แม่พระตรัสกับหญิงสาวผู้หนึ่ง

เมื่อหลายปีที่ผ่านมามีข่าวว่าแม่พระได้ปรากฏแก่หญิงสาวผู้หนึ่งที่โอไฮโอ สหรัฐอเมริกา  ทรงปรากฏในลักษณะที่รู้สึกภายในจิตใจ (Locution ) และเธอเรียกตัวเองว่า "Apostolate of Holy Motherhood."

หญิงสาวผู้นี้มีชื่อว่า มาเรียแมนเต (Mariamante) เธอแต่งงานและมีลูกแล้ว เธอได้บันทึกสาส์นของแม่พระและพระเยซูเจ้าที่ตรัสกับเธอ  และพิมพ์เป็นหนังสือมีชื่อว่า "Apostolate" หนังสือได้รับอนุญาตให้ตึพิมพ์ (nihil obstat) โดย Monsignor Joseph P. Malara และได้รับการเซ็นรับรอง (imprimatur) จาก พระสังฆราช Most Reverend Albert H. Ottwenwller (การที่หนังสือได้รับการเซ็นรับรอง  imprimatur นั้นไม่ได้หมายความว่าพระสังฆราชเชื่อว่าสาส์นนี้มาจากแม่พระและพระเยซูเจ้าโดยตรง  แต่หมายความว่าข้อความเหล่านั้นมีประโยชน์ในด้านจิตใจและไม่ขัดกับข้อความเชื่อของพระศาสนจักร)

แม่พระและพระเยซูเจ้าตรัสกับเธอด้วยเสียงภายในใจ locutions  สาส์นนั้นส่วนใหญ่เป็นคำแนะนำในการสวดภาวนาและในการดำเนินชีวิตอย่างดี  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับชีวิตครอบครัว  นอกเหนือจากนี้ยังมีสาส์นที่พูดถึงอนาคตของโลกอีกด้วย (ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราส่วนใหญ่สนใจ)  สาส์นที่น่าตระหนกที่สุดน่าจะเป็นสาส์นของวันที่ 14 ก.พ. 1987  มาเรียแมนเต เขียนคำพูดของแม่พระว่า

 “โลกกำลังเผชิญหน้ากับหายนะภัยร้ายแรงเกินกว่าที่จะคาดคิดได้  ซึ่งสืบเนื่องมาจากความเสื่อมศรัทธาและความไม่บริสุทธิ์  แม่มาเพื่อช่วยโลกจากชะตากรรมนี้  พระเป็นเจ้าทรงมอบหมายภารกิจนี้แก่แม่”

“ลูกจะรู้ได้จากเครื่องหมายในสวรรค์  ซึ่งก็คือแม่นี้เอง  ในเวลานั้นซึ่งอยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้วจะเป็นเวลาสำหรับการกลับใจหมู่ของคนจำนวนมากอย่างทันทีทันใด” (เหมือนคนประมาณ 70,000 คนที่ได้เห็นอัศจรรย์ดวงอาทิตย์ที่ฟาติมา - ผู้แปล)  มาเรียแมนเตบอกว่า อีกสัปดาห์ถัดมา ในวันที่ 22 ก.พ. เวลา 10:30 ปี 1987 แม่พระตรัสกับเธอว่า “แม่ทำสิ่งนี้ได้สำเร็จโดยอาศัยพระหรรษทานยิ่งใหญ่ที่หลั่งลงมายังโลก  อันประทานมาจากพระหัตถ์ของพระเป็นเจ้ามาสู่แม่เพื่อจุดประสงค์นี้”  มันเป็นชัยชนะของแม่พระ  แต่ก่อนที่จะบรรลุถึงจุดนี้  จำต้องมีการชำระล้างเสียก่อน purification

 “สวรรค์ ทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่งในสถานะที่โลกกำลังเป็นอยู่ในขณะนี้”

“เวลานี้มันเลวร้ายเป็นอย่างมาก  มีแต่การสวดภาวนาและการชดเชยใช้โทษบาปเท่านั้นที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้  จงเอาใจใส่บรรดาลูกของเธอ  พวกเขาสำคัญที่สุด  พวกเขาจะมีชีวิตในระหว่างการครองราชย์ของดวงหทัยนิรมลของแม่  นี่จะเป็นการนำร่องไปสู่การครองราชย์ของพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า...จงอย่ากลัว  แม่จะปกป้องลูกเสมอจากสายตาของสาธารณะชน”

           ความถ่อมตน  แม่พระตรัสว่าเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างเร่งด่วน  ความเชื่อจะต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในแต่ละคน

