ROME - พระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 เคยตรัสว่า เทศกาลมหาพรตเป็นระยะเวลาแห่งการ
“ฝึกฝนจิตใจ” เพื่อเพิ่มความสามารถในการตระหนักรู้ถึง เสียงของพระเจ้าและตระหนักรู้ถึงเสียงของปีศาจด้วยเช่นกัน
การตระหนักรู้นี้ไม่เพียงแต่ต้องมีในช่วงเวลามหาพรตเท่านั้น
แต่จะต้องมีอยู่ตลอดเวลา พระสงฆ์ผู้ทำพิธีขับไล่ปีศาจท่านหนึ่งบอกว่า
เราจำเป็นต้องเตรียมตัวพร้อมอยู่เสมอ โดยต้องได้รับการฝึกหัดอย่างถูกต้องในการทำสงครามกับปีศาจและในการช่วยเหลือผู้อื่นด้วย
คุณพ่อ เบนิโย ปาลิลลา
แห่งคณะฟรังซิสกัน ผู้ทำพิธีขับไล่ปีศาจของสังฆมณฑลปาเลอโมในอิตาลี กล่าวว่า
“บ่อยครั้งทีเดียว
ที่พวกเราพระสงฆ์ไม่รู้วิธีที่จะเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่อยู่ต่อหน้าเรา
และสิ่งนี้ก็ไม่เคยมีการพูดคุยกันในหมู่พระสงฆ์”
คุณพ่อ ซีซาเร ทรูควิ
ผู้ทำพิธีขับไล่ปีศาจอีกท่านหนึ่ง กล่าวว่า มีพระสงฆ์จำนวนมากที่ “ไม่เชื่อว่าการถูกปีศาจเข้าสิงเป็นเรื่องที่มีอยู่จริง
เพราะมันเป็นกรณีที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อย”
แต่ถึงแม้ว่ากรณีที่ถูกปีศาจเข้าสิงเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นก็ตาม
ทุกสังฆมณฑลในโลกก็จำเป็นต้องมีพระสงฆ์ผู้ทำพิธีขับไล่ปีศาจที่ได้รับการฝึกหัดมาอย่างดีแล้วอย่างน้อยหนึ่งคน
คุณพ่อ ซีซาเร กล่าวว่า
“ก็เหมือนกับทันตแพทย์ เราไม่จำเป็นต้องไปหาทันตแพทย์ทุกสัปดาห์
แต่เราก็จำเป็นต้องมีทันตแพทย์ใช่ไหม”
พระสงฆ์ผู้ทำพิธีขับไล่ปีศาจที่ได้รับการฝึกหัดและมีประสบการณ์จะช่วยพิจารณากรณีที่เกิดขึ้นว่ามีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการกระทำของปีศาจหรือไม่
และพระสงฆ์ก็จะช่วยประชาสัตบุรุษให้มีความเข้าใจถึงการปรากฏอยู่ของปีศาจได้
ท่านกล่าวว่า “คุณต้องสอนผู้คนด้วยว่า ไม่ใช่ทุกกรณีที่เป็นการกระทำของปีศาจ”
“เวลานี้ผมมีอยู่กรณีหนึ่ง
ชายคนหนึ่งที่ได้ไปหาหมอผีอัฟริกัน เพราะเขาไม่พบพระสงฆ์คาทอลิกที่จะรับฟังและเป็นที่ปรึกษาให้กับเขาได้”
“ผมคิดว่า
ถ้าเขาได้พบพระสงฆ์คาทอลิกที่จะรับฟังเรื่องของเขา เป็นเพื่อนเขาและช่วยเหลือเขา
เขาก็คงไม่ถูกผีสิงเหมือนอย่างในเวลานี้”
ภาวะทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่
การไม่มีงานทำ เป็นสิ่งขับดันให้ประชาชนจำนวนหนึ่งหันไปพึ่งหมอดู
