วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2562

แม่พระแห่งครอบครัว



พระสังฆราชแห่งเบอร์การ์โน ประเทศอิตาลี ได้เปลี่ยนการตัดสินใจอย่างกระทันหันในวันพุธ 13 ก.พ. 2019 จากการที่มีคำสั่งมาเป็นเวลายาวนานในการห้ามไม่ให้ปฏิบัติความศรัทธาต่อการประจักษ์ของแม่พระที่ยังไม่ได้รับการรับรองในบริเวณ Ghiaie di Bonate ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆทางตะวันออกเฉียงเหนือของมิลาน

พระสังฆราชมองซิเยอร์ ฟรานเชสโก เบชชี (Francesco Beschi) “ได้ประกาศการตัดสินใจในช่วงสุดท้ายของขั้นตอนของสันตะสำนัก…เพื่อมอบอำนาจ, ให้คุณค่าและติดตามเรื่องราวของ 'พระนางมารีย์ราชินีแห่งครอบครัว' ที่โบสถ์ประจำตำบล Ghiaie di Bonate ” ลบล้างการห้ามความศรัทธาในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1948 อย่างไรก็ตาม การประจักษ์ของแม่พระและสาส์นต่างๆของพระนาง ยังถือว่าเป็น "non constat" - ยังไม่ผ่านการพิสูจน์ – ตามคำสั่งของวาติกัน ได้ยอมรับว่าการแสวงบุญและความศรัทธานั้นได้รับแรงบันดาลใจจากการประจักษ์ของแม่พระสิบสามครั้งที่เกิดขึ้นในช่วง 21 วันตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคมถึง 31 พฤษภาคม 1944 อย่างต่อเนื่อง สิ่งที่พระสังฆราชได้อธิบายไว้ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ซึ่งเป็นวันฉลองการประจักษ์ที่ลูร์ดนั้น มีความชัดเจนและเป็นวิธีที่ "เป็นรูปธรรม เป็นความจริงและถ่อมตน"
 
คำสั่งห้ามในปี 1948 ซึ่งบัดนี้ถูกลบล้างไปแล้วนั้น เป็นคำตัดสินที่รุนแรงมากโดยกล่าวว่า "ความศรัทธาต่อแม่พระในทุกรูปแบบ การนมัสการในขณะที่มีการประจักษ์ที่ Ghiaie di Bonate โดยกฎหมายของพระศาสนจักรขอประกาศไว้ณ.ที่นี้ว่ายังคงไม่ได้รับการอนุญาต" นอกจากนี้คำสั่งห้ามยังมีสาเหตุมาจากการกระทำของพระสงฆ์องค์หนึ่งด้วยที่แม้แต่สมเด็จพระสันตะปาปายอห์นที่ 23 เองก็ยังทรงสงสัย คำแถลงใหม่นี้ระบุว่าผู้มีความเชื่อส่วนใหญ่โดยเฉพาะผู้เห็นแม่พระ อาดีเลดด์ รอนคาลลี่ ( Adelaide Roncalli) “มีความเชื่อมั่นในปรีชาญาณของพระศาสนจักรอยู่เสมอ โดยดำเนินชีวิตในความศรัทธาต่อพระแม่มารีย์อย่างแท้จริงและบังเกิดผล”

อาดีเลดด์ เป็นเด็กหญิงอายุเพียงเจ็ดปีเท่านั้น เมื่อพระแม่มารีย์ทรงประจักษ์มาพร้อมกับครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ที่หมู่บ้าน Ghiaie di Bonate บางครั้งพระนางทรงประจักษ์มาพร้อมด้วยทูตสวรรค์แปดองค์ ทรงประจักษ์มาติดต่อกันเป็นเวลา 9 วัน อาดีเลดด์ พร้อมด้วยเพื่อนหญิงหลายคนติดตามมากับเธอด้วยในตอนแรก และต่อมาผู้ติดตามก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 12 คน จากนั้นชาวเมืองหลายร้อยคนได้มาเข้าร่วม ข่าวนี้ดึงดูดผู้คนเป็นจำนวนมากถึงประมาณ 200,000 คนที่ต้องการเห็นการประจักษ์มาของแม่พระ
 
