในอารามของคณะในประเทศไอร์แลนด์ ท่านได้บันทึกสิ่งที่ท่านได้ยินไว้ทันที เป็นพระวาจาแห่งความรอบรู้และให้พลังความกล้าหาญไม่เพียงแต่ตัวท่านเองเท่านั้น แต่ต่อพวกเราทุกคนด้วย   

พระสงฆ์ท่านนี้ได้รับสิ่งต่างๆมากมายในระหว่างการเคารพและการเฝ้าศีลมหาสนิท  ท่านมีความทุกข์เป็นอย่างมากในความสงสัยเรื่องความเป็นจริงของ ”สิ่งที่ได้ยินจากภายใน” นี้ แต่ท่านเป็นทุกข์อยู่ไม่นานนัก ผู้แนะนำฝ่ายจิตของท่านได้ตรวจสอบเหตุการณ์นี้ และได้ระบุว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นพระหรรษทานของพระเจ้าจริงๆ gratia gratis data (real Grace) พระสงฆ์จึงได้จัดพิมพ์หนังสือ In Sinu Jesu: The Journal of a Priest At Prayer ขึ้นมา และได้รับการรับรองจากพระสังฆราช Michael Smith, in Meath Mullingar, Ireland ( Nihil Obstat.)

พระสงฆ์นักบวชเบเนดิกตินท่านนี้เขียนไว้ว่า “นี่คือข้อความที่ผมได้เขียนเป็นเวลานานหลายปีในสมุดบันทึก ผมเริ่มเขียนในปี 2007”

“รูปแบบการเขียนและสไตล์การเขียนเป็นของผมเอง แต่เนื้อหาของข้อความที่ผมเขียนนั้นได้มาในระหว่างการสวดภาวนา โดยไม่มีการเพิ่มเติมเสริมแต่งจากผมเอง”

 “มีความเคลื่อนไหวภายในที่ทำให้ผมเขียน และผมจะเขียนจนกว่าความบันดาลใจนั้นจะหยุดลง”

“หลังจากการเขียน จะมีพระหรรษทานแห่งความสงบภายในที่ทำให้เป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูเจ้าหรือแม่พระ ในบางโอกาส มี”วาจา” ของนักบุญบางองค์หรือบุคคลที่ศักดิ์สิทธิ์บางคนด้วย”

สิ่งนี้เรียกว่า locutions เสียงจากภายใน เป็นความรู้สึกทางใจซึ่งแตกต่างจากการได้ยินด้วยหู และมันจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสองสาเหตุคือ
           1.วิธีการที่พวกเขาได้รับ - ไม่มีการใช้ความพยายามหรือความต้องการของตัวเองเพื่อให้เกิดสิ่งนี้ นี่เป็นสิ่งที่นักบุญเทเรซาแห่งอาวิลาได้กล่าวไว้เกี่ยวกับสัมพันธญาณ 
            2. ผลลัพท์ที่ได้ ของ เสียงจากภายใน จะทำให้ผู้นั้นมีความรักและความศรัทธาที่ลึกซึ้งมากขึ้นต่อศีลมหาสนิท ทำให้การเคารพศีลมหาสนิทมีชีวิตชีวามากขึ้น

 “พระองค์ปรากฏอยู่อย่างแท้จริงในศีลมหาสนิท และพระองค์ทรงสนทนากับผม” พระสงฆ์ท่านนี้ยืนยัน “ชักนำให้ผมเข้าไปสู่แสงสว่างแห่งพระพักตร์และดวงพระหฤทัยที่ร้อนลุกเป็นไฟของพระองค์”

พระเยซูเจ้าทรงอธิบายถึงคุณประโยชน์ที่จะได้รับจากความศรัทธาต่อการเคารพศีลและการเฝ้าศีลมหาสนิท - ขุมทรัพย์ถูกซ่อนไว้ที่นั่น

