สถานการณ์ของโลกในเวลานี้กำลังอยู่ในขั้นวิกฤต สหรัฐอเมริการและประเทศพันธมิตร อังกฤษ
ฝรั่งเศสได้โจมตีซีเรียซึ่งมีรัสเซียหนุนหลังอยู่
จนทำให้เกิดความวิตกว่าโลกอาจจะเข้าสู่ยุคแห่งสงครามครั้งใหญ่
สถานการณ์นี้ทำให้คิดถึงสาส์นที่แม่ทรงประทานในการประจักษ์ที่ยูเครน เพื่อเป็นการพิจารณาในหมายสำคัญของกาลเวลา
*************
แม่พระแห่งยูเครน(1987)
วันที่ 9 เม.ย.
2018
by John W.
Hauck
ปีที่แล้วเป็นปีครบรอบ100 ปีการประจักษ์ของแม่พระแห่งฟาติมา(1917) และหลังจากการประจักษ์ที่ฟาติมา อีก 70 ปีต่อมาแม่พระทรงประจักษ์ที่ยูเครน
(1987) ซึ่งมีชื่อเรียกอีกอย่างว่าแม่พระแห่งฮรูชู Our Lady of Hrushiv (ออกเสียง Hru-Shoo).
ข้อมูลเกี่ยวกับการประจักษ์ที่ยูเครนนี้ผมนำมาจากหนังสือ
Josyp
Terelya: Witness to Apparitions and Persecution in the USSR. ซึ่งเป็นชีวประวัติของ โจซิฟ
เทเรลยา (ผมเรียกเขาว่าโจเซฟ)
โจเซฟ เป็นผู้ได้รับพระพรพิเศษ (mystic ) ที่มีชื่อเสียงและรู้จักกันดีผู้หนึ่ง
เขาได้รับความทุกข์เป็นอย่างมากในชีวิตในการเป็นคริสตชนภายใต้การปกครองของระบอบคอมมิวนิสต์ในประเทศนี้(ปัจจุบันก็ยังคงเป็นคอมมิวนิสต์อยู่ภายใต้รัสเซีย)
ต่อมาโจเซฟได้กลายเป็นมิตรสหายของพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 มีรูปภาพของทั้งสองอยู่ร่วมกันในหนังสือเล่มนี้ด้วย
ผู้สนใจเรื่องราวของแม่พระแห่งยูเครนจึงควรอ่านหนังสือเล่มนี้
แม่พระทรงประจักษ์ในหมู่บ้านเล็กๆหลายหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บริเวณตะวันตกของยูเครนในระหว่างปี
1980 และที่ฮรูชู Hrushiv มีเมืองเล็กๆที่ชื่อ Hoshiv อยู่ห่างจากฮรูชู 27
กิโลเมตรประกอบไปด้วยชุมชนหลายชุมชน อาทิเช่น Buchach, Ozerna,
Kaminko-Buzsk, Berezhany, Zarvanystya. [Terelya, page 285.]
ทำไมแม่พระจึงทรงเลือกยูเครน? ทำไมจึงเป็นที่Hrushiv? แม่พระทรงประจักษ์ที่
Hrushiv ในปี 1914 ทรงประทานสาส์นเกี่ยวกับสงครามที่กำลังจะมาถึงและการเบียดเบียนอย่างรุนแรงถ้าหากรัสเซียไม่หันกลับมาหาองค์พระบุตรของพระนาง
เป็นสาส์นที่มีมาก่อนฟาติมาเสียอีก ในหนังสือเขียนไว้ว่า “สาส์นของพระนางคล้ายกันกับสาส์นที่เด็กชาวโปรตุเกสสามคนได้รับที่ฟาติมา”
[Terelya, page 21.]