การประจักษ์เริ่มต้นในวันที่ 28 พฤษภาคมจนถึงสิ้นเดือน เมื่อมีคนประมาณ 35,000 คนมาอยู่ในพื้นที่นั้น หลายคนบอกว่าพวกเขาเห็นดวงอาทิตย์มีลักษณะพิเศษและมีอัศจรรย์อื่นๆ ผู้คนเป็นจำนวนมากได้เห็นอัศจรรย์แห่งดวงอาทิตย์เหมือนที่ฟาติมา การประจักษ์ที่ฟาติมาซึ่งติดตามมาด้วยการยุติลงของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง การประจักษ์ที่ Ghiaie di Bonate ก็เป็นเช่นเดียวกัน ที่ติดตามมาด้วยกานยุติลงของสงครามโลกครั้งที่สอง จึงทำให้การประจักษ์ที่ Ghiaie di Bonate นั้นรู้จักกันในชื่อ “ภาคสุดท้ายของฟาติมา"
 
ปรากฏการณ์บนท้องฟ้ารวมถึงการที่รังสีแสงจากดวงอาทิตย์ส่องลงมาที่อาดีเลดด์
 
ดร. Eliana Maggi ผู้สังเกตการณ์คนหนึ่ง ได้ให้คำให้การต่อคณะกรรมการสอบสวนของพระสังฆราชว่า “ในช่วงเริ่มต้นของการประจักณ์ รังสีแสงจากดวงอาทิตย์รังสีหนึ่งได้ส่องลงมาที่ศีรษะของเด็ก ฉันเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและเห็นรอยแยกรูปกากบาทในท้องฟ้า แล้วก็มีจุดเล็กๆสีทองและสีเงินมากมายหลั่งไหลลงมาเหมือนฝน และในเวลาหนึ่งหรือสองนาทีทุกคนก็ร้องตะโกนว่าอัศจรรย์”

ยังมีคนอื่นๆอีกหลายคนที่รายงานว่าเขาเห็นดวงอาทิตย์เป็นรูปกากบาท หรือเป็นแผ่นจานแสงอาทิตย์หมุนวนเป็นวงเวียนและก่อตัวเป็นวงแหวน เช่นเดียวกับดร. Maggi หลายคนเห็นดาวสีทองพร้อมกับเมฆสีเหลืองเล็กๆในท้องฟ้า มีสีที่ “เรืองแสง” หลายสีดูเหมือนสีรุ้งอยู่บนมือของผู้กำลังสวดภาวนา
 
ยิ่งไปกว่านั้น อัศจรรย์ของดวงอาทิตย์ไม่เพียงแต่เห็นได้เฉพาะที่ Ghiaie di Bonate เท่านั้น แต่ยังเห็นได้จากเมืองใกล้เคียงด้วย เช่นที่ Tavernola บางคนประมาณว่ามีผู้ที่เห็นอัศจรรย์ดวงอาทิตย์มากกว่าหนึ่งล้านคนที่เกิดขึ้นในระหว่างการประจักษ์

ความยุ่งยากเกิดขึ้นไม่นานหลังจากเหตุการณ์นั้น อาดีเลดด์ถูกบังคับให้ปฏิเสธสิ่งที่เธอเห็น - แม้ว่าเธอจะเพิกถอนการปฏิเสธนั้นในอีกไม่ถึงหนึ่งปีต่อมา พระสันตะปาปายอห์นที่23 ในจดหมายวันที่ 8 กรกฏาคม 1960 ตรัสด้วยพระองค์เองว่า คำให้การเป็นพยานของเธอถูกเพิกถอนไป "เพราะการคุกคามและความกลัวต่อนรกที่มีใครบางคนขู่เธอ" พระองค์ทรงเศร้าพระทัยต่อ “การกระทำอันไม่สมควรเหล่านั้น”
 
“ใครบางคน” นั้นก็คือพระสงฆ์ Don Luigi Cortesi ซึ่งเป็นนักปรัชญาและอาจารย์แห่งสามเณราลัยเบอร์กาโนที่เล่นบท “สมุนของปีศาจที่ชั่วร้าย” และการกระทำเช่นนั้นนับว่ามากเกินไปที่บังงคับให้เด็กเล็กๆมีความสงสัยในสิ่งที่เธอได้กล่าวยืนยันไว้

