วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2561

วันสุดท้ายของชีวิต....

 

ฟังสิ่งที่คุณพ่อบอสโกพูดเถิด วาระสุดท้ายของมนุษย์เป็นเช่นนี้
“ฉันมีวิญญาณ ถ้าฉันสูญเสียวิญญาณไปเท่ากับฉันสูญเสียทุกสิ่ง..!”
***************
 
"ลูกที่รัก ลองพิจารณาร่างกายของลูกเถิด ลูกมีวิญญาณซึ่งพระเป็นเจ้าทรงประทานแก่ลูก      มิใช่เพราะลูกมีความดีอะไร พระองค์ทรงสร้างลูกให้เป็นภาพลักษณ์ของพระองค์ และพระองค์ยังทรงให้ลูกเป็นบุตรของพระองค์โดยทางศีลล้างบาปอีกด้วย พระองค์ทรงรักลูกและรักด้วยพระทัยอ่อนโยนดุจบิดา พระองค์ทรงสร้างลูกขึ้นมาด้วยจุดประสงค์เพียงอย่างเดียวคือให้ลูกรักและรับใช้พระองค์ในชีวิตนี้ของลูก แล้วสักวันหนึ่งลูกจะได้ร่วมในความสุขนิรันดรพร้อมกับพระองค์ในสวรรค์
 
ดังนั้นลูกจึงไม่ได้มีชีวิตในโลกนี้เพียงเพื่อสนุกสนาน หรือสร้างความร่ำรวย หรือกิน ดื่มและนอนหลับเหมือนกับสัตว์ป่า จุดหมายปลายทางของลูกสูงส่งกว่านั้นมากมายยิ่งนัก เป้าหมายของลูกคือรักและรับใช้พระเจ้าของลูก และช่วยวิญญาณของลูกเองให้รอด ถ้าลูกทำดังนี้ ลูกจะได้รับความปลอบประโลมใจในเวลาที่ลูกใกล้ตาย แต่ถ้าลูกไม่ได้รับใช้พระเจ้า ลูกจะรู้สึกว่าอยู่ห่างไกลจากพระองค์มากในเวลานั้น ถ้าหากลูกปรารถนาแต่เพียงความร่ำรวยและความสุข และไม่ต้องการให้มีสิ่งใดมาทำให้ลูกเดือดเนื้อร้อนใจ ในเวลานั้นลูกก็จะรู้ว่าสิ่งต่างๆเหล่านั้นทำให้วิญญาณของลูกต้องเสียหายมากสักเพียงไร
 
ลูกที่รัก จงหลีกเลี่ยงคนเหล่านั้นที่คิดแต่จะทำให้ร่างกายพึงพอใจด้วยการทำงาน การพูด และการแสวงหาความเพลิดเพลินที่ไม่ดี ในชั่วโมงสุดท้ายของชีวิต พวกเขาจะอยู่ในอันตรายใหญ่หลวงของการสูญเสียตลอดนิรันดร ราชเลขาของกษัตริย์อังกฤษองค์หนึ่งได้พูดก่อนตายว่า “น่าสังเวชจริง ฉันใช้กระดาษมากมายเพื่อเขียนจดหมายสำหรับกษัตริย์ของฉัน แต่ฉันไม่เคยใช้กระดาษสักแผ่นเดียวเพื่อเขียนรายชื่อบาปและไปสารภาพบาปอย่างดี”
 
2. จงเปิดตาใจของลูกมองให้เห็นความสำคัญของวาระสุดท้ายนี้ ถ้าลูกตระหนักได้ว่าความรอดหรือความพินาศของลูกขึ้นอยู่กับมัน ถ้าลูกช่วยวิญญาณให้รอดได้ ทุกอย่างก็ดีไปหมด ลูกจะมีความชื่นชมยินดีตลอดกาล แต่ถ้าลูกพลาด ลูกจะสูญเสียทั้งร่างกายและวิญญาณ สูญเสียพระเจ้าและสวรรค์ และลูกจะถูกสาปแช่งตลอดนิรันดร จงอย่าทำตามคนเหล่านั้นที่โชคร้าย พวกเขาหลอกตัวเองโดยพูดว่า “ทำบาปก็ได้ แล้วค่อยไปสารภาพบาปทีหลัง” อย่าหลอกตัวเองเลย พระเจ้าทรงสาปแช่งคนที่ทำบาปด้วยความหวังว่าจะได้รับการอภัย Maledictus homo qui peccat in spe ( ภาษาลาติน) จงจำไว้ว่า ทุกคนที่ไปอยู่ในนรกนั้น เคยมีความหวังว่าจะสามารถแก้ไขความผิดได้ แต่พวกเขาก็สูญเสียไปตลอดนิรันดร จะแน่ใจได้หรือว่าลูกจะมีเวลาไปสารภาพบาปก่อนตาย? ใครจะรับประกันให้ลูกได้ว่าลูกจะไม่เสียชีวิตอย่างกระทันหันหลังจากทำบาปและวิญญาณของลูกก็ต้องร่วงลงสู่นรก? นอกจากนี้ เป็นเรื่องโง่เขลาไม่ใช่หรือ ที่ทำตัวเองให้ติดโรคด้วยคิดว่าจะมีหมอมารักษา? ดังนั้นจงทิ้งความคิดโง่ๆเหล่านี้ไปเสีย จงเกลียดชังและละทิ้งบาปที่ทำให้ลูกต้องเศร้าใจในวาระสุดท้ายของชีวิต จงเพิ่มพูนชีวิตของลูกด้วยความดีทุกอย่าง
 
