วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2561

คำสอนของพระบิดา

 


เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2010  ที่โรม พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 มีพระดำรัสแก่ประชาชนผู้ที่มาร่วมสวดภาวนาในลานพระวิหารนักบุญเปโตร พระองค์ตรัสว่า
 
“วันนี้ ข้าพเจ้าขอพูดเกี่ยวกับสตรีผู้หนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์พระศาสนจักร นั่นคือ นักบุญ คัทรินแห่งเซียนนา เธอมีชีวิตในศตวรรษที่ 14 อันเป็นยุคที่มีความยากลำบากเป็นอย่างยิ่งบังเกิดแก่พระศาสนจักรและแก่ประเทศต่างๆในทวีปยุโรป ในความยากลำบากนี้ พระเป็นเจ้าก็มิได้ทรงหยุดที่จะอวยพรแก่ประชากรของพระองค์ พระองค์ทรงประทานนักบุญที่ช่วยกระตุ้นเตือนจิตใจของประชาชนช่วยให้พวกเขากลับใจและเปลี่ยนแปลงชีวิตเสียใหม่ คัทรินเป็นหนึ่งในนักบุญเหล่านี้ เธอยังคงพูดกับเรา เตือนให้เราดำเนินชีวิตอย่างกล้าหาญไปสู่ความศักดิ์สิทธิ์และเป็นศิษย์ของพระเจ้า” (Libreria Editrice Vaticana)
 
วันฉลองของนักบุญคัทรินแห่งเซียนนาคือวันที่ 29 เมษายน เป็นวันที่เธอได้เขียนหนังสือบันทึกพระวาจาของพระบิดาที่ตรัสสอนเธอเกี่ยวกับคุณธรรมต่างๆ หนังสือนี้มีชื่อว่า “The Dialogue”
 
บทเรียน 7 บทที่พระเจ้าพระบิดาตรัสสอนแก่นักบุญคัทริน (บันทึกในหนังสือ The Dialogue)
 
การพินิจไตร่ตรอง
 
การพินิจไตร่ตรองเป็นแสงสว่างที่ทำให้ความมืดทั้งปวงสูญสลายไป ทำให้ความเขลาสูญสลายไป และเพิ่มพูนรสชาติให้แก่คุณธรรมแห่งการประกอบกิจการดีทุกประการ มันเป็นความชาญฉลาดที่ไม่สามารถหลอกลวงได้ เป็นพละกำลังที่ไม่อาจเอาชนะได้ เป็นความเที่ยงตรงสูงส่งที่นำพาจิตใจออกจากโลกไปสู่สวรรค์ เป็นความรู้ของเราเองที่นำมาสู่ความรู้ของมนุษย์ เป็นความรักของเราที่นำพาไปสู่ความรักต่อเพื่อนมนุษย์ การพินิจไตร่ตรองด้วยความสุภาพรอบคอบจะช่วยให้หลีกพ้นจากความชั่วร้ายและการประจญล่อลวงของสิ่งสร้าง และด้วยมือที่ปราศจากอาวุธ - นั่นคือ โดยอาศัยความทุกข์ – มันเอาชนะปีศาจและเนื้อหนัง ด้วยแสงสว่างอันอ่อนละมุนนี้ วิญญาณมองเห็นและรังเกียจความอ่อนแอของตนเอง และด้วยการดูถูกตนเอง เขาได้เป็นผู้ควบคุมโลก ทำให้มันมาอยู่ใต้เท้าด้วยความรักของเขา เขาดูถูกโลกว่าเป็นเพียงสิ่งไร้ค่า (หน้า 44)
 
การล้างบาปและพระโลหิตทรงคุณค่า
 
ในทันทีที่วิญญาณได้รับศีลล้างบาปศักดิ์สิทธิ์ บาปกำเนิดก็ถูกกำจัดไปและพระหรรษทานได้หลั่งลงมา  ความโน้มเอียงในบาปซึ่งยังเหลือเป็นร่องรอยให้เห็นนั้นมีต้นกำเนิดมาจากบาปกำเนิด    มันเป็นความอ่อนแอดังเช่นที่เราได้กล่าวไว้แล้ว แต่วิญญาณสามารถตรวจพบมันได้ถ้าเขาจะทำ ในเวลานั้นวิญญาณก็เป็นเสมือนภาชนะที่รองรับพระหรรษทาน ซึ่งเขาจะทำให้เจริญงอกงามมากขึ้นภายในตัวของเขา มากเท่าที่เขาเลือก ด้วยความปรารถนาและความพึงพอใจของเขาเอง เพื่อที่จะรักและรับใช้เรา   หรือแทนที่จะเป็นเช่นนั้น เขาอาจเลือกความชั่วแทนก็ได้ ถึงแม้เขาจะได้รับพระหรรษทานจากการรับศีลล้างบาปแล้วก็ตาม แต่เมื่อเขาเจริญวัยมากขึ้นเพียงพอ เขาจะพินิจไตร่ตรองแยกแยะสิ่งที่ถูกและสิ่งที่ผิด ด้วยจิตใจอิสระของเขา เขาจะเลือกระหว่างความดีและความชั่วตามที่เขาพอใจ นี่คืออิสรภาพในความเป็นมนุษย์ ดังนั้นในการเลือกของเขาโดยอาศัยฤทธานุภาพของพระโลหิตศักดิ์สิทธิ์ จะไม่มีปีศาจหรือสิ่งสร้างใดๆที่สามารถบังคับเขาให้ทำบาปได้ เว้นแต่เขาจะต้องการ(53)
 