ในหนังสือยังเขียนไว้ว่า “มีเวลามากกว่าหนึ่งวันซึ่งถูกวัดด้วยชั่วโมงและนาที  เราเป็นพระเจ้าของเวลาทั้งหมด และเวลาที่มอบให้แก่เรานั้นมีคุณค่ามากกว่าเวลาที่ถูกใช้ไปในการทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยเพื่อหาเงิน  เราไม่ได้ขอให้ลูกหยุดการทำงานที่ลูกทำมาก่อน แต่เราขอเพียงให้ลูกคิดถึงเราก่อนสิ่งอื่น ให้ลูกมอบเวลาที่ดีที่สุดของลูกและช่วงเวลาที่ดีที่สุดของลูกแก่เราเพียงผู้เดียว”
ชีวิตมีช่วงวิกฤตของความแห้งแล้งในจิตใจ วิกฤตของความศรัทธาและวิกฤตในพระศาสนจักรอันเนื่องมาจากปัญหาต่างๆ แต่พระเยซูเจ้าทรงเปิดเผยในหนังสือเล่มนี้ว่า
 “เรากำลังจะฟื้นฟูพระสงฆ์ในพระศาสนจักรของเราให้มีความศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาใหม่” พระเยซูเจ้าตรัสในใจของพระสงฆ์ท่านนี้ในคืนวันพฤหัส 20 มี.ค. 2008
“ใกล้เวลาที่เราจะทำการชำระล้างพระสงฆ์ของเราให้สะอาดบริสุทธิ์จากมลทินต่างๆที่ทำให้พวกเขาด่างพร้อย ในไม่ช้า ในเร็วๆนี้ เราจะหลั่งพระหรรษทานแห่งการเยียวยาฝ่ายจิตลงมายังพระสงฆ์ทุกคนของเรา  เราจะทำการแยกพระสงฆ์ที่ยอมรับพระพรแห่งมิตรภาพอันศักดิ์สิทธิ์ของเราออกจากพระสงฆ์ที่มีใจแข็งกระด้างและต่อสู้กับเรา สำหรับพวกแรกเราจะประทานรังสีแห่งความศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกับยอห์นและบรรดาอัครสาวกของเราในยุคเริ่มต้น  ส่วนอีกพวกหนึ่ง เราจะยึดคืนแม้แต่สิ่งที่พวกเขาคิดว่าตนเองมีอยู่ มันจะต้องเป็นเช่นนี้ เราต้องการให้พระสงฆ์ของพระศาสนจักรของเรามีจิตใจที่สะอาดบริสุทธิ์และสัตย์ซื่อในการตอบสนองต่อความรักอันเหลือล้นของเราซึ่งทำให้เรารักพวกเขาแต่ละคนและเลือกพวกเขาแต่ละคนเพื่อตัวเราเองและเพื่อให้รับรู้ถึงดวงพระหฤทัยของเราในการออกแบบสิ่งทั้งหลาย”
ในปี 2001 พระเยซูเจ้าตรัสเป็นภาษาอิตาเลี่ยนในใจของคุณพ่อสเตฟาโน กอบบี้ ในลักษณะที่คล้ายๆกัน “การโจมตีต่อพระสงฆ์ของเราจะปรากฏขึ้นและแพร่กระจายขยายมากขึ้นไปจนถึงระยะสุดท้ายของมัน กลุ่มลัทธิซาตานและกลุ่มต่อต้านจะโจมตีอย่างโหดเหี้ยมต่อพระศาสนจักรผู้เป็นเจ้าสาวของเราเพื่อทำลายพระศาสนจักรให้สิ้นซาก  มันจะโจมตีพระสงฆ์ที่มีใจอ่อนแอ  แต่เราจะไม่ยอมให้มันทำลายพระศาสนจักรได้ เราจะทำให้พระสงฆ์และพระศาสนจักรของเรากลับฟื้นขึ้นใหม่ในความศักดิ์สิทธิ์”
การฟื้นฟูพระสงฆ์ของพระองค์ขึ้นมาใหม่ตามการเปิดเผยของหนังสือเล่มนี้ได้กล่าวว่า “จะเริ่มต้นจากเปลวไฟแห่งความรักที่พวยพุ่งมาจากศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งพระกายและพระโลหิตของเรา”
และเพื่อเป็นการพินิจรำพึงสำหรับเทศกาลมหาพรต
“พระสงฆ์ที่ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์แล้วจะส่องแสงด้วยความรักต่อหน้าโลกที่ถูกทำให้มืดมนไปด้วยบาปอันเลวร้ายทางเนื้อหนังและบาปหนักมากมายเหลือล้น” เป็นการเปิดเผยเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2009
“พระสงฆ์ที่ถ่อมตนและสุภาพจะทำให้โลกประหลาดใจด้วยพลังอำนาจที่พวกเขาได้รับ และด้วยอิทธิพลและความช่วยเหลือของคนยากจน พระสงฆ์ที่นบนอบเชื่อฟังจะยืนขึ้นโต้แย้งกับโลก ท่านจะพูดเช่นเดียวกับพระอาจารย์ของพวกเขา กล่าวว่า “เราจะไม่รับใช้เจ้า”

