ความลึกลับของเวลา

เวลาคืออะไร? บางคนบอกว่ามันคือมาตรวัดความเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่ง

บ้างบอกว่าเป็นวิธีวัดระยะทางของมิติกาล-อวกาศ ที่มีความต่อเนื่อง เวลาและระยะทางมีความสัมพันธ์กัน เมื่อเรามองดวงดาวในเวลากลางคืน นั่นคือเรากำลังมองไปในอดีต เพราะแสงต้องใช้เวลาเป็นหลายล้านปีกว่าจะเดินทางผ่านสูญญากาศของอวกาศจนมาถึงสายตาของเรา แม้แต่แสงจากดวงอาทิตย์ของเราก็ยังต้องใช้เวลาถึง 8 นาทีก่อนที่จะมาถึงเรา

มีคำพูดเกี่ยวกับเวลาหลายคำในภาษากรีก Chronos หมายถึงเวลาตามนาฬิกา Kairos มีความหมายที่ซับซ้อนกว่า มันหมายถึงเวลาตามประสบการณ์ เช่น บางครั้งเวลาสิบนาทีดูเหมือนจะนานหนึ่งชั่วโมงในประสบการณ์ของบางคน และบางครั้งเวลาหนึ่งชั่วโมงดูจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้น Kairos จึงเป็นเวลาที่มีความยืดหยุ่นกว่า และคำสุดท้าย aeon (นิรันดร หรือความเต็มเปี่ยมของเวลา Fullness of Time) เราจะพูดถึงคำสุดท้ายนี้ดังต่อไปนี้

เมื่อพิจารณาเรื่องเวลา เราจะรู้สึกถึงความลึกลับของมัน แต่เราคงไม่คิดถึงเรื่องนี้ถ้าไม่มีใครถามถึงคำจำกัดความของเวลา นักบุญออกัสตินเคยพูดเกี่ยวกับความลึกลับในอีกกรณีหนึ่งคือเรื่องของ “พระตรีเอกภาพ” ซึ่งเราอาจนำคำพูดของท่านมาใช้เกี่ยวกับเวลาว่า “ถ้าท่านไม่ถามข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็จะรู้ ถ้าท่านถามข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็จะไม่รู้”

ลองมาพิจารณาความลึกลับของเวลาในบางแง่มุมดังต่อไปนี้
 

1 ความยืดหยุ่นของเวลา – เรามักคิดว่าเวลานั้นไม่มีการคลาดเคลื่อน 10 นาทีของที่นี่ก็เหมือนกับ 10 นาทีของที่นั่น แต่นักวิทยาศาสตร์ไม่เห็นด้วย ตัวอย่างเช่น วัตถุที่เคลื่อนที่ใกล้ความเร็วแสง เวลาบนวัตถุนั้นจะช้าลง และแรงโน้มถ่วงที่แรงมากๆก็ทำให้เวลาช้าลงด้วย ในดาวเคราะห์ที่ใหญ่มากจะมีแรงโน้มถ่วงที่แรงมาก ผู้ที่อาศัยอยู่บนดาวเคราะห์นั้นจะมีอายุยืนยาวกว่าผู้ที่อาศัยอยู่ในดาวที่เล็กกว่า ความเร็วหรือแรงโน้มถ่วงในระดับปริมาณมากๆทำให้การสังเกตการณ์แตกต่างไปจากเดิม ทฤษฏีสัมพันธภาพแสดงให้เห็นว่าเวลาไม่ได้ผ่านไปด้วยความเร็วคงที่เท่ากันเสมอไปในทุกแห่ง

2 ความลึกลับของช่วงชีวิต - ทำไมช่วงชีวิตของสิ่งมีชีวิตแต่ละสปีชี่จึงมีอายุที่แตกต่างกัน? อย่างเช่น แมว ซึ่งเป็นสัตว์เลือดอุ่น สรีรร่างกายของมันก็คล้ายๆกันกับเรา แต่นาฬิการ่างกายของมันจะดับไปประมาณ 15 ปี ในขณะที่มนุษย์จะอยู่ที่ประมาณ 80 ปี เต่าสามารถมีอายุยืนถึง 150 ปี นกแก้วมีอายุถึง 100 ปี แต่นกประเภทอื่นอาจมีอายุเพียง 10 – 15 ปี ปลาส่วนใหญ่มีอายุไม่กี่ปี แต่ปลาคาร์พมีอายุถึง 100 ปี สัตว์ทุกชนิดมีนาฬิการ่างกายที่ถูกออกแบบให้มีช่วงชีวิต life span ที่แตกต่างกัน มนุษย์เราก็มีเวลาที่ลึกลับอยู่ในตัวของเรา

