วันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ความสุขจากการทำตามน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า


นักบุญทั้งหลาย  มีความสุขในชีวิตนี้โดยการโน้มนำจิตใจของตนเองให้เป็นหนึ่งเดียวกับน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า พวกท่านคุ้นเคยเป็นอย่างดีในการยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างจากพระหัตถ์ของพระองค์ ตัวอย่างเช่น นักบุญโดโรที  มีความสงบในจิตใจในทุกสถานการณ์.   นักบุญมารี มักดาเลนาแห่งปัสซี  ได้รับการปลอบประโลมใจทุกครั้งที่ได้ยินคำว่า "น้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า"   และท่านจะรู้สึกเอิบอิ่มอยู่ในความรัก  เปรียบดังเสียงที่ดังจากการที่สิ่งของกระทบกระทั่งกันไม่สามารถทำให้พื้นผิวของวัตถุเสียหายได้ ประสบการณ์เช่นนี้ย่อมเกิดภายในจิตวิญญาณเท่านั้น.และจิตใจจะมีความสงบสันติตราบเท่าที่เราคงเป็นหนึ่งเดียวกับพระเป็นเจ้า  พระเยซูเจ้าทรงตรัสให้ความมั่นใจแก่สานุศิษย์ว่า   "ไม่มีใครมาแย่งชิงความชื่นชมยินดีไปจากท่านได้......ความชื่นชมยินดีของท่านจะเต็มเปี่ยม"    ผู้ที่โน้มนำจิตใจของตนให้เป็นหนึ่งเดียวกับน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าจะมีประสบการณ์ของความชื่นชมยินดีอันเต็มเปี่ยมและไม่สิ้นสุด "เต็มเปี่ยม" เพราะเขาจะได้รับสิ่งที่เขาปรารถนา "ไม่สิ้นสุด"   เพราะไม่มีใครเอาความชื่นชมยินดีไปจากเขา เนื่องด้วยไม่มีใครสามารถขัดขวางพระประสงค์ของพระเป็นเจ้าได้.

คุณพ่อยอห์น เทาเลอร์   ผู้ใจศรัทธาได้เล่าประสบการณ์ส่วนตัวของท่าน ท่านสวดวิงวอนขอต่อพระเป็นเจ้าเป็นเวลาหลายปี ขอให้พระองค์ทรงส่งใครสักคนมาสอนท่านเกี่ยวกับชีวิตฝ่ายจิตที่แท้จริง.    วันหนึ่ง, ขณะที่ภาวนา, ท่านได้ยินเสียงพูดว่า   "จงไปที่โบสถ์นั้น   และท่านจะได้รับคำตอบในสิ่งที่ท่านสวดภาวนาอยู่"    ดังนั้นท่านจึงเดินทางไป  และที่ประตูโบสถ์ท่านพบชายคนหนึ่ง สวมเสื้อผ้าเก่าๆไม่ใส่รองเท้า   แต่ใบหน้าแสดงถึงจิตใจที่ดี    ท่านทักทายชายผู้นั้น.

"ขอให้มีความสุขในวันนี้นะ สหาย"

"ขอบคุณครับ สำหรับคำอวยพรของท่าน แต่ผมก็ไม่รู้สึกว่ามีความทุกข์ร้อนอะไรเลยนะครับ"

"ถ้าเช่นนั้น พระเป็นเจ้าคงอวยพรให้คุณมีความสุขในชีวิตสินะ"

"เป็นความจริงครับ ผมไม่รู้สึกว่ามีความทุกข์เลย ที่พูดแบบนี้ไม่ใช่พูดพล่อยๆโดยไม่ได้คิดนะครับ เหตุผลก็คือ เมื่อผมไม่มีอะไรจะกิน ผมก็ขอบพระคุณพระเป็นเจ้า เมื่อฝนหรือหิมะตก ผมสรรเสริญพระญานสอดส่องของพระองค์ เมื่อมีคนดูถูกผม ขับไล่ผม หรือทำไม่ดีกับผม ผมจะมอบถวายสิ่งเหล่านั้นเพื่อพระสิริมงคลของพระองค์ และที่ผมพูดว่าผมไม่เคยทุกข์ร้อนอะไรเลยนั้น ก็เป็นความจริง เพราะผมคุ้นเคยที่จะยอมรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตามพระประสงค์ของพระเป็นเจ้า ไม่ว่ามีอะไรเกิดกับผม หวานชื่นหรือขมขื่น ผมน้อมรับด้วยความยินดี   เพราะพระองค์จะประทานสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผม   ความสุขของผมจึงไม่แปรเปลี่ยน"

"คุณได้พบและสัมผัสกับพระเป็นเจ้าเมื่อไร?"

"ผมได้พบพระองค์    เมื่อผมละทิ้งสิ่งของของโลก"

"คุณเป็นใครกันนี่?"

"ผมเป็นพระราชา"

"แล้วอาณาจักรของคุณอยู่ที่ไหน?"

"ในจิตวิญญาณของผมเอง ที่ซึ่งทุกสิ่งถูกจัดเป็นระเบียบเรียบร้อย ที่ซึ่งความทุกข์เชื่อฟังเหตุผล และเหตุผลเชื่อฟังพระเป็นเจ้า"

"ท่านมาอยู่ในสถานะที่สมบูรณ์เพียบพร้อมนี้ได้อย่างไร?"

"โดยความเงียบสงบ    ผมรักษาความเงียบสงบกับมนุษย์ และสนทนากับพระเป็นเจ้าเป็นกิจนิสัย    โดยการสนทนากับพระเป็นเจ้า ผมได้พบสันติสุขและรักษาสิ่งนี้ไว้ได้ในวิญญาณ

การเป็นหนึ่งเดียวกับน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าทำให้จิตใจของชายผู้นี้ขึ้นสู่ความสมบูรณ์ระดับสูง    ในความยากจนของเขา เขาร่ำรวยยิ่งกว่าพระมหากษัตริย์   ในความทุกข์ยาก เขามีความสุขยิ่งกว่าผู้ใดในโลกซึ่งอยู่ท่ามกลางความสุขของโลกนี้

********************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น