และวันที่ 27 ม.ค. 2012
“บุคคลทั้งหลายผู้ที่อยู่เคียงข้างท่ามกลางพระสงฆ์ของเราจะฟื้นคืนชีพจากความทุกข์เวทนาที่กำลังจะมา คนเหล่านั้นคือผู้ที่ฟังคำขอร้องวิงวอนของเราให้สวดภาวนาเพื่อบรรดาพระสงฆ์ที่ประกอบพิธีเคารพศีล  เพื่อพระสงฆ์ที่ช่วยเหลือผู้อื่น เพื่อพระสงฆ์ผู้ยอมให้เราเป็นมิตรสหายของพวกเขา และบุคคลทั้งหลายผู้ที่มอบเวลาของพวกเขาแก่เรา มอบจิตใจของพวกเขา และมอบหัวใจของพวกเขาแก่เราในการเคารพศีลมหาสนิท”
 “เราขอบอกว่าการกระทำนี้เป็นสิ่งจำเป็น เพราะระเบียบของสิ่งต่างๆที่ถูกจัดไว้แล้วได้ถูกล้มเลิกไปและเพราะมีความไร้ระเบียบอย่างใหญ่หลวง ความสับสนได้เข้าครอบครองหัวใจและจิตใจของพระสงฆ์ผู้เป็นสุดที่รักของเรา”
“การเคารพศีลมหาสนิทจะมีไว้สำหรับพวกเขาและสำหรับพวกท่านเพื่อรักษาความเป็นระเบียบที่ถูกต้องให้คงอยู่เท่านั้น ความเป็นระเบียบแห่งความรักอันศักดิ์สิทธิ์ที่หลั่งลงในหัวใจของมนุษย์โดยพระจิตเจ้าผู้ทรงเป็นความรัก”

