วันอังคารที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2561

แม้แต่ปีศาจก็ยังเชื่อ

เรื่องราวเกี่ยวกับการประทับอยู่อย่างแท้จริงของพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท
By: Msgr. Charles Pope
 
เมื่อ 15 ปีก่อน ผมอยู่ที่โบสถ์ St. Mary’s อันเก่าแก่ซึ่งอยู่ใน วอชิงตันดีซี เพื่อประกอบพิธีมิสซาภาษาลาติน เป็นพิธีที่ดูขลังทีเดียว ผมไม่คิดว่าจะมีอะไรที่แตกต่างจากพิธีมิสซาปกติ แต่บางสิ่งบางอย่างที่น่าประหลาดใจก็เกิดขึ้น
 
ดังที่พวกคุณคงจะรู้อยู่บ้างว่าพิธิมิสซาภาษาลาตินเป็นพิธี “ad orientem” พระสงฆ์และสัตบุรุษจะหันหน้าไปทางเดียวกัน ซึ่งหมายความว่าสัตบุรุษจะอยู่ทางด้านหลังของพระสงฆ์ ในช่วงเวลาอันศักดิ์สิทธิ์ พระสงฆ์โน้มตัวลงเคารพ แขนของท่านอยู่บนพระแท่น ศีลมหาสนิทอยู่ในมือของท่าน
 
ตามพิธีกรรม ผมเอ่ยวาจาอันศักดิ์สิทธิ์ด้วยเสียงไม่ดังนักแต่ชัดเจน Hoc est enim Corpus meum (นี่คือกายของเรา) กระดิ่งสั่นรัวเมื่อผมคุกเข่าลงนมัสการ
 
แต่ข้างหลังของผมมีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่สงบเกิดขึ้น มีเสียงหนึ่งที่เกิดจากการสั่นบริเวณด้านหน้าของแถวม้านั่งยาวที่อยู่ข้างหลังทางด้านขวาของผม ตามมาด้วยเสียงร้องครวญครางและเสียงพึมพำ มันเป็นอะไรนะ? เสียงฟังดูไม่น่าจะเป็นเสียงของคนเราเลย มันคล้ายกับเสียงของสัตว์ใหญ่อย่างเช่น หมูป่า หรือ หมี ต่อมามีเสียงครวญครางที่โศกเศร้าที่ดูไม่เหมือนมนุษย์ ผมยกศีลขึ้นและสงสัยอยู่ในใจ “มันเป็นอะไรกัน?” แล้วเสียงก็เงียบไป ผมไม่สามารถหันไปมองดูได้ เพราะเป็นการไม่สมควรที่จะหันไปในระหว่างประกอบพิธีมิสซาภาษาลาตินอันเก่าแก่ แต่ผมก็ยังคงสงสัยว่า มันเป็นอะไรกันแน่?
 
แต่เมื่อถึงเวลาเสกเหล้าองุ่น ผมโน้มตัวลงอีกครั้งและเอ่ยวาจาด้วยเสียงชัดเจนแต่ไม่ดังนัก Hic est enim calix sanguinis mei, novi et æterni testamenti; mysterium fidei; qui pro vobis et pro multis effundetur in remissionem pecatorum. Haec quotiescumque feceritis in mei memoriam facietis (นี่เป็นถ้วยโลหิตของเรา โลหิตแห่งพันธสัญญาใหม่อันยืนยง โลหิตซึ่งจะหลั่งออกเพื่อลบล้างบาปของท่านและมนุษย์ทั้งหลาย จงทำดังนี้ เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเราเถิด)
 
คราวนี้ผมได้ยินเสียงอีกครั้งอย่างชัดเจน เป็นเสียงครวญครางและตามด้วยเสียงกรีดร้อง   มีใครบางคนร้องออกมาว่า “ปล่อยเราไว้ตามลำพังเถิด พระเยซู ทำไมจึงมาทรมานเราเล่า!” ทันใดนั้นก็มีการชุลมุนกัน มีชายคนหนึ่งวิ่งหนีพร้อมส่งเสียงกรีดร้องเพราะได้รับบาดเจ็บ ประตูด้านหลังของโบสถ์ถูกผลักให้เปิดออกแล้วก็ปิด และแล้วทุกอย่างก็เงียบ
 
ความตระหนัก – ผมไม่สามารถหันไปมองดูในขณะที่ผมกำลังยกถ้วยกาลิกษ์ขึ้นเหนือศีรษะ แต่ผมรู้ว่ามีวิญญาณที่ถูกปีศาจทรมานบางดวงที่เผชิญหน้ากับพระคริสต์ในศีลมหาสนิท และมันไม่สามารถทนทานต่อการปรากฏของพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทได้ ในขณะที่แผ่นศีลถูกยกขึ้นให้ทุกคนได้เห็น แล้วผมก็ระลึกถึงวาจาในพระคัมภีร์จดหมายของน.ยากอบได้ว่า “แม้แต่ปีศาจก็ยังเชื่อและสั่นกลัว” (ยก.2:19)
 
สำนึกผิดกลับใจ – ตามพระวาจาที่ น. ยากอบใช้ในพระคัมภีร์ เพื่อตำหนิความเชื่อที่อ่อนแอของบรรดาคนที่ท่านดูแล ผมเองก็ต้องสำนึกผิดกลับใจด้วยเช่นกัน ทำไมชายที่ถูกปีศาจทรมานจึงรับรู้ถึงการปรากฏอยู่ของพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทและประหลาดใจ แต่ผมกลับรับรู้น้อยกว่าเล่า? เขาวิ่งหนีออกไปอย่างขวัญเสีย ทำใมผมจึงไม่รู้สึก(ในด้านดี) บ้าง ? และคนอื่นที่อยู่แถวหน้านั้นเล่า พวกเขารู้สึกด้วยหรือไม่? ผมไม่สงสัยหรอกว่าพวกเรามีความเชื่อว่าพระเยซูปรากฏในศีลมหาสนิทจริงๆ แต่มีความแตกต่างกันมากในความประหลาดใจและในความรู้สึกของส่วนลึกของจิตวิญญาณของคุณในเรื่องนี้? เรามีความเฉื่อยชามากต่อการปรากฏมาขององค์เจ้าสวรรค์ เราลืมไปว่าสิ่งนี้เป็นอัศจรรย์อันยิ่งใหญ่ที่มีขึ้นเพื่อพวกเรา
 
แต่ผมจะจำไว้ว่า เมื่อ 15 ปีก่อน ผมได้ถือพระเจ้าแห่งสวรรค์ไว้ในมือของผม กษัตริย์แห่งสวรรค์และสากลโลก องค์ตุลาการผู้ทรงยุติธรรม ราชาแห่งราชาทั้งหลายของโลก คุณเชื่อว่าพระเป็นเจ้าทรงปรากฏมาในศีลมหาสนิทอย่างแท้จริงหรือ? คุณจงเชื่อเถอะ เพราะแม้แต่ปีศาจก็ยังเชื่อเลย
 
********************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น