จิตใจอิสระ
 
ลูกแต่ละคนมีสวนองุ่นของตนเอง คือวิญญาณของลูกซึ่งมีจิตใจอิสระที่ถูกแต่งตั้งให้เป็นดังคนงานในระหว่างที่ลูกมีชีวิตอยู่บนโลก แต่เมื่อเวลาของลูกผ่านพ้นไปแล้ว ลูกจะไม่สามารถทำกิจการใดๆได้ไม่ว่าจะเป็นความดีหรือความชั่ว ตราบเท่าที่ลูกยังมีชีวิตอยู่บนโลก จิตใจอิสระจะดำรงอยู่ในสวนองุ่นแห่งวิญญาณ เพราะเราได้จัดวางมันไว้ที่นั่น จิตใจอิสระของลูกมีพลังอำนาจมากจนแม้แต่ปีศาจหรือสิ่งสร้างใดๆก็ไม่สามารถขโมยมันไปได้โดยที่ลูกไม่ยินยอม   เพราะในการรับศีลล้างบาป จิตใจถูกปกป้องด้วยดาบ นั่นคือความรักในคุณธรรมและความเกลียดชังบาป ความรักและความเกลียดชังนี้จะพบได้ในโลหิต เพราะฉะนั้นลูกมีดาบเล่มนี้สำหรับจิตใจอิสระของลูกเพื่อใช้ในการตัดรากถอนโคนบาปและเพาะปลูกคุณธรรมต่างๆเมื่อลูกมีเวลา นี่เป็นวิธีเดียวที่ลูกจะได้รับผลแห่งโลหิตจากคนงานเหล่านี้ที่เราได้จัดเตรียมไว้ให้ในพระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นถ้าลูกจะรับผลแห่งโลหิตเหล่านี้ ประการแรกลูกต้องปลุกจิตใจให้สำนึกผิดในบาปอย่างสมบูรณ์ และมีความรักในคุณธรรม (60)
 
นรกและความหยิ่งจองหอง
 
มีบาปความชั่วที่สำคัญอยู่สามประการ ประการแรกคือ ความเห็นแก่ตัว ที่นำไปสู่ความชั่วประการที่สอง การคิดเอาเอง และจากการคิดเอาเองนำไปสู่ความชั่วประการที่สาม ความหยิ่งจองหอง ความอยุติธรรม ความโหดร้าย การทุจริตและความชั่วร้ายอื่น ๆ กำเนิดขึ้นมาจากความชั่วเหล่านี้ และเราขอบอกลูกอีกว่า ในนรกก็ยังมีความทุกข์ทรมานสำคัญสามอย่าง และความทุกข์ทรมานอื่นๆทั้งหมดก็เป็นผลผลิตจากความทุกข์ทรมานสำคัญเหล่านี้ ประการแรก วิญญาณมีความทุกข์ทรมานจากการถูกแยกจากเรา ความทุกข์ทรมานประการแรกนี้ทำให้หนอนแห่งจิตสำนึกกำเนิดขึ้นมา ต่อไปเป็นความทุกข์ทรมานประการที่สอง การได้เห็นบาปทั้งหลายที่ได้กระทำไปอันเป็นเหตุให้ต้องแยกจากเรา แยกจากบรรดาทูตสวรรค์ของเรา และทำให้พวกเขาสมที่จะได้รับโทษต้องไปอยู่กับปีศาจกลายเป็นพลพรรคของมัน จิตสำนึกของพวกเขาจะค่อยๆเหี่ยวแห้งไป การเห็นปีศาจตลอดเวลาเป็นความทุกข์ทรมานประการที่สาม และมันทำให้ความทุกข์ทรมานอื่นๆหนักเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า บรรดานักบุญที่ได้อยู่กับเราและได้เห็นเรา พวกเขาสรรเสริญสดุดีเราไม่หยุดหย่อน พวกเขาเต็มเปี่ยมด้วยความรักในเรา แต่เป็นตรงกันข้ามสำหรับวิญญาณวิญญาณเหล่านี้ที่ถูกสาปแช่ง (80)
 