ยูเครนเป็นประเทศแรกในยุโรป(อยู่สุดตะวันออกของยูโรป)
ที่ได้ถวายประเทศแด่ดวงหทัยนิรมลของพระนางมารีย์ มีการประกอบพิธีถวายประเทศในราวปี
1000 โดยผู้นำประเทศที่มีความเชื่ออย่างลึกซึ้ง
ดังนั้นประเทศนี้จึงมีความศรัทธาในแม่พระและพระเยซูเจ้าเป็นอย่างมาก และดำรงความเชื่อนี้ยาวนานนับศตวรรษก่อนที่ใครจะคาดคิดว่าระบอบคอมมิวนิสต์จะเข้ามายึดครองประเทศในศตวรรษที่
20
แม่พระทรงประจักษ์ที่ยูเครนในลักษณะที่พิเศษมากและคล้ายกับการประจักษ์ที่อิยิปต์ มีประชาชนนับหมื่นคนใน Hrushiv
ได้เห็นพระแม่มารีย์ในความรุ่งโรจน์แห่งสวรรค์นานนับชั่วโมง
เป็นเวลานานหลายวันเหนือโบสถ์พระตรีเอกภาพ
คนจำนวนมากจากที่ห่างไกลพากันเดินทางแสวงบุญมายังที่แห่งนี้
พวกเขาได้เห็นแม่พระติดตราตรึงใจของพวกเขา มีพวกทหารการ์ดคอมมิวนิสต์ก็ได้เห็นด้วย ทหารที่ถูกส่งมาควบคุมประชาชนได้ทิ้งปืนของพวกเขาและกลับใจ
แต่มีปรากฏการณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งในการประจักษ์ที่
Hrushiv ซึ่งไม่มีในการประจักษ์ที่อิยิปต์ และไม่มีในการประจักษ์ที่ใดในโลกด้วย ที่ Hrushiv นี้ แม่พระตรัสกับประชาชนเกือบทุกคนที่ได้เห็นและเป็นพยานในการประจักษ์ของพระนาง
นั่นคือตรัสกับประชาชนนับหมื่นคนในเวลาเดียวกัน และพระนางทรงประทานสาส์นเป็นพิเศษแก่ โจเซฟ
เทเรลยา คนนับหมื่นได้ยินเสียงของพระนาง
และพระนางตรัสกับแต่ละคน
การประจักษ์นี้เริ่มต้นหลังการเกิดระเบิดของโรงงานนิวเคลียร์ที่เชอร์โนบิลซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ใกล้เคียง นั่นคือการประจักษ์ที่ Hrushiv เริ่มต้นในวันที่ 26 เม.ย. 1986 และสิ้นสุดวันที่ 26 เม.ย. 1987 นาน 1
ปีพอดี และตลอดเดือนกันยายน 1987 แม่พระยังคงประจักษ์ต่อไปในหมู่บ้านต่างๆนานหลายปีต่อจากวันที่ระบุมานั้น
โลกตะวันตกยังคงไม่ค่อยรู้เรื่องราวการประจักษ์ที่ยูเครนมากนัก
และการประจักษ์นี้ยังไม่ได้รับการรับรองจากพระสังฆราชท้องถิ่นและจากทางวาติกัน
ประชาชนที่นั่นได้รับความเดือดร้อนจากทางการเมืองเหมือนกับตอนเริ่มต้นการประจักษ์ที่เมดจูกอเรจ์ มีแต่พระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2
และพระคาร์ดินัลรัธซิงเกอร์เท่านั้นที่สนใจ
สาส์นของแม่พระที่ประทานแก่โจเซฟ
พอสรุปได้ดังข้างล่างนี้
ผมได้ย่อสาส์นเพื่อไม่ให้ยาวเกินไป
(หน้า 8) สาส์นประทานเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 1987
สามปีหลังจากพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ทรงประกอบพิธีถวายโลกและรัสเซียแด่ดวงหทัยนิรมลของพระนามารีย์ในวันที่
25 มี.ค. 1984 (และทรงถวายถึงสองครั้งในสองปี)
“ยูเครน
โอ ลูกสาวของแม่ แม่ได้มาหาลูก เพราะลูกมีความทุกข์มากที่สุด
และโดยอาศัยความทุกข์ของลูก
ลูกได้ดำรงความเชื่อของลูกในดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ไว้ได้ แม่มาหาลูกเพื่อที่ลูกจะได้ทำให้รัสเซียกลับใจ จงสวดภาวนาเพื่อรัสเซีย สวดภาวนาสำหรับชาวรัสเซียผู้ที่สูญเสียไป
เพราะถ้าหากรัสเซียไม่ยอมรับพระคริสต์เป็นกษัตริย์ของพวกเขา สงครามโลกครั้งที่สามก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้”
ต่อไปนี้เป็นสาส์นอีกอันหนึ่งเกี่ยวกับรัสเซีย
และประทานในปี 1987
“รัสเซียยังคงปฏิเสธที่จะรับรู้ถึงองค์พระบุตรของแม่อยู่ต่อไป
รัสเซียปฏิเสธความรักที่แท้จริงและยังคงดำรงอยู่ในอำนาจของปีศาจ
แม่ไม่ได้วอนขอให้สวดภาวนาเพื่อชาวรัสเซียที่สูญเสียไปหรอกหรือ?
