วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

คุณแม่เทเรซากับทหารเรือ

ซิสเตอร์เอมมานูเอล ชาวฝรั่งเศสผู้ทำงานในชุมชน Beatitudes community ในเฮอร์เซโกวีนา ท่านได้เขียนหนังสือเล่มใหม่ ชื่อ Scandalous Mercy เล่าเรื่องของทหารเรือสหรัฐผู้เป็นคาทอลิกใจศรัทธาผู้หนึ่งชื่อ จิม เขามีความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะได้พบกับคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตาสักครั้งหนึ่ง
 
จิม มีอายุ 32 ปี เขาได้รับอนุญาติให้ลาหยุดพักผ่อนเป็นเวลา 10 วัน ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะบินจากซานฟรานซิสโกไปยังกัลกัตตาที่ห่างไกลกันถึง8,000 ไมล์ เมื่อเครื่องบินลงจอดที่กัลกัตตา จิมก็นั่งรถแท็กซี่เข้าไปในตัวเมือง เขารู้สึกไม่คุ้นเคยกับสภาพอากาศที่ร้อนชื้น เต็มไปด้วยฝุ่น ถนนที่แคบ ขยะตามข้างทางที่กลาดเกลื่อนไปทั่วเมือง เป็นสภาพที่ทำให้เขาถึงกับตกใจ  เมื่อมาถึงอารามบ้านของซิสเตอร์คณะธรรมทูตแห่งเมตตาธรรม (Missionaries of Charity) ซึ่งคุณแม่เทเรซาเป็นผู้ก่อตั้ง  ซิสเตอร์ชาวอินเดียร่างเล็กผู้หนึ่งได้ออกมาต้อนรับ  จิมบอกกับซิสเตอร์ว่าเขามาที่นี่เพราะต้องการพบกับคุณแม่เทเรซา  ซิสเตอร์ตอบเขาว่า “เสียใจด้วยค่ะ คุณแม่เทเรซาไม่อยู่ ท่านเดินทางไปที่กรุงโรม”



กรุงโรม!

จิม รู้สึกผิดหวัง ความฝันที่จะได้พบกับคุณแม่เทเรซาช่างอยู่ห่างไกลเหลือเกิน อย่างไรก็ตาม จิมตัดสินใจว่าจะอยู่คอยพบกับคุณแม่เทเรซาให้จงได้ เขายอมรับสภาพและหวังในพระญาณเอื้ออาทรของพระเจ้า (พระเยซูเจ้าข้า ลูกวางใจในพระองค์) จิมถามซิสเตอร์ว่าเขาจะสามารถทำงานช่วยเหลืออะไรได้บ้างในระหว่างที่รอ?

“ได้แน่นอนค่ะ” ซิสเตอร์พูด “มีสามวิธีที่คุณจะสามารถช่วยได้ :  ทำความสะอาดบ้าน  เข้าครัวทำอาหาร  หรือ ดูแลคนใกล้ตาย”
 
ตามที่ซิสเตอร์เอมมานูเอลเขียนไว้ในหนังสือ จิมทำอาหารไม่ได้  และเขาก็ไม่ถนัดในการดูแลคนใกล้ตาย ดังนั้นเขาจึงขอทำงานทำความสะอาดบ้าน และเขาได้ห้องเล็กๆห้องหนึ่งเพื่อเป็นที่หลับนอน ห้องอยู่ใกล้กับถนนที่มีเสียงดังอึกทึก  “ช่างแตกต่างจากบ้านของเขาที่สะอาดสะอ้านเป็นอย่างยิ่ง” ซิสเตอร์เอมมานูเอลเขียน

ในที่สุดเมื่อถึงวันสุดท้ายของวันหยุดพักผ่อนที่เขาได้รับอนุญาตให้ลาได้ ซิสเตอร์ผู้หนึ่งที่นั่นขอให้เขาเฝ้าประตูบ้านเพื่อตอบคำถามของผู้ที่จะมาเยือน จิมยอมรับทำหน้าที่นั้นแทนซิสเตอร์ถึงแม้ว่าเขามีแผนที่จะไปเที่ยวสำรวจในเมืองในวันนั้นก็ตาม และในเวลาเช้าวันนั้นเอง เมื่อมีเสียงกริ่งประตูดังขึ้น จิมเปิดประตูต้อนรับ  และผู้ที่ยืนอยู่หน้าประตูนั้นคือ คุณแม่เทเรซา นั่นเอง!

            เขาฝันไปหรือ?



ทันใดนั้น จิมคิดว่าเขาได้ฝันไปหรือเปล่า คุณแม่เทเรซายืนอยู่ที่หน้าประตูแล้ว บุคคลที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกรองจากพระสันตะปาปา ท่านยืนอยู่ที่นั่นแล้ว รูปร่างเล็ก ตัวสูงเพียงครึ่งเดียวของเขา ท่านพูดอะไรบางอย่างสองสามคำ แววตาของท่านแสดงให้เห็นถึงความเมตตากรุณา

คุณแม่เทเรซากล่าวด้วยคำพูดง่ายๆว่า “มากับฉันซิ เรามีงานที่ต้องทำ” แล้วท่านก็นำทางเขาไปอย่างเงียบ ผ่านสลัมไปจนถึงสะพานแห่งหนึ่งซึ่งบรรยากาศคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหม็นจนสุดจะทน จิมแทบจะอาเจียน แต่คุณแม่เทเรซายังคงสงบและดูไม่สนใจนัก



ที่ใต้สะพานนี้ ที่พื้นดินมีชายชราผู้หนึ่งนอนอยู่ “เขานอนทับอยู่บนของเสียและสิ่งที่เขาอาเจียนออกมา ของเสียเหล่านี้กองอยู่และเพิ่มขึ้นบนที่นอนของเขา เป็นอยู่เช่นนี้มานานหลายเดือนแล้วหรืออาจจะเป็นปี” กลิ่นเหม็นรุนแรงมากจนจิมต้องเบือนหน้าหนี ชายชรามีบาดแผลและมันดึงดูดแมลงวันเข้ามาบินตอม

“อุ้มเขาซิ"  คุณแม่เทเรซาบอกจิม
 
“อุ้มเขาหรือ?”

