การประกอบพิธีมิสซาเพียงมิสซาเดียวมีอำนาจมหาศาลที่ไม่อาจประมาณวัดได้ นักบุญเทเรซาอธิบายไว้ว่า โลกคงถูกทำลายไปนานแล้วถ้าหากปราศจากการประกอบพิธีมิสซา พิธีมิสซาเป็นเพียงสิ่งเดียวที่สามารถยึดพระหัตถ์แห่งพระยุติธรรมของพระเจ้าไว้ได้
ปราศจากการประกอบพิธีมิสซาในโลกนี้ นักบุญเทเรซาพูดต่อ “ทุกสิ่งที่อยู่ในโลกจะต้องพินาศ”
"การประกอบพิธีมิสซาอย่างดี เพียงมิสซาเดียว และผู้ร่วมพิธีได้ร่วมพิธีอย่างดี ให้ผลลัพท์อันไม่อาจจินตนาการได้เลย ความต้องการของชาวเรา การวอนขอของชาวเราสามารถขึ้นไปถึงพระเจ้าได้ด้วยพิธีกรรมนี้ และดิฉันพบว่าผลลัพท์นี้จะบังเกิดขึ้นเป็นพิเศษในขณะที่แผ่นศีลมหาสนิทและจอกกาลิกษ์ถูกยกขึ้นโดยมือของพระสงฆ์ เพราะในเวลานั้น ภายในจอกกาลิกษ์บรรจุพระโลหิตของพระคริสตเจ้า และพระโลหิตนี้ทรงอำนาจยิ่งนักในการชำระล้างบาปทั้งสิ้น เป็นพระโลหิตที่ได้หลั่งออกมาเพื่อไถ่กู้มนุษยชาติให้รอด"
เป็นพระโลหิตที่ปีศาจหวาดกลัวมากที่สุด มากยิ่งกว่าสิ่งใดทั้งสิ้น เพราะพระโลหิตได้สถาปนาพระธรรมชาติลึกลับอันไม่อาจเข้าใจได้ของพระคริสต์ไว้ในโลกและกำจัดความชั่วร้ายออกไป เป็นยัญบูชาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ เพราะการไถ่กู้มนุษยชาติหมายถึงการทำลายสิ่งผูกมัดของซาตาน พระโลหิตทรงฤทธิอำนาจในการกำจัดจิตที่ชั่วร้าย
ในระหว่างพิธีมิสซาเราควรวิงวอนต่อพระโลหิตของพระคริสต์ด้วยสิ้นสุดจิตใจเพื่อการดำเนินชีวิตของเรา เราควรวิงวอนเพื่อครอบครัวและมิตรสหายของเรา
เราควรวิงวอนเพื่อพระศาสนจักรและชุมชนของเรา เราควรวิงวอนเพื่อทุกสิ่งที่จำเป็นเพราะพระโลหิตทรงฤทธิ์ในการเยียวยารักษาและบรรเทาปัญหาทั้งปวง นั่นคือในการกำจัดปีศาจและความชั่วร้ายของมัน ไม่มีสิ่งใดที่มีประสิทธิภาพเท่ากับพระโลหิตของพระคริสตเจ้า
เพราะพระโลหิตของพระคริสต์ทรงมีชัยชนะเหนือซาตาน ณ. เขากาวารี
“พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าไม่สมควรจะรับเสด็จมาประทับอยู่กับข้าพเจ้า แต่ขอโปรดตรัสเพียงพระวาจาเดียว แล้วจิตใจข้าพเจ้าก็จะบริสุทธิ์”
เวลานี้คือเวลาที่น่าอภิรมย์ยินดียิ่งนัก เวลานี้คือช่วงเวลาพิเศษที่อยู่เหนือความเข้าใจของเรา เวลานี้คือเวลาที่เราได้สัมผัสกับนิรันดรภาพ
“พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าไม่สมควรจะรับเสด็จมาประทับอยู่กับข้าพเจ้า แต่ขอโปรดตรัสเพียงพระวาจาเดียว แล้วจิตใจข้าพเจ้าก็จะบริสุทธิ์”
หลังจากสวดภาวนาบทนี้แล้ว ให้เราสวดภาวนาเป็นการส่วนตัวเพื่อวอนขอการอภัยบาปสำหรับคนในครอบครัวของเรา และคนบาปทุกคนในโลก เพื่อเปิดประตูแห่งพระหรรษทานของพระเจ้าให้แก่คนบาปทั้งหลาย ให้เราสวดภาวนาในใจว่า “พระเยซูเจ้าข้า ข้าพเจ้าเชื่อในพระองค์ กราบนมัสการพระองค์ วางใจในพระองค์ และรักพระองค์ ข้าพเจ้ากราบขออภัยโทษ แทนผู้ที่ไม่เชื่อในพระองค์ ไม่นมัสการพระองค์ ไม่วางใจในพระองค์และ ไม่รักพระองค์”
ในการรับศีลมหาสนิท เราได้อยู่ในพระคริสต์ และพระคริสต์สถิตอยู่ในเราอย่างแท้จริง ในการรับศีลมหาสนิท เรามีอำนาจเหนือศัตรู ตามที่เอกสารฉบับหนึ่งจากสังคายนาวาติกันครั้งที่ 2 กล่าวไว้ “การรับศีลมหาสนิทเป็นการเฉลิมฉลองในทุกพิธีกรรม เพราะนี่เป็นกิจการของพระคริสต์ผู้ทรงเป็นสงฆ์และเป็นกิจการของพระกายของพระองค์ คือพระศาสนจักร เป็นกิจการอันประเสริฐศักดิ์สิทธิ์ที่เหนือกว่ากิจการใดๆทั้งสิ้น ไม่กิจการใดของพระศาสนจักรที่เทียบเท่า มีประสิทธิภาพเท่ากับกิจการดังกล่าวนี้ (SC 7). จากพิธีกรรมในมิสซานี้และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากศีลมหาสนิท พระหรรษทานได้หลั่งไหลลงมาเหนือชาวเราดุจน้ำพุ ทำให้มนุษย์ศักดิ์สิทธิ์ในพระคริสต์และกลับกลายเป็นสง่าราศีอันรุ่งโรจน์ของพระเจ้า บันดาลให้กิจการอื่นๆทั้งหมดของพระศาสนจักรได้รับการนำพาไปสู่ความสัมฤทธิผลด้วยประสิทธิภาพอันสูงสุด”
*******************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น