และสิ่งที่เป็นเวทมนตร์ และส่วนใหญ่ก็เป็นการหลอกลวง อย่างไรก็ตาม
การไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องฝ่ายจิตในด้านมืดเหล่านี้ “อาจทำให้ปีศาจเข้าสู่จิตใจของผู้ที่เปิดใจให้กับมันได้” ดังนั้นจึงอาจต้องได้รับความช่วยเหลือจากรพระสงฆ์ผู้ทำพิธีขับไล่ปีศาจ
ผู้คนควรพิจารณาให้ดีด้วยว่า
พระสงฆ์ผู้นั้นได้รับการรับรองจากพระสังฆราชให้ทำพิธีขับไล่ปีศาจแล้วหรือไม่
พระสงฆ์จะทำพิธีขับไล่ปีศาจได้เฉพาะในเขตสังฆมณฑลของตนเท่านั้น ไม่ใช่ที่อื่น
คุณพ่อ ซีซาเร
เป็นหนึ่งในพระสงฆ์ผู้เชี่ยวชาญในการสอนของหลักสูตรการขับไล่ปีศาจและบทสวดปลดปล่อยจิตวิญญาณจากปีศาจ
ที่มหาวิทยาลัย Legionaries of Christ’s Pontifical University Regina Apostolorum ในกรุงโรม
ท่านเขียนหนังสือเล่าเรื่องเกี่ยวกับการที่ท่านได้มาเป็นพระสงฆ์ผู้ทำพิธีขับไล่ปีศาจโดยไม่คาดฝัน
หนังสือชื่อ Profession: Exorcist. The Most Disturbing Cases of Possession and
Liberation
ท่านเขียนว่า
ท่านได้ไปเยี่ยมคุณพ่อเอม็อท (ผู้ทำพิธีขับไล่ปีศาจอย่างเป็นทางการของโรม
เสียชีวิตแล้ว) และคุณพ่อเอม็อทได้เชิญให้ท่านเข้าเรียนหลักสูตรขับไล่ปีศาจครั้งแรกที่จัดขึ้นในมหาวิทยาลัยเมื่อปี
2004 และท่านได้ร่วมในพิธีขับไล่จริงๆ ท่านถือไม้กางเขนไว้ต่อหน้าชายคนหนึ่งที่พยายามจะฆ่าท่าน
ในเวลานั้นท่านรู้สึกกลัวมาก
ท่านยืนตัวแข็ง ผมบนศีรษะลุกชันขึ้นมา
คุณพ่อเอม็อทบอกให้ท่านอยู่จนจบพิธีและช่วยเหลือในการสวดภาวนา.
คุณพ่อซีซาเร กล่าวว่า
ระยะเวลาสี่วันที่ได้อยู่กับคุณพ่อเอม็อทเป็นช่วงเวลาที่น่าประหลาดใจ หลังจากนั้นท่านได้จากมหาวิทยาลัยไป
และกลายเป็นพระสงฆ์ผู้ทำพิธีขับไล่ปีศาจประจำสังฆมณฑลเชอร์ ในสวิสเซอร์แลนด์
ท่านกล่าวว่า
งานของท่านเป็นการอภิบาลด้วยกิจเมตตาอย่างหนึ่ง มันทำให้ผู้คนใกล้ชิดกับศีลศักดิ์สิทธิ์และมีชีวิตในการสวดภาวนามากขึ้น
ทำให้พวกเขามีความซื่อสัตย์ต่อรพระคริสต์และมีสันติสุขในจิตใจ งานที่ท่านทำนี้เหมือนกับที่พระเยซูเจ้าทรงทำ
เป็นสงครามฝ่ายจิตเหมือนที่เขียนไว้ในพระวรสาร ประสบการณ์ที่ได้รับนั้นแสดงให้เห็นว่า
สิ่งที่พระเยซูเจ้าตรัสนั้นเป็นความจริง “เป็นเรื่องดีมากที่ได้รู้และเข้าใจว่า
เมื่อคุณเป็นพระสงฆ์ผู้ทำพิธีขับไล่ปีศาจ คุณมีพลังอำนาจของการสวดภาวนาอยู่ในมือของคุณอย่างแท้จริง”
****************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น