อาดีเลดด์ได้เขียนไว้ในสมุดบันทึกของเธอเล่าว่า: “ในห้องหนึ่งของคอนแวนต์ Orsoline ในแบร์กาโม หลังจากที่ปิดประตูทุกบานแล้ว Don Cortesi ได้สั่งให้ฉันเขียนตามคำที่ท่านพูดลงในสมุดบันทึกอันน่ารังเกียจ ฉันจำได้เป็นอย่างดีว่า ในสถานการณ์ของความรุนแรงทางจริยธรรมที่ฉันถูกกระทำเวลานั้น ฉันได้ทำให้กระดาษเปรอะเปื้อน แต่เขาก็แยกกระดาษออกและบังคับห้ฉันเขียนอีกครั้งด้วยความอดทนอย่างยิ่ง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของเขา นั่นเป็นวิธีการทรยศของเขา”

อาดีเลดด์ยังได้รับความทุกข์ทรมานอย่างมาก เมื่อตอนที่เธอขอสมัครเข้าคอนแวนต์ เธอกลับถูกบังคับให้ออกไปโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน หลังจากนั้นเธอยังคงดำเนินชีวิตศรัทธาอย่างเข้มงวด แต่ได้แต่งงานและเริ่มสร้างครอบครัว
กล่าวกันว่าเมื่อคุณพ่อปีโอ ได้พบกลุ่มคนที่มาจากหมู่บ้าน Bonateนี้ ท่านพูดกับพวกเขาว่า“พวกคุณมาทำอะไรที่นี่ ในเมื่อพวกคุณมีพระแม่แห่ง Bonate ในหมู่บ้านของพวกคุณแล้วมิใช่หรือ?”
 
สาส์นที่แม่พระทรงประทานให้นั้นเรียบง่ายและไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในโลก อย่างน้อยก็ไม่ใช่สิ่งที่สังคมโลกรู้จัก แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ของปัจเจกบุคคลและครอบครัว
 
[สาส์นแห่ง Ghiaie di Bonate (จากหนังสือ La Madonna di Ghiaie di Bonate):
 
1) ความเป็นหนึ่งเดียวและความศักดิ์สิทธิ์ของครอบครัว
 
ในการประจักษ์ครั้งที่ 9 อาดีเลดด์ได้เห็นภาพนิมิตที่เป็นสัญลักษณ์และครอบคลุมคำสอนทั้งหมดเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ของครอบครัว โดยเน้นย้ำถึงคุณธรรมที่ขาดไม่ได้ทั้งสี่ประการ อันได้แก่ ความอดทน ความสัตย์ซื่อ ความอ่อนโยนและความสงบของครอบครัว ภาพนิมิตนี้ให้ความหมายที่ถือได้ว่าเป็นงานชิ้นเอกที่แท้จริงของความดีงามอันศักดิ์สิทธิ์ นกพิราบคู่หนึ่ง - เป็นตัวแทนของสมาชิกสองคนของครอบครัวหนึ่ง นั่นคือครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ซึ่งจะเป็นแบบอย่างสำหรับทุกครอบครัว ม้า - นั่นคือเจ้าของบ้านที่ตกอยู่ใต้อำนาจของการล่อลวง เขาละทิ้งการสวดภาวนา เขาตื่นนอนและแอบเดินย่องผ่านหลังของพระแม่มารีย์ ค่อยๆผ่านประตูที่เปิดออกไป (นี่หมายถึงอิสรภาพที่พระเจ้าทรงประทานแก่สิ่งสร้างของพระองค์) เขามุ่งหน้าไปยังท้องทุ่งของต้นลิลลี่ที่ต้องการที่จะเหยียบย่ำเขาให้ต่ำลง มีสัตว์อีกชนิดหนึ่ง, แกะสีขาว, กำลังสวดภาวนาอยู่ในโบสถ์พร้อมกับคุณธรรมสองประการ: สุนัขลายจุด (หมายถึงความซื่อสัตย์), ลาสีเทา (หมายถึงความสำนึกผิดกลับใจด้วยความอดทน เป็นสิ่งที่สามีและภรรยาต้องหมั่นฝึกฝน) การสวดภาวนา และคุณธรรมแห่งความสัตย์ซื่อและความสำนึกผิดกลับใจด้วยความอดทน ทำให้พระเจ้าทรงเมตตาและจะทรงส่งนักบุญยอแซฟมาช่วย ท่านจะจับมัน(สัตว์ทั้งสามชนิด) และนำมันกลับไปสู่การให้อภัยและการสวดภาวนาด้วยความอ่อนโยน ดังนั้นความเป็นหนึ่งเดียวและความศักดิ์สิทธิ์ของครอบครัวจึงครบองค์ประกอบ
 
