นักบุญทั้งหลาย มีความสุขในชีวิตนี้โดยการโน้มนำจิตใจของตนเองให้เป็นหนึ่งเดียวกับน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า
พวกท่านคุ้นเคยเป็นอย่างดีในการยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างจากพระหัตถ์ของพระองค์ ตัวอย่างเช่น
นักบุญโดโรที มีความสงบในจิตใจในทุกสถานการณ์.
นักบุญมารี มักดาเลนาแห่งปัสซี
ได้รับการปลอบประโลมใจทุกครั้งที่ได้ยินคำว่า "น้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า" และท่านจะรู้สึกเอิบอิ่มอยู่ในความรัก
เปรียบดังเสียงที่ดังจากการที่สิ่งของกระทบกระทั่งกันไม่สามารถทำให้พื้นผิวของวัตถุเสียหายได้
ประสบการณ์เช่นนี้ย่อมเกิดภายในจิตวิญญาณเท่านั้น.และจิตใจจะมีความสงบสันติตราบเท่าที่เราคงเป็นหนึ่งเดียวกับพระเป็นเจ้า
พระเยซูเจ้าทรงตรัสให้ความมั่นใจแก่สานุศิษย์ว่า
"ไม่มีใครมาแย่งชิงความชื่นชมยินดีไปจากท่านได้......ความชื่นชมยินดีของท่านจะเต็มเปี่ยม"
ผู้ที่โน้มนำจิตใจของตนให้เป็นหนึ่งเดียวกับน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าจะมีประสบการณ์ของความชื่นชมยินดีอันเต็มเปี่ยมและไม่สิ้นสุด
"เต็มเปี่ยม" เพราะเขาจะได้รับสิ่งที่เขาปรารถนา
"ไม่สิ้นสุด" เพราะไม่มีใครเอาความชื่นชมยินดีไปจากเขา เนื่องด้วยไม่มีใครสามารถขัดขวางพระประสงค์ของพระเป็นเจ้าได้.
คุณพ่อยอห์น เทาเลอร์ ผู้ใจศรัทธาได้เล่าประสบการณ์ส่วนตัวของท่าน
ท่านสวดวิงวอนขอต่อพระเป็นเจ้าเป็นเวลาหลายปี ขอให้พระองค์ทรงส่งใครสักคนมาสอนท่านเกี่ยวกับชีวิตฝ่ายจิตที่แท้จริง.
วันหนึ่ง, ขณะที่ภาวนา,
ท่านได้ยินเสียงพูดว่า "จงไปที่โบสถ์นั้น
และท่านจะได้รับคำตอบในสิ่งที่ท่านสวดภาวนาอยู่"
ดังนั้นท่านจึงเดินทางไป และที่ประตูโบสถ์ท่านพบชายคนหนึ่ง
สวมเสื้อผ้าเก่าๆไม่ใส่รองเท้า แต่ใบหน้าแสดงถึงจิตใจที่ดี
ท่านทักทายชายผู้นั้น.
"ขอให้มีความสุขในวันนี้นะ สหาย"
"ขอบคุณครับ สำหรับคำอวยพรของท่าน แต่ผมก็ไม่รู้สึกว่ามีความทุกข์ร้อนอะไรเลยนะครับ"
"ถ้าเช่นนั้น พระเป็นเจ้าคงอวยพรให้คุณมีความสุขในชีวิตสินะ"
"เป็นความจริงครับ ผมไม่รู้สึกว่ามีความทุกข์เลย
ที่พูดแบบนี้ไม่ใช่พูดพล่อยๆโดยไม่ได้คิดนะครับ เหตุผลก็คือ เมื่อผมไม่มีอะไรจะกิน
ผมก็ขอบพระคุณพระเป็นเจ้า เมื่อฝนหรือหิมะตก ผมสรรเสริญพระญานสอดส่องของพระองค์ เมื่อมีคนดูถูกผม
ขับไล่ผม หรือทำไม่ดีกับผม ผมจะมอบถวายสิ่งเหล่านั้นเพื่อพระสิริมงคลของพระองค์ และที่ผมพูดว่าผมไม่เคยทุกข์ร้อนอะไรเลยนั้น
ก็เป็นความจริง เพราะผมคุ้นเคยที่จะยอมรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตามพระประสงค์ของพระเป็นเจ้า
ไม่ว่ามีอะไรเกิดกับผม หวานชื่นหรือขมขื่น ผมน้อมรับด้วยความยินดี
เพราะพระองค์จะประทานสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผม ความสุขของผมจึงไม่แปรเปลี่ยน"
"คุณได้พบและสัมผัสกับพระเป็นเจ้าเมื่อไร?"
"ผมได้พบพระองค์ เมื่อผมละทิ้งสิ่งของของโลก"
"คุณเป็นใครกันนี่?"
"ผมเป็นพระราชา"
"แล้วอาณาจักรของคุณอยู่ที่ไหน?"
"ในจิตวิญญาณของผมเอง ที่ซึ่งทุกสิ่งถูกจัดเป็นระเบียบเรียบร้อย
ที่ซึ่งความทุกข์เชื่อฟังเหตุผล และเหตุผลเชื่อฟังพระเป็นเจ้า"
"ท่านมาอยู่ในสถานะที่สมบูรณ์เพียบพร้อมนี้ได้อย่างไร?"
"โดยความเงียบสงบ ผมรักษาความเงียบสงบกับมนุษย์ และสนทนากับพระเป็นเจ้าเป็นกิจนิสัย
โดยการสนทนากับพระเป็นเจ้า ผมได้พบสันติสุขและรักษาสิ่งนี้ไว้ได้ในวิญญาณ
การเป็นหนึ่งเดียวกับน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าทำให้จิตใจของชายผู้นี้ขึ้นสู่ความสมบูรณ์ระดับสูง
ในความยากจนของเขา เขาร่ำรวยยิ่งกว่าพระมหากษัตริย์ ในความทุกข์ยาก เขามีความสุขยิ่งกว่าผู้ใดในโลกซึ่งอยู่ท่ามกลางความสุขของโลกนี้
********************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น