วันสมโภชพระคริสตสมภาพ(มิสซารุ่งอรุณ) 2016
วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม ค.ศ. 2016
โดยพระสังฆราชยอแซฟ ลือชัย
ธาตุวิสัย
พี่น้องที่รัก
เราทุกคนเชื่อว่าการบังเกิดของพระเยซูเจ้าเป็นการบังเกิดของพระเมสสิยาห์หรือพระคริสตเจ้า
ผู้ทรงเป็นพระผู้ไถ่ของมนุษยชาติ ชาวอิสราเอล ซึ่งเป็นประชากรที่พระเจ้าทรงเลือกสรรเป็นพิเศษ
ได้รอคอยการเสด็จมาของพระองค์เป็นเวลานานหลายศตวรรษ
แต่เมื่อวันแห่งการรอคอยนี้มาถึง
พระองค์ทรงปรากฏองค์ในรูปแบบและวิถีทางที่พวกเขาคาดไม่ถึง นั่นคือ
ไม่ใช่ในความหรูหรายิ่งใหญ่ของราชโอรสกษัตริย์ผู้ทรงอำนาจ แต่ในความเรียบง่ายและต่ำต้อยของเด็กทารกสามัญชนคนหนึ่ง
พระองค์ไม่ได้ทรงบังเกิดในพระราชวังที่ประดับด้วยทองคำและเพชรนิลจินดาเพื่อต้อนรับทายาทแห่งราชบัลลังก์คนใหม่
แต่ทรงบังเกิดในถ้ำเลี้ยงสัตว์เล็กๆ แห่งหนึ่งที่เมืองเบธเลเฮม เพราะไม่มีห้องพักสำหรับนักบุญโยเซฟและพระนางมารีย์
บิดามารดาของพระองค์ ในโรงแรมแถบนั้นเลย
ยิ่งกว่านั้น
ประชาชนกลุ่มแรกที่พระเจ้าได้ทรงเรียกผ่านทางทูตสวรรค์ให้มาพบพระบุตรของพระองค์องค์นี้เป็นสามัญชนธรรมดาและยากจน
พวกเขาเป็นคนเลี้ยงแกะที่ดำเนินชีวิตอยู่ในท้องทุ่ง ในสังคมสมัยนั้นงานของพวกเขาถือว่าเป็นงานของบรรดาคนใช้
ดังนั้น สถานภาพของพวกเขาจึงอยู่ในระดับต่ำ ไม่ต่างจากทาสเท่าใดนัก อย่างไรก็ตาม
แก่ประชาชนเหล่านี้แหละที่ทูตสวรรค์ของพระเจ้าได้แจ้งว่า “วันนี้ในเมืองของกษัตริย์ดาวิด พระผู้ไถ่ประสูติเพื่อท่านแล้ว พระองค์คือพระคริสต์
องค์พระผู้เป็นเจ้า” (ลก 2:11) หลังจากที่พวกเขาได้ฟังข่าวดีนี้และเมื่อทูตสวรรค์ได้จากพวกเขาไปแล้ว
พวกเขาจึงพูดกันว่า “เราจงไปเมืองเบธเลเฮมกันเถิด
จะได้เห็นเหตุการณ์ที่พระเจ้าทรงแจ้งให้เรารู้” (ลก 2:15)
มีบางสิ่งบางอย่างที่น่าแปลกใจในข่าวดีที่ทูตสวรรค์ได้แจ้งให้บรรดาคนเลี้ยงแกะได้ทราบ
นั่นคือ แม้ว่าเบธเลเฮมเป็นเมืองของกษัตริย์ดาวิด
แต่ไม่มีกษัตริย์องค์ใดจากที่นี่ได้นั่งบนบัลลังก์ของพระองค์เป็นเวลานานหลายศตวรรษแล้ว
ประชาชนส่วนใหญ่ได้ลืมไปแล้วว่าพระผู้ไถ่ที่ทรงเป็นกษัตริย์ต้องมาจากเมืองนี้
และไม่มีใครคิดว่าพระองค์จะทรงถูกพบในถ้ำซึ่งเป็นที่พักพิงของสัตว์และในรางหญ้าซึ่งเป็นที่วางอาหารของพวกมัน
กระนั้นก็ตาม
บรรดาคนเลี้ยงแกะได้เชื่อและตอบรับข่าวดีที่ทูตสวรรค์ได้นำมาแจ้งให้พวกเขาทราบด้วยความยินดีและเต็มใจ
ยิ่งกว่านั้น พวกเขายังสามารถเดินทางไปยังสถานที่ซึ่งพระกุมารประทับอยู่เพื่อพบพระองค์ได้อย่างถูกต้องอีกด้วย
พวกเขาได้แสดงให้เราเห็นถึงความปรีชาฉลาดของพวกเขาก่อนที่บรรดาโหราจารย์จากทางทิศตะวันออกจะเดินทางไปถึงเสียอีก
ในฐานะคริสตชนคนหนึ่งเราแต่ละคนต้องมีประสบการณ์ในการพบแบบส่วนตัวกับพระคริสตเจ้า
องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา วิธีการหนึ่งที่จะช่วยให้เราสามารถพบกับพระองค์ได้คือ
ทำเหมือนกับบรรดาคนเลี้ยงแกะในพระวรสารวันนี้ นั่นคือ ออกไปหาพระองค์ อย่างไรก็ตาม
เราต้องตระหนักอยู่เสมอว่าพระองค์อาจปรากฏองค์ให้เราเห็นในรูปแบบและวิถีทางที่เราคาดไม่ถึงก็ได้
เหมือนที่พระองค์ได้ทรงปรากฏองค์ครั้งแรกแก่ชาวอิสราเอลเมื่อสองพันกว่าปีที่แล้ว
ถ้าเราไม่ตระหนักถึงความจริงประการนี้ เราอาจไม่รู้ว่าเป็นพระองค์เมื่อเราได้พบพระองค์