2) หน้าที่ของเด็ก ๆ
 
“ลูกต้องเป็นคนดี , เชื่อฟัง , เคารพเพื่อนบ้านและจริงใจ: สวดภาวนาอย่างดี…” (1 °)
 
“ลูกต้องเป็นคนดี , เชื่อฟังและจริงใจและลูกต้องสวดภาวนาอย่างดีและให้ความเคารพต่อเพื่อนบ้าน” (2 °)

เด็ก ๆ ต้องมีส่วนร่วมในการทำดีของครอบครัว ในการประจักษ์สองครั้งแรก แม่พระได้จัดทำตารางการปฏิบัติชีวิตครอบครัวสำหรับเด็กและผู้ใหญ่โดยเน้นหน้าที่ดังต่อไปนี้: ความดี , ความเชื่อฟัง ความเคารพต่อเพื่อนบ้าน , ความจริงใจและการสวดภาวนา
 
3) การสวดภาวนาและการสำนึกผิดกลับใจ
 
“จงบอกพวกเขาว่าหากพวกเขาต้องการให้ลูกๆของพวกเขาได้รับการรักษา พวกเขาต้องสำนึกผิดกลับใจ ให้สวดภาวนามากๆ และหลีกเลี่ยงบาป หากผู้คนกลับใจในไม่ช้าสงครามจะยุติลงภายในสองเดือน มิฉะนั้นจะดำเนินต่อไปอีกสองปี” (3 °)
 
“จงสวดภาวนาเพื่อคนบาปที่น่าสงสาร ซึ่งต้องการคำภาวนาของเด็ก ๆ ” (4 °)
 
“จงสวดภาวนาเพื่อคนบาปที่ดื้อรั้นซึ่งกำลังจะตายในเวลานี้และเป็นผู้ที่ทิ่มแทงหัวใจของแม่” (6 °)
 
“การสวดภาวนาที่แม่ชอบที่สุดคือการสวดบทวันทามารีย์” (6 °)
 
“จงสวดภาวนาเพื่อพระสันตะปาปาผู้ทรงดำรงชีวิตในช่วงเวลาที่ยากลำบาก” (10 °)
 
“จงสวดภาวนามากๆสำหรับผู้ที่มีวิญญาณที่เจ็บป่วย พระเยซูองค์พระบุตรของแม่ทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อช่วยพวกเขา หลายคนไม่เข้าใจคำพูดของแม่ นั่นคือเหตุผลที่แม่ต้องทนทุกข์ทรมานมาก” (11 °)
 
“จงสวดภาวนาเพื่อพระสันตะปาปาและจงทูลพระองค์ให้กระทำโดยเร็ว เพราะแม่ปรารถนากระตุ้นความเชื่อของทุกคนในสถานที่นี้ สิ่งใดที่มีผู้วอนขอต่อแม่ แม่จะวอนขอต่อองค์พระบุตรของแม่สำหรับสิ่งนั้น” (13 °)
 
แม่พระทรงพูดกับทุกครอบครัว ทรงกระตุ้นพวกเขาให้สวดภาวนาและทำกิจใช้โทษบาปเพื่อความปลอดภัยของสถาบันครอบครัว เราต้องสวดภาวนาอย่างดีและให้ลูกๆของเราสวดภาวนาด้วย เพราะคำสวดภาวนาของผู้บริสุทธิ์ที่ได้รับการร้องขอจากแม่พระจะช่วยคนบาปที่น่าสงสารให้ได้รับความรอด สงครามก็เป็นสาเหตุและผลลัพท์ของบาปจำนวนมากมาย แม่พระทรงเรียกร้องให้เราทำกิจใช้โทษบาปและสวดภาวนาเพื่อสันติภาพ
 
4) การพินิจรำพึง
 
“จงพินิจรำพึงถ้อยคำเหล่านี้ตลอดวันเวลาของชีวิต จงรวบรวมความกล้าหาญในความเศร้าโศกของลูก” (7 °)
 
