วันอาทิตย์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2561

อัศจรรย์วันที่ 18 มีนาคม

THE MIRACLE OF MARCH 18
อัศจรรย์วันที่ 18 มีนาคม
by Sean Bloomfield/Stella Mar Films


วันที่ 18 มี.ค. 2018 ฉันได้รับเกียรติให้เป็นผู้ช่วยพยุงมีรยานาขึ้นไปบนเนินเขาและคุกเข่าอยู่ข้างๆเธอในระหว่างการประจักษ์ด้วย ฉันพูดตลกโดยขอบคุณเธอที่พาฉันขึ้นมาบนเขานี้

สำหรับคนที่เชื่อยากในเรื่องการประจักษ์ของแม่พระ ฉันปรารถนาให้คุณมีโอกาสได้มาเห็นและรู้สึกเหมือนฉันจริงๆ ความสงสัยไม่เชื่อของพวกคุณจะปลาสนาการหายไปเลยทีเดียว พวกคุณจะไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมรับถึงอัศจรรย์นี้ และถึงแม้คุณจะได้เห็นสิ่งที่เกิดในวีดีโอก็ตาม อัศจรรย์นี้บ่อยครั้งก็ถูกซ่อนไว้จากสายตาของคนทั่วไป ด้วยเหตุนี้ฉันจึงต้องการจะแบ่งปันประสบการณ์ของฉันให้คุณ

มีรยานาชอบที่จะได้พบกับแม่พระที่ Blue Cross ซึ่งอยู่ที่เชิงเนินเขาแห่งการประจักษ์มากกว่าที่อื่น แต่หัวเข่าและสันหลังของเธอไม่ค่อยดีนักซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เธอเจ็บปวดมากเวลาที่ต้องเดินขึ้นเนินเขาที่สูงชันเพื่อไปให้ถึงที่ Blue Cross
 
ทั้งที่เจ็บปวด แต่เธอก็ตัดสินใจเสมอที่จะไปที่เนินเขานั้น ไปอยู่ท่ามกลางประชาชนนับพันคนที่รวมตัวกันที่นั่น ไม่ว่าอากาศจะเลวร้ายอย่างไรก็ตาม
 
“ฉันจะพบกับพระมารดาคนเดียวได้อย่างไรที่บ้าน เมื่อฉันมองไปนอกบ้านและเห็นผู้แสวงบุญทั้งหมดที่มาที่เมดจูกอเรจ์เพื่อมาหาแม่พระ?” มีรยานาพูด
 
ทุกคนในเมดจูกอเรจ์ต่างคาดหวังว่าวันที่ 18 มีนาคม จะมีการประจักษ์ที่บ้านของมีรยานา กรมอุตุนิยมวิทยาท้องถิ่นได้ทำนายว่าวันนั้นจะมีฝนตกหนัก ซึ่งจะทำให้ทางเดินขึ้นเขาลื่นและอันตรายในการเดิน
 
แต่น่าแปลกใจ ในวันนั้นอากาศแจ่มใสและอบอุ่นแบบที่ไม่เป็นไปตามฤดูกาลในช่วงเวลาบ่ายสองโมง เวลาโดยประมาณที่มีรยานาคาดว่าแม่พระจะประจักษ์ต่อเธอ เวลาประมาณ บ่ายหนึ่งโมงครึ่ง มีรยานาเดินทางออกจากบ้านผ่านกลุ่มผู้แสวงบุญเพื่อมายังเนินเขาแห่งการประจักษ์ เธอได้ขอให้ฉันเดินไปเป็นเพื่อนเธอ และแน่นอนฉันไม่ลังเลใจเลย

Cimela Kidonakis ผู้ร่วมงานในการถ่ายวีดีโอของฉันอยู่ที่ Blue Crossเรียบร้อยแล้วพร้อมกับกล้องของเขาซึ่งพร้อมจะถ่ายวีดีโอการประจักษ์ กลุ่มผู้แสวงบุญจากสหรัฐอเมริกาก็เดินตามด้วย ไกด์ของเรา Miki Musa ก็อยู่ที่นั่นแล้วเช่นกันพร้อมกับสมุดโน้ตเพื่อที่จะแปลสาส์น น่าประหลาดใจที่ยังมีกลุ่มคนที่มาจาก Foto Dani ซึ่งเป็นทีมงานในการทำสารคดีมาอยู่ที่เมดจูกอเรจ์เช่นเดียวกัน พวกเขากำลังยุ่งอยู่กับถ่ายทำ
 