3 ความลึกลับของนาฬิกาภายในตัวเรา วงจรชีวิตของเราตั้งอยู่บนการเคลื่อนที่เป็นวงโคจรของโลก หนึ่งวันคือการหมุนรอบตัวเองรอบแกนของโลก หนึ่งปีคือการเคลื่อนที่ของโลกรอบดวงอาทิตย์ครบหนึ่งรอบ หนึ่งเดือนขึ้นอยู่กับเคลื่อนที่ของดวงจันทร์รอบโลก (month ที่แปลว่าเดือน มาจากคำว่า moonth) ฤดูกาลเป็นผลมาจากการโคจรรอบดวงอาทิตย์และการเอียงของแกนโลกที่สัมพันธ์กับระนาบวงโคจร เรื่องลึกลับเรื่องหนึ่งคือเรื่องของหนึ่งสัปดาห์มี 7 วัน มันมาจากอะไร? พระคัมภีร์ปฐมกาลแบ่งการสร้างโลกเป็น 7 วัน และเรื่องนี้ส่งผลต่อวัฒนธรรมการแบ่งสัปดาห์ของชาวยิวและชาวคริสต์ แต่ในวัฒนธรรมอื่นก็แบ่งสัปดาห์เป็น 7 วันเหมือนกัน แล้วการแบ่งเช่นนี้มาจากไหน? นี่เป็นเรื่องลึกลับอีกเรื่องหนึ่ง

4 ความลึกลับของนิรันดรภาพ มีความลึกลับในสิ่งที่เราเรียกว่า “นิรันดรภาพ” หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าคำนี้หมายถึงเวลาที่ยาวนานมากๆ แต่นั้นไม่ใช่ความหมายที่แท้จริง ตามภาษากรีกคำว่านิรันดร (aeon) พวกเขาหมายถึง “ความเต็มเปี่ยมของเวลา” (fullness of time) คำนิรันดรหมายถึง อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ปรากฏในเวลาเดียวกันในทันที อาจเปรียบให้เข้าใจได้บ้างคือ เมื่อมองดูนาฬิกาที่บอกเวลา 2.00 น.ตอนบ่าย แสดงว่าเวลา 10.00 น. เป็นอดีต และเวลา 6.00 น. ของวันต่อไปจะเป็นอนาคต ทั้งสามเวลานี้เรียงต่อกันไป เราทุกคนมีชีวิตอยู่ในเวลาที่ต่อเนื่องกัน แต่พระเป็นเจ้าไม่ได้เป็นเช่นนั้น พระองค์ไม่ได้อยู่ในเวลา แต่พระองค์อยู่ในนิรันดรภาพซึ่งไม่มีเวลา สำหรับพระเป็นเจ้า อดีตและอนาคตเป็นเช่นเดียวกับปัจจุบัน พระองค์ใม่จำเป็นต้องรอให้สิ่งต่างๆบังเกิดขึ้น ทุกสิ่งเป็นอยู่แล้ว พระเจ้าไม่จำเป็นต้องรอคอยหรือประหลาดใจว่าคุณหรือผมจะได้เข้าสวรรค์หรือไม่ พระองค์ไม่ต้องเฝ้าดูประวัติศาสตร์ให้เปิดเผยออกมาเหมือนกับดูภาพยนตร์ ในนิรันดรภาพ พันปีที่ผ่านไปแล้วก็เป็นเหมือนปัจจุบันและเป็นเหมือนพันปีต่อไป พระคัมภีร์พูดถึงนิรันดรภาพของพระเจ้าไว้หลายแห่ง อาทิเช่น

ท่านที่รักทั้งหลาย สิ่งหนึ่งที่ท่านต้องไม่ลืม คือสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า เพียงหนึ่งวันก็เหมือนกับหนึ่งพันปี และหนึ่งพันปีก็เหมือนกับหนึ่งวัน” (3 ปต. 3 : 8)

พระเนตรของพระองค์เห็นการกระทำของข้าพระองค์ ในหนังสือของพระองค์ทุกสิ่งถูกบันทึกไว้แล้ว วันของข้าพระองค์ถูกกำหนดไว้แล้วก่อนที่จะเกิดขึ้นมา (สด. 139 ,16)

เพราะพันปีในสายพระเนตรของพระองค์เป็นเหมือนวันวานที่ผ่านไปแล้วหรือเหมือนโมงเดียวของเวลากลางคืน” (สด. 90 , 4)

นอกจากนี้ พระนามของพระเจ้าที่ทรงบอกไว้คือ “เราเป็น” ในพระนามนี้ไม่มีอดีตและไม่มีอนาคต มีแต่เพียงเวลานี้ในนิรันดร (ปัจจุบัน) และพระเยซูเจ้าตรัสแก่ประชาชนว่า “ก่อนอับราฮัมเกิด เราก็เป็นอยู่แล้ว” (ยน. 8 : 58) และนี่คือความลึกลับที่สุดของเวลา นั่นคือ นิรันดรภาพ หรือ ความเต็มเปี่ยมของเวลา

คุณเคยลองพิจารณาความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าและความลึกลับของเวลาบ้างหรือไม่?

*********************************