วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2561

ไม่เป็นไรลืมเสียเถิด


 
 
 “พวกพี่พยายามทำร้ายน้อง แต่พระเจ้าทรงเปลี่ยนทุกสิ่งไปในทางที่ดี” (ปฐ. 50:20)

 

เมื่อโยเซฟอายุได้ 17 ปี บรรดาพี่ชายของเขาได้ขายเขาให้เป็นทาสแก่พ่อค้าที่กำลังเดินทางไปยังอิยิปต์และบังเอิญผ่านมาทางนั้น หลายปีต่อมาเกิดความแห้งแล้งครั้งใหญ่กระจายท่วไปในแผ่นดินอิยิปต์และบริเวณโดยรอบ และยาโคบบิดาของโยเซฟสั่งให้บรรดาลูกชายเดินทางไปที่อิยิปต์เพื่อซื้ออาหาร ทำให้โยเซฟได้พบกับพี่ชายอีกครั้งหนึ่ง พวกพี่ชายจำโยเซฟไม่ได้ แต่โยเซฟจำพี่ชายได้และคิดถึงเหตุการณ์ในอดีตที่พี่ชายขายเขาให้แก่พ่อค้า  “โยเซฟรู้สึกสะเทือนใจมากและร้องไห้”(ปฐ. 45:2) แต่โยเซฟไม่ยอมให้ความทรงจำที่พวกพี่ชายขายเขาให้แก่พ่อค้ามาทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง โยเซฟยังจำอดีตได้ดี แต่ไม่นำความทรงจำนั้นมาทำให้พวกพี่รู้สึกผิดในสิ่งที่พวกเขากระทำ โยเซฟต้องการแต่เพียงสั่งสอนพี่ชายให้รู้สึกสำนึกบ้างเท่านั้น จึงวางแผนบางอย่าง และเมื่อได้สั่งสอนเล็กน้อยแล้วโยเซฟก็แสดงตัวให้พี่ชายรู้จัก โยเซฟพูดกับพี่ชายว่า “อย่าโกรธตัวเองเลยที่พวกพี่ขายน้อง...พระเจ้าทรงส่งน้องให้มาล่วงหน้าที่นี่เพื่อช่วยชีวิตของพวกพี่” (ปฐ. 45:5)  พระเจ้าทรงอวยพรให้โยเซฟประสบความสำเร็จในแผ่นดินอิยิปต์ และทำให้เขาสามารถช่วยเหลือพี่ชายและบิดาได้ในระหว่างที่เกิดความแห้งแล้งอย่างหนักในเวลานั้น

ถ้าหากโยเซฟปล่อยให้ความรู้สึกโกรธแค้นและความขมขื่นจากการกระทำของพวกพี่ชายเข้าครอบงำจิตใจของเขา  เขาก็อาจจะทำการแก้แค้นและไม่ให้ความช่วยเหลือต่อครอบครัวของเขา แต่ตรงกันข้าม โยเซฟตัดสินใจจะให้อภัยแก่พวกพี่ชายด้วยความกรุณาและปลดปล่อยพวกเขาจากความเลวร้ายในอดีต

เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอดีตได้ แต่เราต้องไม่ยอมให้อดีตมากำหนดอนาคตของเรา  พระเจ้าทรงสามารถเปลี่ยนความตั้งใจที่ไม่ดีของคนอื่นได้ (ปฐ. 50:20)  ด้วยพระหรรษทานของพระเจ้า เราสามารถเลือกที่จะอวยพรบุคคลที่ทำร้ายเราแทนการแก้แค้น  และเราจะได้รับจิตใจที่อิสระโดยอาศัยการให้อภัยแก่ผู้ที่ทำร้ายเรา

*************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น