ฉันเดินเคียงข้างมีรยานาเพื่อที่เธอจะสามารถเอนตัวมาที่ฉันเมื่อทางเดินไม่ราบเรียบ ผู้คนก็ตะโกนชื่อของเธอเหมือนเคย แต่ในครั้งนี้พวกเขาอวยพรวันเกิดให้เธอด้วยหลายภาษา เช่น “Buon compleanno!” “Sretan rodendan!” “Feliz cumpleanos!”
 
เมื่อเดินขึ้นเนินเขา ความเจ็บปวดก็บังเกิดขึ้นที่เข่าและสันหลังของมีรยานา ก้อนหินและความชันทำให้แต่ละย่างก้าวรู้สึกเจ็บ แต่เธอก็ยังคงหยุดและยิ้มให้กับบรรดาผู้แสวงบุญที่ผ่านมา ฉันรู้สึกประหลาดใจในความรักของมีรยานาที่มีต่อผู้แสวงบุญ เธอจะหยุดทักทายบางคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ป่วยและพิการ

เมื่อเรามาถึงพื้นที่ราบเรียบและเดินผ่านฝูงชน มีชายอิตาเลียนคนหนึ่งโค้งคำนับและจูบมือของมีรยานา
 
“อย่าเลยค่ะได้โปรด” มีรยานาพูดและยิ้ม ดึงมือของเธอกลับ แล้วเธอก็ใช้มือทั้งสองลูบใบหน้าของเขาและจูบแก้มของเขา ชายผู้นั้นรู้สึกตกใจแต่เขาก็คงเข้าใจในความหมายที่มีรยานาสื่อออกไป – นั่นคือผู้ที่สมควรได้รับความขอบคุณก็คือตัวเขาและบรรดาผู้แสวงบุญที่มาจากแดนไกล
 
เราได้มาถึงที่ Blue Cross มีรยานาตัวสั่นด้วยความเจ็บปวดและเข่าของเธอก็อ่อนแรงมากจนแทบจะคุกเข่าไม่ได้ แขนของฉันที่สัมผัสกับตัวของมีรยานา ทำให้ฉันรู้สึกได้ถึงอาการสั่นที่ควบคุมไม่ได้เพราะความเจ็บปวดและความอ่อนแรงที่หัวเข่า ฉันวิตกว่าเธออาจจะล้มลงเมื่อใดก็ได้
 
แต่แล้ว เมื่อการประจักษ์เริ่มต้นขึ้น มีรยานาก็หายใจลึก และทันทีทันใดตัวของเธอก็หยุดสั่นร่างกายก็ยืดตรงได้ มีรยานาเหมือนอยู่ในอีกโลกหนึ่ง เธอเป็นอิสระจากทุกสิ่งรวมทั้งความเจ็บปวดของโลกนี้ด้วย

ฉันรู้สึกได้ว่าแม่พระผู้ทรงงดงามยิ่งได้ปรากฏอยู่ในท่ามกลางพวกเรา เราแต่ละคนต่างจ้องมองมาที่ความเปลี่ยนแปลงของมีรยานาซึ่งเกิดขึ้นในทันทีทันใด แล้วน้ำตาแห่งความชื่นชมยินดีและความสุขก็หลั่งไหลลงมาจากใบหน้าของเธอ ทำให้รู้ว่าเธอกำลังมีประสบการณ์กับบางอย่างที่อัศจรรย์
 
หลายนาทีต่อมา มีรยานามิได้ตัวสั่นเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ในทันทีที่แม่พระจากไป ความเจ็บปวดของมีรยานาก็กลับคืนมาและตัวของเธอก็ล้มลงไปทางด้านหลัง ด้วยความกลัวว่าเธอจะหกล้ม ฉันรีบเข้าไปพยุงเธอ แต่เธอก็ตั้งตัวได้และค่อยๆหย่อนตัวลงนั่งกับพื้นดิน
 