“ พรุ่งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่แม่จะพูดกับลูก หลังจากนั้นเจ็ดวันแม่จะให้ลูกไตร่ตรองสิ่งที่แม่ได้บอกลูก จงพยายามทำตามคำพูดของแม่อย่างซื่อตรงเพราะมันจะมีประโยชน์มากสำหรับลูก เมื่อลูกโตขึ้นถ้าลูกต้องการที่จะกลายเป็นของแม่อย่างครบถ้วน” (8 °)
 
แม่พระทรงเชื้อเชิญเราให้พิจารณาไตร่ตรองสิ่งที่พระนางตรัสแก่อาดีเลดด์ พระนางทรงเป็นอาจารย์แห่งชีวิตฝ่ายวิญญาณ พระนางทรงประสงค์ให้เราทำตามคำสอนของพระนางอย่างซื่อตรง เพราะจะเป็นประโยชน์มากต่อเราในระหว่างการเดินทางอันยาวนานเพื่อไปสู่ความรอด
 
5) ความรักต่อเพื่อนบ้าน
 
“ลูกต้องเป็นคนดี , เชื่อฟัง, เคารพเพื่อนบ้านและจริงใจ: สวดภาวนาอย่างดีและกลับมาที่สถานที่นี้ในเวลาเย็นเป็นเวลาเก้าวัน ในเวลานี้เสมอ "(1 °)
 
“ลูกจะต้องเป็นคนดี , เชื่อฟังและจริงใจ และลูกต้องสวดภาวนาอย่างดีและให้ความเคารพต่อเพื่อนบ้าน” (2 °)
 
“สันติภาพกำลังจะมาเร็ว ๆ นี้ แต่แม่วิตกกังวลสำหรับสันติภาพของโลกที่ซึ่งทุกคนรักซึ่งกันและกันเหมือนพี่น้อง” (10 °)
 
6) ความทุกข์
 
ความทุกข์ของแม่พระ
 
“จงสวดภาวนาเพื่อคนบาปที่ดื้อรั้นผู้ซึ่งกำลังจะตายในเวลานี้และเป็นผู้ที่ทิ่มแทงหัวใจของแม่” (6 °)
 
“จงสวดภาวนาเพื่อคนบาปที่ดื้อรั้นที่ทำให้หัวใจของแม่ทุกข์ทรมานเพราะพวกเขาไม่คิดถึงความตาย” (10 °)
 
“ จงสวดภาวนามากๆสำหรับผู้ที่มีวิญญาณที่เจ็บป่วย พระเยซูองค์พระบุตรของแม่ทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อช่วยพวกเขา หลายคนไม่เข้าใจคำพูดของแม่นั่นคือเหตุผลที่แม่ต้องทนทุกข์ทรมานมาก” (11 °)
 
ความทุกข์ของสมเด็จพระสันตะปาปาและพระศาสนจักร
 
“จงสวดภาวนาเพื่อสันตะบิดรผู้บริสุทธิ์ผู้ทรงดำรงชีวิตในช่วงเวลาที่ยากลำบาก พระองค์ทรงได้รับความทุกข์มากมายและมีหลายคนที่ปองร้ายพยายามจะเอาชีวิตของพระองค์ แม่จะปกป้องพระองค์และพระองค์จะไม่ละทิ้งวาติกัน สันติภาพกำลังจะมาเร็ว ๆ นี้ แต่แม่วิตกกังวลสำหรับสันติภาพของโลกที่ซึ่งทุกคนรักซึ่งกันและกันเหมือนพี่น้อง ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่พระสันตะปาปาจะประสบความทุกข์น้อยลง” (10 °)
 
ความทุกข์ของอาดีเลดด์
 
“ลูกจะต้องทนทุกข์ทรมานมากมาย แต่อย่าร้องไห้เพราะลูกจะมาอยู่กับแม่ในสรวงสวรรค์!” (2 °)
 
“จงพิจารณาไตร่ตรองถ้อยคำเหล่านี้ตลอดวันเวลาแห่งชีวิตของลูก จงรวบรวมความกล้าหาญในความเศร้าโศกทั้งหมดของลูก” (7 °)
 
