วันอังคารที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2561

หมายสำคัญแห่งกาลเวลา

                สถานการณ์ของโลกในเวลานี้กำลังอยู่ในขั้นวิกฤต  สหรัฐอเมริการและประเทศพันธมิตร อังกฤษ ฝรั่งเศสได้โจมตีซีเรียซึ่งมีรัสเซียหนุนหลังอยู่  จนทำให้เกิดความวิตกว่าโลกอาจจะเข้าสู่ยุคแห่งสงครามครั้งใหญ่  สถานการณ์นี้ทำให้คิดถึงสาส์นที่แม่ทรงประทานในการประจักษ์ที่ยูเครน  เพื่อเป็นการพิจารณาในหมายสำคัญของกาลเวลา
 
*************
 
แม่พระแห่งยูเครน(1987)
วันที่ 9 เม.ย. 2018
by John W. Hauck
 
ปีที่แล้วเป็นปีครบรอบ100 ปีการประจักษ์ของแม่พระแห่งฟาติมา(1917)  และหลังจากการประจักษ์ที่ฟาติมา  อีก 70 ปีต่อมาแม่พระทรงประจักษ์ที่ยูเครน (1987) ซึ่งมีชื่อเรียกอีกอย่างว่าแม่พระแห่งฮรูชู Our Lady of Hrushiv (ออกเสียง Hru-Shoo).
 
ข้อมูลเกี่ยวกับการประจักษ์ที่ยูเครนนี้ผมนำมาจากหนังสือ Josyp Terelya: Witness to Apparitions and Persecution in the USSR. ซึ่งเป็นชีวประวัติของ โจซิฟ เทเรลยา (ผมเรียกเขาว่าโจเซฟ)


โจเซฟ เป็นผู้ได้รับพระพรพิเศษ (mystic ) ที่มีชื่อเสียงและรู้จักกันดีผู้หนึ่ง เขาได้รับความทุกข์เป็นอย่างมากในชีวิตในการเป็นคริสตชนภายใต้การปกครองของระบอบคอมมิวนิสต์ในประเทศนี้(ปัจจุบันก็ยังคงเป็นคอมมิวนิสต์อยู่ภายใต้รัสเซีย)  ต่อมาโจเซฟได้กลายเป็นมิตรสหายของพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2  มีรูปภาพของทั้งสองอยู่ร่วมกันในหนังสือเล่มนี้ด้วย ผู้สนใจเรื่องราวของแม่พระแห่งยูเครนจึงควรอ่านหนังสือเล่มนี้  แม่พระทรงประจักษ์ในหมู่บ้านเล็กๆหลายหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บริเวณตะวันตกของยูเครนในระหว่างปี 1980  และที่ฮรูชู Hrushiv มีเมืองเล็กๆที่ชื่อ Hoshiv อยู่ห่างจากฮรูชู 27 กิโลเมตรประกอบไปด้วยชุมชนหลายชุมชน อาทิเช่น Buchach, Ozerna, Kaminko-Buzsk, Berezhany, Zarvanystya. [Terelya, page 285.]
 
ทำไมแม่พระจึงทรงเลือกยูเครน? ทำไมจึงเป็นที่Hrushiv? แม่พระทรงประจักษ์ที่  Hrushiv ในปี 1914 ทรงประทานสาส์นเกี่ยวกับสงครามที่กำลังจะมาถึงและการเบียดเบียนอย่างรุนแรงถ้าหากรัสเซียไม่หันกลับมาหาองค์พระบุตรของพระนาง เป็นสาส์นที่มีมาก่อนฟาติมาเสียอีก ในหนังสือเขียนไว้ว่า “สาส์นของพระนางคล้ายกันกับสาส์นที่เด็กชาวโปรตุเกสสามคนได้รับที่ฟาติมา” [Terelya, page 21.]
 
ยูเครนเป็นประเทศแรกในยุโรป(อยู่สุดตะวันออกของยูโรป) ที่ได้ถวายประเทศแด่ดวงหทัยนิรมลของพระนางมารีย์ มีการประกอบพิธีถวายประเทศในราวปี 1000 โดยผู้นำประเทศที่มีความเชื่ออย่างลึกซึ้ง  ดังนั้นประเทศนี้จึงมีความศรัทธาในแม่พระและพระเยซูเจ้าเป็นอย่างมาก และดำรงความเชื่อนี้ยาวนานนับศตวรรษก่อนที่ใครจะคาดคิดว่าระบอบคอมมิวนิสต์จะเข้ามายึดครองประเทศในศตวรรษที่ 20
 