พระองค์ประทับอยู่ท่ามกลางคนที่ขาดบ้านและไร้ที่พักพิง
และคนที่เข้ามาทำงานในประเทศของเราโดยไม่มีเอกสารถูกต้องซึ่งไม่มีที่สำหรับพวกเขาในสังคมของเรา
พระองค์ประทับอยู่กับคนอดยากหิวโหยผู้ซึ่งกำลังรอคอยความช่วยเหลือจากเรา พระองค์ประทับอยู่กับผู้ใช้แรงงานทั้งหลายและคนที่ยอมทำงานที่ต่ำต้อยเหมือนบรรดาคนเลี้ยงแกะที่ไปยังเมืองเบธเลเฮมเพื่อพบพระองค์เป็นกลุ่มแรก
ถ้าเราแต่ละคนตระหนักถึงความจริงประการนี้
เราจะไม่พลาดโอกาสที่จะพบพระคริสตเจ้าไม่ว่าเราจะเจอพระองค์ที่ไหนและเวลาใดก็ตาม
เมื่อใดก็ตามที่เราอยากจะพบกับพระคริสตเจ้า
เราต้องกลับไปยังเมืองเบธเลเฮมของเราแต่ละคนเสียก่อน ตามตัวอักษรคำว่า “เบธเลเฮม” ซึ่งเป็นภาษาฮีบรู แปลว่า “บ้านแห่งขนมปัง” พระเยซูเจ้าทรงรับธรรมชาติมนุษย์ในครรภ์ของพระนางมารีย์และทรงบังเกิดที่เมืองเบธเลเฮม
บ้านแห่งขนมปัง เพื่อว่าพระองค์จะสามารถให้พระองค์เองเป็นปังทรงชีวิตซึ่งเป็นอาหารฝ่ายจิตแก่เรา
การบังเกิดของพระองค์ถือได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนของประวัติศาสตร์มนุษยชาติ แน่นอน เราเชื่อและมั่นใจว่าพระนางมารีย์ผู้ทรงให้กำเนิดพระองค์เป็นผู้ที่พระเจ้าทรงโปราดปรานเป็นพิเศษ
นักบุญโยเซฟเป็นผู้มีความสุขด้วยที่ได้มีโอกาสร่วมส่วนในสิทธิพิเศษนี้ของพระนาง
เหล่าทูตสวรรค์ของพระเจ้าคงมีความชื่นชมยินดีอย่างใหญ่หลวงที่ได้ประกาศข่าวดีแห่งการเสด็จมาของพระผู้ไถ่
เช่นเดียวกันบรรดาคนเลี้ยงแกะคงมีความสุขและปลาบปลื้มใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนที่ได้มีโอกาสเป็นพยานถึงเหตุการณ์ยิ่งใหญ่นี้
อย่างไรก็ตาม เราแต่ละคนที่อยู่ที่นี่ไม่ได้ด้อยกว่าพวกท่านเหล่านั้นเท่าใดนัก
ทั้งนี้เพราะว่าทุกวัด เมื่อมีการถวายพิธีมิสซา ก็ได้กลายเป็นเมืองเบธเลเฮมใหม่
ไม่ใช่เพียงแค่ในวันคริสต์มาสเท่านั้น แต่ทุกวันตลอดปีด้วย
พี่น้องที่รัก
จริงอยู่ วัดไม่ใช่เป็นสถานที่เดียวที่เราสามารถพบพระคริสตเจ้าได้ เพราะพระองค์ประทับอยู่ในตัวบุคคลที่เราพบปะในแต่ละวันด้วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนยากจนทั้งหลาย อย่างไรก็ตาม
วัดถือได้ว่าเป็นที่ประทับที่เด่นชัดที่สุดของพระคริสตเจ้า
เพราะในวัดเรามีตู้ศีลมหาสนิทและมีการประกอบพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพิธีมิสซา ดังนั้น เพื่อตอบสนองต่อข่าวดีที่ทูตสวรรค์ได้แจ้งให้เราทราบ
เราไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่เมืองเบธเลเฮมเหมือนบรรดาคนเลี้ยงแกะในสมัยนั้น เพราะเวลานี้และที่นี่พระคริสตเจ้าประทับอยู่ท่ามกลางเราแล้ว
พระองค์ผู้ทรงเป็นผู้เลี้ยงแกะหรือนายชุมพาบาลที่ดีจะทรงเลี้ยงเราผู้เป็นฝูงแกะของพระองค์ด้วยพระกายของพระองค์เอง
ซึ่งเป็นปังทรงชีวิตที่นำความรอดพ้นมาสู่วิญญาณของเรา เมื่อเป็นเช่นนี้วัดแห่งนี้จะกลายเป็นเมืองเบธเลเฮมใหม่
บ้านแห่งขนมปังฝ่ายจิตของเรา เพราะฉะนั้น เราได้ทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วที่มาชุมนุมกันเพื่อพบพระคริสตเจ้าในวัดแห่งนี้
ซึ่งเป็นเมืองเบธเลเฮมของเรา ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องทุกคน
--------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น