ถ้าหากรัสเซียยังไม่ยอมรับพระคริสต์เป็นกษัตริย์ของพวเขาแล้ว โลกทั้งโลกจะต้องพินาศ”
ผมจะไม่พูดถึงคำทำนายทั้งหมดที่ประทานแก่โจเซฟ คุณสามารถอ่านได้เองจากหนังสือ แต่จะพูดเป็นบางส่วน อย่างเช่น โจเซฟได้เห็นใบหน้าของคน 19 คนในอากาศ
เขาจำใบหน้าของบางคนได้ พวกเขาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล
บางคนเป็นสายลับ KGB บางคนเป็นพระสงฆ์และคาร์ดินัล
ใบหน้าของทุกคนถูกควบคุม “ถึงแม้พวกเขาจะยิ้ม แต่พวกเขายิ้มด้วยความกลัว สายตาของพวกเขาเป็นอะไรที่น่าเชื่อถือ”
โจเซฟบอกว่า เขาไม่รู้สึกกลัว แทนที่จะเป็นเช่นนั้นเขากลับรู้สึกถึงความสยองขวัญในการเห็นพวกเขา
“เมื่อผมเห็นพวกเขา ผมเริ่มเข้าใจถึงภยันตรายอันยิ่งใหญ่ที่พระศาสนจักรเผชิญอยู่ มีใบหน้าของหลายคนที่ผมไม่คาดคิดว่าจะได้เห็น”
แม่พระตรัสกับโจเซฟให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับเอาไว้ [Terelya, page 272]
โจเซฟเดินทางไปที่โรมหลังจากการประจักษ์สิ้นสุดในปี
1987 เพื่อเข้าเฝ้าพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2
เขาได้พบกับพระคาร์ดินัลซึ่งเขาเห็นในนิมิต โจเซฟบอกว่าเขาใช้เวลาถึง 5
ชั่วโมงพูดคุยกับพระคาร์ดินัลท่านนั้น – พระคาร์ดินัลรัธซิงเกอร์ พระคาร์ดินัลบอกโจเซฟให้เล่าเรื่องประสบการณ์ของเขาแก่ผู้คนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเขาก็ได้ทำตาม
เขายังได้ไปพูดในรัฐสภาของสหรัฐด้วยตามคำเชิญของวุฒิสมาชิกท่านหนึ่งซึ่งมีความเชื่อความศรัทธาในความเชื่อคาทอลิกและเชื่อในฟาติมา
[ในหน้า
311]โจเซฟกล่าวว่า “การประจักษ์ของพระมารดาแห่งพระเจ้าที่เมดจูกอเรจ์เป็นการสนับสนุนการประจักษ์ที่ฟาติมา และในไม่ช้าก็จะเป็นการสนับสนุนการประจักษ์ที่ Hrushiv ในยูเครนด้วย”
ผมขอนำคำพูดของผู้ศักดิ์สิทธิ์บางคนมาไว้
ณ.ที่นี้
-
พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่
16 วันที่ 13 พ.ค. 2010 ที่ฟาติมา
“คงเป็นการหลอกตัวเองถ้าหากคิดว่า
ภารกิจแห่งฟาติมาได้สำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว”
-
ซิสเตอร์ลูซีอา วันที่ 26 ธ.ค. 1957 ถึง คุณพ่อ ออกุสติน
ฟูเอนเตส
“คุณพ่อคะ แม่พระไม่ได้ตรัสกับลูกว่าพวกเรากำลังอยู่ในช่วงเวลาแห่งวาระสุดท้ายของโลก แต่พระนางทรงทำให้ลูกมีความเข้าใจเหตุผลสามประการ
เหตุผลประการแรกคือพระนางทรงบอกลูกว่า ปีศาจกำลังเกรี้ยวกราดในการทำสงครามต่อสู้กับพระนาง และในสงครามนี้จะต้องมีฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ชนะ
และอีกฝ่ายหนึ่งเป็นผู้แพ้
ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เราจะต้องเลือกว่าจะอยู่ฝ่ายใด
เราจะอยู่ข้างพระเจ้า หรือเราจะอยู่ข้างปีศาจ
เราไม่สามารถทำอย่างอื่นได้ เหตุผลประการที่สองคือ
พระนางตรัสกับลูกและลูกพี่ลูกน้องของลูกว่า พระเจ้าทรงประทานความช่วยเหลือแก่โลกสองอย่างคือ
สายประคำศักดิ์สิทธิ์ และความศรัทธาต่อดวงหทัยนิรมลของแม่พระ
นี่คือความช่วยเหลือสุดท้ายสองอย่าง ซึ่งจะไม่มีอย่างอื่นอีก
เหตุผลประการที่สามคือ ในแผนการแห่งพระญาณเอื้ออาทรของพระเจ้า ก่อนที่พระองค์จะทรงลงโทษโลก พระองค์จะทรงยุติความช่วยเหลือทุกอย่าง”
–John W.
Hauck, Milford, Ohio
*****************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น