“ลูกที่รัก พวกลูกทุกคนเป็นลูกของแม่ แต่ถึงแม้ว่าลูกจะเป็นที่รักสุดหัวใจของแม่ พรุ่งนี้แม่ก็จะต้องละทิ้งพวกลูกไว้ในหุบเขาแห่งความเศร้าโศกและร่ำไห้ ลูกจะได้เห็นแม่อีกครั้งในเวลาแห่งวาระของลูก แม่จะพาลูกไปสู่สรวงสวรรค์ที่ถูกห่อหุ้มด้วยเสื้อคลุมของแม่ แม่จะพาคนที่เข้าใจลูกและทนทุกข์ไปกับแม่ด้วย " (12 °)
 
“ลูกสาวที่รักของแม่ แม่ต้องขอโทษที่แม่ต้องจากลูกไป แต่เวลาของแม่ผ่านไปแล้ว อย่าเสียใจถ้าลูกไม่ได้เห็นแม่สักชั่วระยะหนึ่ง จงคิดถึงสิ่งที่แม่ได้บอกกับลูก แม่จะกลับมาในวันเวลาของลูก ลูกจะเป็นมรณะสักขีน้อยๆที่แท้จริงในหุบเขาแห่งความเศร้าโศกนี้ อย่าท้อแท้ไปเลย แม่หวังว่าชัยชนะของแม่จะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้” (13 °)

“แม่จะเป็นรางวัลของลูก ถ้าหากการเป็นมรณะสักขีของลูกนั้นเป็นด้วยความยินดี คำพูดของแม่จะเป็นสิ่งปลอบประโลมใจอันยิ่งใหญ่แก่ลูกในยามถูกทดลอง จงทนรับทุกอย่างด้วยความอดทน แล้วลูกจะมาถึงแม่ในสวรรค์ […] จงร่าเริงเถิดเพราะเราจะได้พบกันอีก มรณะสักขีน้อยๆสุดที่รักของแม่” (13 °)
 
ความทุกข์ของผู้ป่วย
 
“ไม่หรอก ไม่จำเป็นที่ทุกคนต้องมาที่นี่ ผู้ที่สามารถมาได้อาจมาที่นี่และพวกเขาจะได้รับการรักษาหรืออาจยังคงเจ็บป่วยขึ้นอยู่กับการเสียสละของพวกเขา แต่พวกเขาต้องไม่ทำบาปหนักอีกต่อไป” (6 °)

“คนป่วยที่ต้องการได้รับการเยียวยารักษา ต้องวางใจแม่มากขึ้นและต้องทำให้การพลีกรรมของพวกเขาศักดิ์สิทธิ์ถ้าหากพวกเขาต้องการได้รับสวรรค์ หากพวกเขาไม่ทำเช่นนี้พวกเขาจะไม่ได้รับรางวัลและกลับจะถูกลงโทษอย่างรุนแรงแทน แม่หวังว่าทุกคนที่ได้ฟังคำพูดของแม่แล้วจะใช้ความพยายามทุกวิถีทางเพื่อจะได้สวรรค์ ผู้ที่ยอมรับความทุกข์โดยไม่บ่นจะได้รับสิ่งที่พวกเขาวอนขอจากองค์พระบุตรของแม่และจากแม่” (11 °)
 
ความทุกข์ของวิญญาณ
 
“จงสวดภาวนามากๆเพื่อผู้ที่มีวิญญาณที่เจ็บป่วย พระเยซูองค์พระบุตรของแม่ทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อช่วยพวกเขา หลายคนไม่เข้าใจคำพูดของแม่ นี่คือเหตุผลที่แม่ต้องเป็นทุกข์อย่างมาก” (11 °)

7) สันติภาพ
 
“ถ้าประชาชนสำนึกผิดกลับใจ ในไม่ช้าสงครามจะยุติลงภายในสองเดือน มิฉะนั้นมันจะดำเนินต่อไปอีกสองปี” (3 °)
 