พระสงฆ์
 
พระคริสต์บนโลก (“Christ on earth” เป็นคำที่คัทรินชอบใช้เรียกพระสันตะปาปาผู้ที่ทรงเป็นผู้แทนของพระคริสต์) มีกุญแจสำหรับโลหิต...เราต้องการสอนลูกเรื่องการเคารพต่อพระสงฆ์ผู้ที่ปฏิบัติรับใช้เรา ไม่ว่าท่านจะเป็นคนดีหรือคนชั่วก็ตาม และเราไม่พอใจมากต่อการไม่เคารพนับถือพวกท่าน ลูกก็รู้อยู่แล้วว่าเราได้จัดตั้งพระกายศักดิ์สิทธิ์ของพระศาสนจักรภายใต้ภาพลักษณ์ของห้องเก็บไวน์ ในห้องเก็บไวน์นี้คือพระโลหิตขององค์พระบุตรสุดที่รักพระองค์เดียวของเรา และจากพระโลหิตนี้ ศีลศักดิ์สิทธิ์ที่ให้ชีวิตทุกประการได้ถูกมอบให้อยู่ในอำนาจของพวกท่าน   พระคริสต์บนโลก (พระสันตะปาปา) ทรงประทับยืนที่ประตูของห้องเก็บไวน์นี้ พระองค์ได้รับมอบให้เป็นผู้ดูแลพระโลหิต และเป็นหน้าที่สูงสุดของพระองค์ที่จะแต่งตั้งผู้แทนเพื่อช่วยพระองค์ในการรับใช้พระกายของพระคริสต์ในสากลโลก มีเพียงผู้ที่ยอมรับและได้รับการเจิมจากพระองค์เท่านั้นที่จะได้รับมอบหมายให้ดูแล พระองค์ทรงเป็นหัวหน้าของพระสงฆ์ทั้งปวง และพระองค์จะทรงแต่งตั้งผู้ที่เหมาะสมให้มาดูแลพระโลหิตประเสริฐนี้ (216)
 
พระเมตตา
 
โอ ลูกสาวสุดที่รักของเรา ดังที่เราได้บอกลูกบ่อยๆ เราต้องการแสดงพระเมตตาของเราต่อโลกและประทานสิ่งจำเป็นทุกอย่างให้แก่สิ่งสร้างที่รู้จักเหตุผลของเรา แต่ความโง่เขลาได้นำความตายมาสู่สิ่งที่เราประทานชีวิตให้   นั่นเป็นความโหดร้ายในตัวของมันเอง เราต้องการให้ลูกรู้ว่าเราได้ประทานความฉลาดสูงสุดให้แก่มนุษยชาติ  เป็นความฉลาดที่เราสร้างไว้ในตัวลูก และเมื่อเราเพ่งพินิจสิ่งสร้างของเรานี้ในตัวของเราเอง เรารู้สึกรักในความสวยงามของสิ่งสร้างของเรา เราพึงพอใจที่ได้สร้างลูกให้เป็นภาพลักษณ์ของเราและเป็นเหมือนเราด้วยความฉลาดอันยิ่งใหญ่ เราได้ประทานแก่ลูกซึ่งพระพรแห่งความจดจำเพื่อที่ลูกจะได้รับประโยชน์ต่างๆของเราและมีส่วนร่วมกับเราในฤทธานุภาพของพระบิดานิรันดร เราได้ประทานความเข้าใจให้แก่ลูกเพื่อที่ในพระปรีชาญาณแห่งองค์พระบุตรสุดที่รักพระองค์เดียวของเรา ลูกจะได้มีความเข้าใจและรู้ว่าเรา พระบิดานิรันดรมีพระประสงค์อะไร เราประทานพระหรรษทานแก่ลูกด้วยเปลวไฟแห่งความรักนี้ เราได้ประทานจิตแห่งความรักให้แก่ลูก ทำให้ลูกมีส่วนร่วมในพระเมตตาขององค์พระจิตเจ้า เพื่อที่ลูกจะได้รักในสิ่งที่ลูกเข้าใจ รักในสิ่งที่ลูกเห็น และรักในสิ่งที่ลูกรู้ (277)
 
สงครามฝ่ายจิต
 
ลูกรู้ไหม ลูกสาวสุดที่รัก ว่าเรานำวิญญาณออกจากความไม่สมบูรณ์อย่างไร? บางครั้งเราอนุญาตให้ความคิดชั่วเกิดขึ้นในความคิดของเขาและให้มันรบกวนจิตใจของเขา ทำให้เขารู้สึกว่าเราทอดทิ้งพวกเขาอย่างสิ้นเชิง   เขาไม่รู้สึกว่าตนเองอยู่ในโลก   เพราะอันที่จริงเขาไม่ได้อยู่ที่นั่น หรือเขาไม่รู้สึกว่าอยู่ในเราเพราะเขาไม่มีความรู้สึกใดๆเลยแม้แต่ไม่ต้องการบาปด้วย เราไม่อนุญาติให้ศัตรูเปิดประตูแห่งจิตใจอิสระของเขา เรายอมให้ปีศาจและศัตรูของมนุษยชาติโจมตีประตูอื่นๆได้ ยกเว้นประตูแห่งจิตใจอิสระ ซึ่งเป็นประตูหลักในการปกป้องนครแห่งวิญญาณ เราไม่ประสงค์ความตายของวิญญาณ ตราบเท่าที่เขาจะโง่เขลายอมเปิดประตูแห่งจิตใจอิสระของเขา ศัตรูจะไม่สามารถเข้าไปในวิญญาณนอกจากจิตใจอิสระของเขาเลือกที่จะยอมให้พวกมันเข้ามา (299)

**************************

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น