แม่พระทรงประจักษ์ที่ยูเครนในลักษณะที่พิเศษมากและคล้ายกับการประจักษ์ที่อิยิปต์  มีประชาชนนับหมื่นคนใน Hrushiv ได้เห็นพระแม่มารีย์ในความรุ่งโรจน์แห่งสวรรค์นานนับชั่วโมง เป็นเวลานานหลายวันเหนือโบสถ์พระตรีเอกภาพ  คนจำนวนมากจากที่ห่างไกลพากันเดินทางแสวงบุญมายังที่แห่งนี้ พวกเขาได้เห็นแม่พระติดตราตรึงใจของพวกเขา มีพวกทหารการ์ดคอมมิวนิสต์ก็ได้เห็นด้วย  ทหารที่ถูกส่งมาควบคุมประชาชนได้ทิ้งปืนของพวกเขาและกลับใจ

แต่มีปรากฏการณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งในการประจักษ์ที่ Hrushiv ซึ่งไม่มีในการประจักษ์ที่อิยิปต์ และไม่มีในการประจักษ์ที่ใดในโลกด้วย  ที่ Hrushiv นี้ แม่พระตรัสกับประชาชนเกือบทุกคนที่ได้เห็นและเป็นพยานในการประจักษ์ของพระนาง นั่นคือตรัสกับประชาชนนับหมื่นคนในเวลาเดียวกัน  และพระนางทรงประทานสาส์นเป็นพิเศษแก่ โจเซฟ เทเรลยา  คนนับหมื่นได้ยินเสียงของพระนาง และพระนางตรัสกับแต่ละคน  การประจักษ์นี้เริ่มต้นหลังการเกิดระเบิดของโรงงานนิวเคลียร์ที่เชอร์โนบิลซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ใกล้เคียง  นั่นคือการประจักษ์ที่ Hrushiv เริ่มต้นในวันที่ 26 เม.ย. 1986 และสิ้นสุดวันที่ 26 เม.ย. 1987 นาน 1 ปีพอดี  และตลอดเดือนกันยายน 1987 แม่พระยังคงประจักษ์ต่อไปในหมู่บ้านต่างๆนานหลายปีต่อจากวันที่ระบุมานั้น
 
โลกตะวันตกยังคงไม่ค่อยรู้เรื่องราวการประจักษ์ที่ยูเครนมากนัก และการประจักษ์นี้ยังไม่ได้รับการรับรองจากพระสังฆราชท้องถิ่นและจากทางวาติกัน  ประชาชนที่นั่นได้รับความเดือดร้อนจากทางการเมืองเหมือนกับตอนเริ่มต้นการประจักษ์ที่เมดจูกอเรจ์  มีแต่พระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 และพระคาร์ดินัลรัธซิงเกอร์เท่านั้นที่สนใจ
 
สาส์นของแม่พระที่ประทานแก่โจเซฟ พอสรุปได้ดังข้างล่างนี้  ผมได้ย่อสาส์นเพื่อไม่ให้ยาวเกินไป
 
(หน้า 8) สาส์นประทานเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 1987 สามปีหลังจากพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ทรงประกอบพิธีถวายโลกและรัสเซียแด่ดวงหทัยนิรมลของพระนามารีย์ในวันที่ 25 มี.ค. 1984 (และทรงถวายถึงสองครั้งในสองปี)
 
 “ยูเครน โอ ลูกสาวของแม่  แม่ได้มาหาลูก  เพราะลูกมีความทุกข์มากที่สุด และโดยอาศัยความทุกข์ของลูก ลูกได้ดำรงความเชื่อของลูกในดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ไว้ได้  แม่มาหาลูกเพื่อที่ลูกจะได้ทำให้รัสเซียกลับใจ  จงสวดภาวนาเพื่อรัสเซีย สวดภาวนาสำหรับชาวรัสเซียผู้ที่สูญเสียไป  เพราะถ้าหากรัสเซียไม่ยอมรับพระคริสต์เป็นกษัตริย์ของพวกเขา  สงครามโลกครั้งที่สามก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้”
 
ต่อไปนี้เป็นสาส์นอีกอันหนึ่งเกี่ยวกับรัสเซีย และประทานในปี 1987
 
“รัสเซียยังคงปฏิเสธที่จะรับรู้ถึงองค์พระบุตรของแม่อยู่ต่อไป  รัสเซียปฏิเสธความรักที่แท้จริงและยังคงดำรงอยู่ในอำนาจของปีศาจ  แม่ไม่ได้วอนขอให้สวดภาวนาเพื่อชาวรัสเซียที่สูญเสียไปหรอกหรือ? ถ้าหากรัสเซียยังไม่ยอมรับพระคริสต์เป็นกษัตริย์ของพวเขาแล้ว โลกทั้งโลกจะต้องพินาศ”
 