“จงสวดภาวนาเพื่อองค์สันตบิดรผู้บริสุทธิ์ผู้ทรงดำรงชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก พระองค์ทรงถูกกระทำจากคนจำนวนมาก และมีหลายคนที่ปองร้ายพยายามเอาชีวิตของพระองค์ แม่จะปกป้องพระองค์ และพระองค์จะไม่ละทิ้งวาติกัน สันติภาพกำลังจะมาในไม่ช้า แต่แม่วิตกกังวลสำหรับสันติภาพของโลกที่ซึ่งทุกคนรักซึ่งกันและกันเหมือนพี่น้อง ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่พระสันตะปาปาจะได้รับความทุกข์น้อยลง” (10 °)
 
8) อย่าทำบาปหนัก
 
“มารดาหลายคนทำให้เด็ก ๆ อ่อนแอเพราะการกระทำบาปหนักของพวกเขา อย่าให้พวกเขาทำบาปหนักอีกต่อไปแล้วลูก ๆ ของพวกเขาจะได้รับการรักษา” (4 °)
 
“จงสวดภาวนาเพื่อคนบาปน่าสงสารที่ดื้อรั้นที่กำลังจะตายในเวลานี้ พวกเขาเป็นผู้ทิ่มแทงหัวใจของแม่” (6 °)
 
”ไม่หรอก ไม่จำเป็นที่ทุกคนต้องมาที่นี่ ผู้ที่สามารถมาได้อาจมาที่นี่และพวกเขาจะได้รับการรักษาหรือยังคงเจ็บป่วยขึ้นอยู่กับการพลีกรรมของพวกเขา แต่พวกเขาจะต้องไม่ทำบาปหนักอีกต่อไป” (7 °)
 
“จงสวดภาวนาเพื่อคนบาปที่ดื้อรั้นที่ทำให้หัวใจของแม่เป็นทุกข์ เพราะพวกเขาไม่คิดถึงเรื่องความตาย” (10 °)

โรคภัยของบรรดาลูกของพวกเขาส่วนใหญ่เกิดจากความโน้มเอียงที่ไม่ดีของพ่อแม่ (ยาเสพติด , ความประพฤติผิดทางเพศ , แอลกอฮอล์ ... ) มันเป็นผลกรรมที่น่าเศร้าและเป็นมรดกทางพฤติกรรมที่ไม่ดีเหล่านี้ หลักศีลธรรมได้ลดน้อยลงและทำให้เกิดบาปบางอย่าง (การคุมกำเนิด, การทำแท้งการหย่าร้าง, การมีเพศสัมพันธ์ก่อนสมรสและนอกสมรส) มันได้รับการอนุมัติให้กระทำได้อย่างถูกกฏหมาย และเวลานี้ความเคารพต่อชีวิตได้หมดไปถูกเปลี่ยนให้เป็นการกระทำการุณยฆาต ที่ถูกขับเคลื่อนโดยตรรกะอันต่ำช้าที่ไร้ความปราณีของสังคมที่แห้งแล้งจิตใจ แม่พระทรงเตือนเราเรื่องนี้และให้คำแนะนำแก่เราล่วงหน้า!
 
9) การกลับใจ
 
“ …หลายคนจะกลับใจและแม่จะได้รับการยอมรับจากพระศาสนจักร” (7 °)
 
10) ชัยชนะ
 
“ …และแม่จะได้รับการยอมรับจากพระศาสนจักร” (7 °)
 
“อย่าท้อใจไปเลย แม่หวังว่าชัยชนะของแม่จะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ จงสวดภาวนาเพื่อพระสันตะปาปาและบอกพระองค์ให้กระทำอย่างรวดเร็ว เพราะแม่ปรารถนาจะกระตุ้นความเชื่อของทุกคนในสถานที่นี้” (13 °)
 
11) การกลับใจและการชดเชยแก้ไข
 
“คนที่ทำให้ลูกต้องทนทุกข์โดยเจตนาจะไม่ได้ไปสวรรค์ ถ้าหากพวกเขาไม่ชดใช้ความผิดของพวกเขาและกลับใจอย่างสุดใจ” (13 °)
 
นี่เป็นคำเตือนร้ายแรงที่แขวนอยู่เหนือทุกคนและเหนือบุคคลที่มีส่วนร่วมในการต่อต้านเด็กน้อยไร้เดียงสาอายุเพียง 7 ปีนี้ นับตั้งแต่ปี 1944 เป็นต้นมา คำตักเตือนของพระแม่มารีย์มีน้ำหนักมากที่สุดในบรรดาเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่ Ghiaie di Bonate





 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น