วันอังคารที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2562

โซดมและโกโมราห์ถูกทำลาย




ตามข้อความในพระคัมภีร์พระธรรมเก่า เมืองโซดมและโกโมราห์ ตั้งอยู่ในบริเวณทะเลตายในอิสราเอล เมืองถูกทำลายเพราะชาวเมืองทำบาปอุลามก มัวเมาลุ่มหลงในตัณหาทั้งผู้ชายและผู้หญิง มีการประพฤติผิดของคนเพศเดียวกัน พระเจ้าจึงไม่ทรงพอพระทัย ล็อตซึ่งเป็นหลานของอับราฮัมอาศัยอยู่ที่เมืองนี้ ท่านได้พยายามตักเตือนชาวเมืองให้กลับตัวกลับใจ แต่ก็ไม่ได้ผล พระเจ้าจึงทรงส่งฝนไฟลงมาทำลายเมือง ชาวเมืองทุกคนเสียชีวิต ยกเว้นล็อตและคนในครอบครัวเท่านั้น
 
December 11, 2018 (LifeSiteNews.com) – นักโบราณคดีและนักวิทยาศาสตร์ได้พบหลักฐานที่แน่ชัดของการสูญหายของบริเวณ “Middle Ghor,” อันเป็นที่ตั้งของเมืองโซดมและโกโมราห์ในอดีต ผลการศึกษาวิจัยเบื้องต้นของนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน ได้พบว่ามีเหตุการณ์ภัยพิบัติเกิดขึ้นในบริเวณทะเลตายเมื่องสี่พันปีที่แล้ว ทำให้ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่เป็นเวลานานหลายศตวรรษ
 
นักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัย Trinity Southwest University ให้สัมภาษณ์ว่าความเจริญรุ่งเรืองในแถบทะเลตายถูกทำลายไปเมื่อง 3700 ปีในอดีตจากการระเบิดของอุกาบาติในท้องฟ้า ทำให้เกิดความร้อนสูงหลายพันองศาเซลเซียส เป็นทฤษฏีที่สอดคล้องกับข้อความในพระคัมภีร์ที่มีบันทึกเอาไว้
 
Phillip Silvia ได้รายงานการวิจัยเบื้องต้นของเขา ในการประชุมที่ American Schools of Oriental Research in Denver จากการขุดค้นพื้นดินบริเวณนั้นที่พระคัมภีร์ระบุว่าเป็นที่ตั้งของเมืองโซดมและโกโมราห์ บ่งชึ้ว่าตัวเมืองและสถานที่เขต“Middle Ghor,” ของหุบเขาจอร์แดน มีผู้คนอาศัยอยู่ประมาณ 65,000 คนในเวลานั้น ได้รับผลกระทบจาก คลื่นความร้อนรุนแรง , เกิดลมร้อนและฝุ่นขนาดเล็กแผ่กระจายไปทั่ว (the outlet Science News reports)
 
ความแรงของคลื่นระเบิดยังผลักดันน้ำเค็มของทะเลตายให้กระจายไปตามพื้นดิน ทำให้พื้นดินเสียหาย นักวิจัยกล่าวว่า “การระเบิดไม่เพียงแต่ทำลายล้างเมือง 100 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่ยังทำลายพื้นดินที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นพื้นดินที่อุดมสมบูรณ์อีกด้วย” (Newsweek reports)
 
นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า การระเบิดของอุกาบาติป็นสาเหตุของภัยพิบัติที่กวาดล้างทำลายบริเวณนั้นทั้งหมด การวัดอายุด้วยคาร์บอน14 เปิดเผยว่ากำแพงเมืองอิที่ทำด้วยดินโคลนของเมือง Middle Ghor city (โซดมและโกโมราห์) นั้นได้หายไปในพริบตา เหลือแต่ก้อนหินที่เป็นฐานของมันเท่านั้น
 
เศษกระเบื้องของเครื่องปั้นดินเผาที่พบบริเวณนั้นได้หลอมละลายกลายเป็นแก้ว อันเนื่องมาจากความร้อนสูงสุดขีด ด้วยเหตุนี้ผู้คนจึงไม่กลับมาอาศัยอยู่ที่นั่นอีกเลยเป็นเวลาถึง 600-700 ปี
 
นักวิทยาศาสตร์พบแร่แพลตตินัมกระจายอยู่ในบริเวณนั้นด้วย  แร่แพลตตินัมที่พบในอุกาบาติมีปริมาณมากกว่าบนโลก  การระเบิดทำให้แพลตตินัมตกลงมาพร้อมกับลาวา นี่เป็นข้อยืนยันว่าเมืองถูกทำลายโดยการระเบิดของอุกาบาติในระดับใกล้พื้นดิน
 
เขต “Tall el-Hammam,” เป็นสถานที่หลักในการขุดค้นนี้ นักโบราณคดีเชื่อว่าเป็นที่ตั้งของเมืองโซดม ช่วงเวลาที่ประมาณได้ของเมืองถูกทำลายด้วยภัยพิบัตินั้นสอดคล้องกับช่วงเวลาที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ปฐมกาลบทที่ 19 ที่กล่าวว่า “พระเจ้าได้ทำลายเมืองโซดมและโกโมราห์ด้วยกำมะถันและไฟที่ลงมาจากสวรรค์” ในข้อความที่ 24 กล่าวว่า “พระเจ้าได้ทำลายเมืองเหล่านี้พร้อมด้วยผู้คนที่อาศัยอยู่ และทุกสิ่งที่อยู่บนพื้นดิน” พระคัมภีร์ยังเล่าว่า “อับราฮัม มองดูเมืองโซดมและโกโมราห์และบริเวณนั้นทั้งหมด เขาเห็นขี้เถ้าฟุ้งกระจายขึ้นมาจากพื้นดินเหมือนควันจากเตาไฟ” ในจดหมายของนักบุญยูดาเปรียบเทียบไฟที่ทำลายเมืองโซดมและโกโมราห์ว่าเป็น ไฟนิรันดรของนรก
 
เคยมีปรากฏการณ์การระเบิดของอุกาบาติมาหลายครั้งแล้ว เมื่อห้าปีก่อน ก็มีอุกาบาติระเบิดใกล้ผิวโลกที่เมือง Chelyabinsk ของรัสเซีย ทำให้คนได้รับบาดเจ็บ 1,000 คน ส่วนใหญ่จากกระจกที่แตก การระเบิดครั้งใหญ่สุดเกิดในปี 1908 ที่ทุ่งทังกุสกาของไซบีเรีย กวาดล้างอาณาบริเวณ 2,000 ตารางกิโลเมตรจนราบเรียบ

*****************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น