*************
ความเห็นของบุคคลต่างๆ

ในปี 2007 พระเยซูเจ้าและแม่พระทรงเริ่มตรัสในหัวใจของนักบวชท่านหนึ่งอย่างเงียบๆระหว่างการนมัสการศีลมหาสนิท
ท่านรีบเขียนบันทึกสิ่งที่ท่านได้ยินทันที ด้วยเหตุนี้หนังสือ In Sinu Jesu จึงเกิดขึ้นมา แต่ละหน้าของหนังสือให้ความสว่างแก่จิตใจและให้ความอบอุ่นแก่หัวใจ เป็นเสียงที่พูดโดยตรงภายในใจของเรามีพลังในการปลอบประโลมใจและยังท้าทายเราด้วย
หนังสือเล่มนี้เป็นบันทึกของการติดต่อฝ่ายจิตวิญญาณ ให้ความรู้พื้นฐานของชีวิตฝ่ายจิต ความรักและการได้รับความรักจากพระเจ้า วิธีการสวดภาวนาในทุกมิติ พลังอำนาจของการนมัสการและการเฝ้าศีลมหาสนิท ความไว้วางใจและการยอมรับทุกสิ่งต่อพระญาณเอื้ออาทร  วิธีการสักการะด้วยความเงียบสงบ ความศักดิ์สิทธิ์แห่งบทสวดภาวนาตามพิธีกรรมและความศักดิ์สิทธิ์ของศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ความลึกลับของการถวายบูชามิสซาอันศักดิ์สิทธิ์  เอกลักษณ์ของพระสงฆ์และผลลัพท์ของการแพร่ธรรม บทบาทของพระนางพรหมจารีย์มารีย์และบรรดานักบุญในชีวิตประจำวันของเรา  บาป  บาดแผล พระเมตตา  การเยียวยารักษา  และการชำระล้างจิตวิญญาณให้สะอาดบริสุทธิ์ ความปรารถนาในสวรรค์ และความปรารถนาในการฟื้นฟูพระศาสนจักรคาทอลิกบนโลก
--------------------------
“หนังสือเล่มนี้ เป็นประสบการณ์แห่งพระหรรษทานในชีวิตของพระสงฆ์นักบวชองค์หนึ่งโดยผ่านทางการเยียวยารักษาจิตใจด้วยพลังอำนาจของการนมัสการและการเฝ้าศีลมหาสนิท  ในเวลาเดียวกันยังเป็นการเรียกร้องพระสงฆ์และคริสตชนทุกคนให้พลิกฟื้นชีวิตขึ้นใหม่ในความศักดิ์สิทธิ์โดยผ่านทางการนมัสการและการเฝ้าศีลมหาสนิทและการถวายตนแด่ดวงหท้ยนิรมลของพระนางมารีย์ผู้เป็นคนกลางแจกจ่ายพระหรรษทานทั้งปวง ผมหวังว่าหนังสือเล่มนี้จะให้แรงบันดาลใจแก่บรรดาพระสงฆ์ให้มีความรักในการเคารพศีลมหาสนิทมากยิ่งๆขึ้น และพวกท่านจะได้มีพละกำลังและความกล้าหาญที่จะแสดงพระเยซูเจ้าต่อผู้คนทั่วไปในสังคมโลกทุกวันนี้” พระคาร์ดินัลเรย์มอนด์ ลีโอ เบอร์ก แห่งคณะทหารมอลตา."-- HIS EMINENCE RAYMOND LEO CARDINAL BURKE, Patron of the Sovereign Military Order of Malta

“เมื่อผมได้อ่านหนังสือเล่มนี้เป็นครั้งแรก เมล็ดพันธุ์ได้ถูกหว่านลงในจิตใจของผม พระวาจาที่ตรัสแก่พระสงฆ์ท่านนี้นำความบรรเทาใจและความกล้าหาญมาสู่ผม และทำให้ผมปรารถนาที่จะอยู่กับพระเจ้ามากขึ้น เมื่อพิจารณาไตร่ตรองในการนมัสการและการเฝ้าศีลมหาสนิทการเพ่งพินิจพระพักตร์ของพระเยซูเจ้าและการถวายตนและชีวิตเพื่อชดเชยบาปซึ่งผิดต่อความรัก ผมมีความยินดีที่พระเยซูเจ้าทรงเลือกช่วงเวลานี้ในการแบ่งปันความปรารถนาของพระองค์ต่อการนมัสการและการเฝ้าศีลมหาสนิทโดยผ่านทางการจัดพิมพ์หนังสือ In Sinu Jesu นี้” FR. DAVID ABERNETHY C.O., Congregation of the Oratory of St. Philip Neri, Pittsburgh

  **************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น