"สัมผัสเขาหรือ?”

จิมดึงแขนเสื้อมาปิดทับแขนของเขาเพื่อที่มันจะไม่สัมผัสโดยตรง เขาอุ้มชายชราขึ้นและเดินมุ่งหน้าตรงไปที่อารามพร้อมกับคุณแม่เทเรซา และเมื่อถึงแล้วคุณแม่เทเรซาก็สอนเขาให้อาบน้ำให้ชายชราผู้นั้น

นี่คงเป็นสิ่งสุดท้ายในโลกที่จิมต้องการทำ แต่จิมไม่ต้องการทำให้คุณแม่เทเรซาผิดหวังในตัวเขา และไม่ต้องการให้ชายชราจดจำว่าชายชาวอเมริกันคนนี้จากเขาไปเพราะรังเกียจในตัวของเขา

ดังนั้นจิมจึงเริ่มอาบน้ำทำความสะอาดให้ชายชราในอ่างน้ำ เขายกตัวชายชราไร้บ้านให้สูงขึ้นอย่างเบาๆ (เขามักจะลื่นไหลลงไปที่ก้นอ่างเสมอ) น้ำค่อยๆชะล้างไปตามร่างกาย เปิดเผยให้เห็นแผลสดๆ จิมโอบชายชราไว้ในอ้อมแขน เพื่อทำให้เขารู้สึกว่าเขาไม่ได้อยู่ตามลำพังในวาระสุดท้ายของชีวิต จิมทำให้ชายชรารู้สึกผ่อนคลายลง

เวลานี้พระเยซูเจ้าทรงอยู่ในอ้อมแขนของจิม จิมกระพริบตาถี่ๆแต่เขาก็ยังคงเห็นเช่นนั้น จิมมองเห็นหรือคิดไปเองว่ามองเห็น “เขากำลังโอบกอดพระเจ้าไว้ในอ้อมแขนของเขา” ซิสเตอร์เอมมานูเอลเขียน

"มันไม่ใช่ภาพนิมิต แต่เป็นพระเยซูเจ้าเอง พระองค์มีรอยแผลเป็นรูที่มือและเท้าของพระองค์ ที่สีข้างของพระองค์มีรอยแผลถูกแทง พระพักตร์บวมเป่งจากการถูกทำร้าย”



และดูเหมือนว่าคุณแม่เทเรซาก็ได้เห็นเช่นเดียวกัน

“คุณได้เห็นพระองค์” คุณแม่พูดกับจิมด้วยรอยยิ้ม “ใช่ไหม?”
 
รายละเอียดเรื่องนี้มีอยู่ในหนังสือ แต่ยังมีต่อไปอีก  เมื่อจิมมองไปอีกครั้ง ชายที่อยู่ในอ้อมแขนของเขากลับเป็นชายชราไร้บ้านที่กำลังเสียชีวิต และคุณแม่เทเรซาก็ไม่อยู่แล้ว

จิมต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงเพื่อจะให้สติกลับคืนมาจากความตกใจ  เขารีบไปที่ห้องของเขา ร่างกายสั่นสะท้านไปทั้งตัว และเมื่อเขามีสติดีขึ้น เขาก็ออกตามหาคุณแม่เทเรซาเพื่อสอบถามว่าได้เกิดอะไรขึ้น

“เสียใจด้วยค่ะ บราเดอร์” ซิสเตอร์ที่เดินผ่านมาพูด “แต่คุณแม่เทเรซาไม่ได้อยู่ที่นี่ ท่านยังอยู่ที่กรุงโรมอีกหลายวัน”
 
อย่างไรก็ตาม จิมพูดยืนยันว่าเขาได้เห็นคุณแม่เทเรซา เขาได้พบกับท่าน ได้เดินไปตามตรอกซอกซอยที่สกปรกพร้อมกับท่าน ไปที่สะพานนั้น

ซิสเตอร์ผู้นั้นได้แต่ยิ้มและพูดว่า “ค่ะ ใช่ค่ะ ฉันเข้าใจ คุณแม่เคยทำเช่นนี้ในบางครั้ง”

ในหนังสือเขียนไว้ว่า “จนถึงวันนี้ มีทหารเรือสหรัฐคนหนึ่งที่ความฝันของเขาได้เป็นจริง”

“และชีวิตของเขาจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ที่ใต้สะพานเล็กๆในกัลกัตตา ในใจกลางของการถูกทอดทิ้งที่มืดดำที่สุดของมนุษยชาติ เขาได้สัมผัสพระพักตร์ของพระเจ้า”

*******************

1 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณนะครับ ที่แบ่งปันเรื่องราวดีๆ มากมาย ... ผมเชื่อว่าคุณเป็นเครื่องมือของพระเจ้า ในการชักชวนให้ผู้คนมากมายได้กลับใจ และศรัทธาต่อพระมากขึ้น ... เป็นกำลังใจ และจะสวดภาวนาให้นะครับ

    ตอบลบ