มีรยานาพูดว่าเธอไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยเมื่อเธอเห็นแม่พระ แต่ความเจ็บปวดได้กลับคืนมาเมื่อการประจักษ์สิ้นสุดลง และมันเจ็บปวดมากกว่าแต่ก่อนด้วยอาจเป็นเพราะเธอคุกเข่าเป็นเวลานานมาก

เมื่อแพทย์ บรรดาเพื่อนๆและคนในครอบครัวแนะนำเธอว่า ไม่ควรคุกเข่าในระหว่างที่มีการประจักษ์ มีรยานาได้แต่หัวเราะและกล่าวว่า
 
“ฉันจะไม่คุกเข่าเบื้องหน้าพระมารดาได้อย่างไรเล่า?”...”มันเป็นไปไม่ได้”
 
มีรยานานั่งพักระยะเวลาหนึ่งและพยายามรวบรวมพละกำลัง มีคนช่วยพยุงเธอไปที่ม้านั่งหินและที่นั่นมีรยานาได้บอกเล่าสาส์นของแม่พระให้แก่ Miki แม่พระทรงเล่าชีวิตบางส่วนสั้นๆของพระนางขณะที่อยู่บนโลกนี้
สาส์นแม่พระวันที่ 18 มีนาคม 2018

 
            ลูกที่รักทั้งหลาย ชีวิตของแม่บนโลกนี้นั้นเรียบง่าย แม่รักและชื่นชมยินดีในสิ่งเล็กน้อย แม่รักชีวิตที่เป็นพระพรจากพระเจ้า แม้แต่ในยามที่ได้รับความเจ็บปวด  และความทุกข์ได้ทิ่มแทงดวงหทัยของแม่ ลูกทั้งหลายของแม่ แม่มีพละกำลังแห่งความเชื่อและมีความไว้วางใจอันไม่สิ้นสุดในความรักของพระเจ้า ทุกคนที่มีพละกำลังแห่งความเชื่อจะเข้มแข็งยิ่งขึ้น ความเชื่อทำให้ลูกดำเนินชีวิตในความดีและในแสงสว่างแห่งความรักของพระเจ้าเสมอในทุกเวลา พละกำลังนี้จะช่วยให้ยืนหยัดอยู่ได้ในยามที่เจ็บปวดและมีความทุกข์
            ลูกทั้งหลายของแม่ จงสวดภาวนาวอนขอพละกำลังแห่งความเชื่อ จงไว้วางใจในพระบิดาสวรรค์ และจงอย่ากลัว จงรู้ไว้เถิดว่าไม่มีสิ่งสร้างใดแม้แต่สิ่งเดียวที่เป็นของพระเจ้าจะสูญเสียไปแต่จะมีชีวิตชั่วนิรันดร  ความเจ็บปวดทุกอย่างจะมีเวลาสิ้นสุดลงและแล้วชีวิตอิสระจะเริ่มต้นในที่ซึ่งลูกทั้งหลายของแม่ทั้งหมดจะกลับมา  ในที่ซึ่งทุกสิ่งจะหวนกลับคืน
            ลูกทั้งหลายของแม่ สงครามของพวกลูกนั้นยากลำบาก มันจะยากลำบากมากยิ่งขึ้นอีก แต่ลูกจงทำตามแบบอย่างของแม่เถิด จงสวดภาวนาวอนขอพละกำลังแห่งความเชื่อ จงไว้วางใจในความรักของพระบิดาสวรรค์ แม่จะอยู่กับพวกลูก แม่แสดงตัวของแม่เองแก่พวกลูก แม่ให้กำลังใจพวกลูก ด้วยความรักมากพ้นสุดประมาณในความเป็นมารดาของแม่ แม่เอาใจใส่จิตวิญญาณของพวกลูก
            ขอขอบใจลูก
 