แม่พระตรัสว่า  ขณะที่สวรรค์กำลังทุกข์ใจต่อโลก  สวรรค์ก็ยังมีความยินดีในครอบครัวที่มีความศรัทธา  ความรอดและความศักดิ์สิทธิ์ของแต่ละคนจะเกิดขึ้นได้ด้วยการปฏิบัติหน้าที่ในครอบครัวอย่างเรียบง่าย  และดังเช่นที่อื่นๆ  แม่พระยังเรียกร้องให้ทุกคนสวดสายประคำ  ให้ทำวันศุกร์ต้นเดือนและวันเสาร์ต้นเดือนด้วย (สิ่งที่แม่พระทรงเรียกร้องเมื่อทรงประจักษ์ที่ฟาติมา)  มาเรียแมนเต บันทึกสาส์นของพระเยซูเจ้า  พระองค์ทรงปรากฏในรูปของพระกุมารน้อย  ทรงตรัสว่า “จงฟังสิ่งที่พระนางตรัสกับเธอที่ฟาติมาและในการประจักษ์ครั้งสำคัญอื่นๆ  สิ่งนี้จะเป็นการช่วยให้เธอดำเนินชีวิตตามพระวรสารของเรา  การเข้ามาแทรกแซงช่วยเหลือของพระนางเป็นการอวยพรแก่โลก  มีเพียงพระเป็นเจ้าเท่านั้นที่ทรงประทานพระเมตตาเช่นนี้ได้  โดยทรงประทานพระมารดาผู้ทรงอ่อนโยนให้แทรกแซงช่วยเหลือเพื่อเห็นแก่พวกเธอ  พระนางทรงชดเชยใช้โทษบาปของพวกเธอเมื่อพระนางเข้ามาแทรกแซง  แต่พวกเธอก็ยังคงต้องทำการชดเชยใช้โทษบาปของพวกเธอเองด้วย  พระบิดาของเราทรงถูกต่อต้านโจมตีจากมนุษย์เป็นอย่างมาก  สิ่งนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป” 

ในปี 1980 พระเยซูเจ้าตรัสกับมาเรียแมนเตว่า “เราจะอวยพรโลกอีกครั้ง  เหมือนที่เราได้ทำที่ฟาติมา  แต่ละคนจะได้รับโอกาสให้กลับใจ” 

อย่างไรก็ตามจะเกิดเหตุการณ์สำคัญ  มาเรียแมนเตบอกว่า  จะมีบางคนที่ได้รับสาส์นจากสวรรค์ในลักษณะ locution  วันที่ 24 มิ.ย. แม่พระตรัสว่า “ในอดีตลูกได้รับสิ่งบ่งชี้มากมายและมันกำลังจะเกิดขึ้น” (สิ่งนี้อาจหมายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับมาเรียแมนเตเอง)  “แต่ลูกก็จะยังคงประหลาดใจเมื่อมันเกิดขึ้น  แม่ได้เตรียมวิญญาณของลูกให้เป็นเหมือนทนายแก้ต่างสำหรับคนหลายคน  และแม่ปรารถนาที่จะหลั่งพระหรรษทานพิเศษมายังลูกเพื่อที่ทุกคนจะได้อบรมเลี้ยงดูลูกๆของพวกเขาอย่างได้ผล  เด็กน้อยเหล่านี้เป็นผู้ที่แม่รักมากที่สุด”

แม่พระตรัสว่า ให้เราทำหน้าที่แต่ละวันในหนทางสายน้อยเพื่อเตรียมวิญญาณของเรา (หนทางสายน้อยคือการทำสิ่งเล็กน้อยด้วยความรักต่อพระเป็นเจ้าและเพื่อนมนุษย์)

พระนางเรียกโทรทัศน์ว่าเป็น “ผู้บุกรุก” "intrusion" ที่เข้ามาในบ้านและทำให้เราเป็นคนเห็นแก่ตัว

ทุกคนที่ทำงานเพื่อชัยชนะของแม่พระจะถูกรังควาน  แต่อย่ากังวลให้มากเกินไป  ไม่จำเป็นต้องกลัวเมื่อเราวอนขอ “การปกป้องจากพระโลหิตอันประเสริฐ”

พระเยซูเจ้าบอกกับมาเรียแมนเตว่า  การทำสงครามกับปีศาจอย่างได้ผล  ไม่ได้มาจากการรู้จักตัวตนของมัน  แต่มาจากการสวดภาวนและการทำกิจชดเชยใช้โทษบาป

แม่พระตรัสว่า พระนางต้องการผู้ติดตามที่จะใช้เวลาเป็นชั่วโมงในการสวดภาวนาเพื่อโลก  แล้วเวลามากเท่าไรที่พระนางต้องการจากพวกเรา

พระเยซูกุมารตรัสว่า  “โอ  การสวดภาวนาเพื่อโลกเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วนยิ่งนัก”  มีคำเตือนที่คล้ายๆกันเช่นนี้ในปี 1980 และต้นปี 1990  “เสียงร่ำไห้ของผู้บริสุทธิ์ดังขึ้นมาถึงเรา  ความอยุติธรรมมากมายเช่นนี้ไม่สามารถดำเนินต่อไปเป็นเวลานาน  มันต้องมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ชักช้าหรือมิฉะนั้นการลงทัณฑ์อันสาหัสก็จะมาสู่โลก  นี่คือหนทางที่มันต้องเป็นไป  สวรรค์ไม่สามารถทนต่อไปได้อีกแล้ว  พระบิดาของเราและเราได้ตัดสินใจแล้วว่าจะต้องเป็นเช่นนี้   การเปลี่ยนแปลงหรือไม่ก็การลงทัณฑ์” 

ในส่วนที่เกี่ยวกับพวกเรา  มีกี่คนที่จะฟังสาส์นของแม่พระและพระเยซูเจ้า? มีกี่คนที่ได้ฟังแล้วและก็ลืมไป?  มีกี่คนที่ได้ยินสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องและไม่ได้ทำตาม  หรือเพราะเราเป็นคาทอลิกของโลกนี้เท่านั้น?

-------------------------------

           นำมาจาก SPIRIT DAILY