ผมจะไม่พูดถึงคำทำนายทั้งหมดที่ประทานแก่โจเซฟ  คุณสามารถอ่านได้เองจากหนังสือ  แต่จะพูดเป็นบางส่วน  อย่างเช่น โจเซฟได้เห็นใบหน้าของคน 19 คนในอากาศ เขาจำใบหน้าของบางคนได้  พวกเขาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล บางคนเป็นสายลับ KGB บางคนเป็นพระสงฆ์และคาร์ดินัล  ใบหน้าของทุกคนถูกควบคุม “ถึงแม้พวกเขาจะยิ้ม  แต่พวกเขายิ้มด้วยความกลัว  สายตาของพวกเขาเป็นอะไรที่น่าเชื่อถือ”
โจเซฟบอกว่า เขาไม่รู้สึกกลัว  แทนที่จะเป็นเช่นนั้นเขากลับรู้สึกถึงความสยองขวัญในการเห็นพวกเขา
 
“เมื่อผมเห็นพวกเขา ผมเริ่มเข้าใจถึงภยันตรายอันยิ่งใหญ่ที่พระศาสนจักรเผชิญอยู่  มีใบหน้าของหลายคนที่ผมไม่คาดคิดว่าจะได้เห็น” แม่พระตรัสกับโจเซฟให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับเอาไว้ [Terelya, page 272]
 
โจเซฟเดินทางไปที่โรมหลังจากการประจักษ์สิ้นสุดในปี 1987 เพื่อเข้าเฝ้าพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 เขาได้พบกับพระคาร์ดินัลซึ่งเขาเห็นในนิมิต โจเซฟบอกว่าเขาใช้เวลาถึง 5 ชั่วโมงพูดคุยกับพระคาร์ดินัลท่านนั้น – พระคาร์ดินัลรัธซิงเกอร์  พระคาร์ดินัลบอกโจเซฟให้เล่าเรื่องประสบการณ์ของเขาแก่ผู้คนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้  และเขาก็ได้ทำตาม เขายังได้ไปพูดในรัฐสภาของสหรัฐด้วยตามคำเชิญของวุฒิสมาชิกท่านหนึ่งซึ่งมีความเชื่อความศรัทธาในความเชื่อคาทอลิกและเชื่อในฟาติมา [ในหน้า 311]โจเซฟกล่าวว่า “การประจักษ์ของพระมารดาแห่งพระเจ้าที่เมดจูกอเรจ์เป็นการสนับสนุนการประจักษ์ที่ฟาติมา  และในไม่ช้าก็จะเป็นการสนับสนุนการประจักษ์ที่ Hrushiv ในยูเครนด้วย”
 
ผมขอนำคำพูดของผู้ศักดิ์สิทธิ์บางคนมาไว้ ณ.ที่นี้
 
-            พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 วันที่ 13 พ.ค. 2010 ที่ฟาติมา
“คงเป็นการหลอกตัวเองถ้าหากคิดว่า ภารกิจแห่งฟาติมาได้สำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว”
 
-            ซิสเตอร์ลูซีอา  วันที่ 26 ธ.ค. 1957 ถึง คุณพ่อ ออกุสติน ฟูเอนเตส
“คุณพ่อคะ  แม่พระไม่ได้ตรัสกับลูกว่าพวกเรากำลังอยู่ในช่วงเวลาแห่งวาระสุดท้ายของโลก  แต่พระนางทรงทำให้ลูกมีความเข้าใจเหตุผลสามประการ เหตุผลประการแรกคือพระนางทรงบอกลูกว่า ปีศาจกำลังเกรี้ยวกราดในการทำสงครามต่อสู้กับพระนาง  และในสงครามนี้จะต้องมีฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ชนะ และอีกฝ่ายหนึ่งเป็นผู้แพ้  ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เราจะต้องเลือกว่าจะอยู่ฝ่ายใด เราจะอยู่ข้างพระเจ้า หรือเราจะอยู่ข้างปีศาจ  เราไม่สามารถทำอย่างอื่นได้  เหตุผลประการที่สองคือ พระนางตรัสกับลูกและลูกพี่ลูกน้องของลูกว่า พระเจ้าทรงประทานความช่วยเหลือแก่โลกสองอย่างคือ สายประคำศักดิ์สิทธิ์ และความศรัทธาต่อดวงหทัยนิรมลของแม่พระ นี่คือความช่วยเหลือสุดท้ายสองอย่าง ซึ่งจะไม่มีอย่างอื่นอีก เหตุผลประการที่สามคือ ในแผนการแห่งพระญาณเอื้ออาทรของพระเจ้า  ก่อนที่พระองค์จะทรงลงโทษโลก  พระองค์จะทรงยุติความช่วยเหลือทุกอย่าง”
 
–John W. Hauck,  Milford, Ohio
 
*****************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น