 
ชีวิตของพระนางนั้น “เรียบง่าย” พระนาง “ทรงรักชีวิต” และ “ทรงชื่นชมยินดีในสิ่งเล็กน้อย” ถึงแม้จะทรงได้รับความทุกข์ยากลำบาก เป็นเพราะความเชื่ออันมั่นคงแข็งแรงของพระนางที่ “ไว้วางใจอย่างไม่สิ้นสุดในความรักของพระเจ้า” ที่ช่วยให้พระนางทรงมีชัยชนะเหนือความเจ็บปวดของชีวิตบนโลกนี้ได้
 
สาส์นตอนนี้ตรงกับชีวิตของมีรยานาในเวลานี้ด้วย เธอเชื่อมั่นในความรักของพระเจ้าทั้งๆที่เธอได้รับความเจ็บปวดและความทุกข์ ความเชื่อของเธอที่คอยค้ำจุนเธอ เราจะเห็นได้จากการที่เธอเลือกโดยไม่เห็นแก่ตัวที่จะอยู่ท่ามกลางประชาชนในการรับการประจักษ์ และเธอยังดำเนินชีวิตเป็นแบบอย่างของสตรีผู้หนึ่งที่รู้ดีในความรักของพระเจ้า

สาส์นของแม่พระให้ความใส่ใจต่อแต่ละบุคคลที่ได้อ่านในขณะที่พูดถึงมนุษยชาติโดยรวมในเวลาเดียวกัน เรื่องนี้ก็เป็นจริงสำหรับมีรยานา เธอไม่สามารถเดินขึ้นไปบนนเนินเขา และไม่สามารถคุกเข่าได้ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะ”ความเชื่อที่เข้มแข็ง” ของเธอ แม่พระยังได้ตรัสเพื่อเตือนใจมีรยานาและพวกเราทั้งหลายอีกว่า “ความเจ็บปวดทุกอย่างจะมีวันสิ้นสุดของมัน”
 
ในเวลาที่เดินกลับบ้าน มีรยานาผ่านกลุ่มผู้แสวงบุญ เธอได้ยื่นมือส่งสายประคำที่เสกแล้วให้พวกเขาและส่งยิ้มหรือสวมกอดพวกเขาบางคน มีคนหนึ่งที่เข้ามาคว้ามือของมีรยานาอย่างแรงจนทำให้หัวเข่าของเธอเคลื่อน คนๆนั้นกำมือของมีรยานาอย่างแรงและบิดกลับก่อนที่ชายที่เป็นอาสาสมัครจะมาช่วยคลายมือของมีรยานาออกมาได้ มีรยานาจึงต้องสวมใส่ที่รัดหัวแม่มือไว้ตั้งแต่บัดนั้น
 
แม่พระตรัสไว้ในสาส์นว่า “ลูกทั้งหลายของแม่ สงครามของลูกนั้นยากลำบาก” และทรงตรัสต่อไปว่า “และมันจะลำบากมากยิ่งขึ้นอีก”

ถึงแม้จะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเช่นนี้ มีรยานาบอกว่า แม่พระทรงประสงค์ให้พวกเราพุ่งความสนใจไปที่ความหวัง ไม่ใช่ความสิ้นหวัง และพระนางทรงเรียกพวกเราว่าเป็น “อัครสาวกแห่งความรัก” ของพระนาง
 
มีรยานาพูดว่า เป็นเพราะความรักของพระเจ้า จึงทรงให้แม่พระทรงมาประจักษ์ที่นี่ในเมดจูกอเรจ์ หมู่บ้านเล็กๆที่อยู่ห่างไกลในโลกที่พระนางเคยทรงดำเนินเมื่อสองพันปีก่อน พระนางเสด็จมาเพื่อให้กำลังใจแก่พวกเรา หลักฐานเรื่องนี้ก็อยู่ในสาส์นของวันที่ 18 มี.ค. 2018 นี้เอง
 
“ด้วยความรักอันมากมายสุดประมาณของแม่ แม่เอาใจใส่ในวิญญาณของพวกลูก”
***************
“มีรยานาตัวสั่นด้วยความเจ็บปวดจากหัวเข่าและสันหลัง แต่เมื่อแม่พระประจักษ์มา มีรยานาก็เป็นปกติไม่เจ็บปวดและไม่มีอาการสั่น”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น