3. พ่อต้องการให้ลูกรู้จักสังเกตเห็นการประจญล่อลวงที่น่ากลัว ซึ่งปีศาจใช้ทำลายคริสตชนจำนวนมาก มันยอมให้คริสตชนเรียนรู้คำสอนของศาสนา แต่ไม่ยอมให้พวกเขาปฏิบัติตาม คริสตชนรู้ว่า พระเจ้าทรงสร้างพวกเขาขึ้นมาเพื่อที่พวกเขาจะได้รักและรับใช้พระองค์ แต่ในขณะเดียวกัน ดูเหมือนพวกเขาจะแสวงหาแต่สิ่งที่เสื่อมสลายด้วยการทำงานของพวกเขา มีคนสักกี่คนที่ไม่คิดว่าตนเองเป็นของโลกนี้ คนที่คิดแต่จะทำให้วิญญาณของเขาให้ได้รอด ถ้าพ่อบอกชายหนุ่มคนหนึ่งให้มารับศีลบ่อยๆ เตือนเขาว่าเขาสวดภาวนาน้อยเกินไป เขาจะตอบพ่อว่า “ผมมีเรื่องอื่นที่จะต้องทำ ผมต้องทำงาน ผมต้องหาความสนุกสนาน” น่าเศร้าใจนัก และเขาไม่มีวิญญาณที่ต้องรักษาให้รอดหรอกหรือ? 
 
เพราะฉะนั้น พวกลูกผู้เป็นเยาวชนที่ได้อ่านบทความนี้ จงระวังตัวอย่าให้ลูกอยู่ในหนทางนี้ซึ่งเป็นการหลอกลวงของปีศาจ จงสัญญากับพระเจ้าว่า ทุกสิ่งที่ลูกทำ ทุกสิ่งที่ลูกคิด ที่ลูกพูด ในอนาคต จะเป็นเพื่อความรอดของวิญญาณของลูก เป็นสิ่งดีที่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่งที่ลูกควรคิดถึงวาระสุดท้ายของชีวิตเสียแต่ในเวลานี้ และคิดถึงนิรันดรภาพที่ไม่มีวันสิ้นสุดสักเล็กน้อย นักบุญหลุยส์กษัตริย์สามารถสนุกสนานเพลิดเพลิน ร่ำรวยและมีเกียรติได้เสมอ แต่พระองค์ทรงปฏิเสธสิ่งเหล่านี้ พระองค์ตรัสว่า “สิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไรสำหรับนิรันดรภาพของฉัน?” Quid haec ad aeter nitatem »?
 
จงบอกกับตัวลูกเองแบบนี้ “ฉันมีวิญญาณ ถ้าฉันสูญเสียวิญญาณไปก็เท่ากับฉันสูญเสียทุกสิ่ง ถึงแม้ฉันจะได้โลกทั้งโลก แต่ต้องสูญเสียวิญญาณไป จะเป็นประโยชน์อะไรเล่า? Quidenim prodest homini, si mundum univérsum lucrétur, animae vero suae detriméntum patiatur? ถึงแม้ฉันจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ เป็นคนร่ำรวย  ถึงแม้ฉันจะมีชื่อเสียงเป็นอาจารย์เป็นเจ้านายของสรรพศาสตร์ของโลกนี้ แต่ฉันต้องสูญเสียวิญญาณไป จะมีประโยชน์อะไรสำหรับฉันเล่า?”   ปรีชาญาณทุกอย่างของกษัตริย์โซโลมอนจะไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับลูกเลยถ้าลูกต้องสูญเสียวิญญาณ เพราะฉะนั้นจงพูดกับตัวเองว่า “พระเจ้าทรงสร้างฉันมา เพื่อช่วยวิญญาณของฉันให้ได้รับความรอด และฉันต้องการช่วยวิญญาณให้รอดไม่ว่าต้องทำอย่างไรก็ตาม เป้าหมายของฉันคือรักพระเจ้าและช่วยวิญญาณให้รอดเท่านั้น กิจการทุกอย่างของฉันจะเกี่ยวข้องกับความสุขหรือความทุกข์นิรันดรเสมอ เพราะฉะนั้นจงทำไปเถิด ตราบเท่าที่วิญญาณได้รับความรอดแล้ว ข้าแต่พระเจ้า โปรดอภัยบาปของลูกด้วยและโปรดอย่าให้ลูกต้องไปอยู่ในสภาพเดิมที่ทำให้พบกับความเสื่อมสลายอีกเลย โปรดช่วยลูกด้วยพระหรรษทานอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ เพื่อที่ลูกจะได้สัตย์ซื่อในความรักและรับใช้พระองค์เสมอไป ข้าแต่พระแม่มารีย์ โปรดช่วยลูกด้วยเทอญ”

***********************************************

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น