วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2562

ซิสเตอร์ แวนด้า - ผู้ได้รับพระพรพิเศษที่ซ่อนเร้น


by John Grondelski
“ พระสงฆ์หันเหจากเราไปหาภาพลวงตาทางโลก ... เราต้องการพระสงฆ์ที่มีหัวใจอันบริสุทธิ์ "

ซิสเตอร์ แวนด้า โบนิสเซวสก้า Sr. Wanda Boniszewska (1907-2003) เป็นแม่ชีโปแลนด์คณะ the Congregation of the Sisters of the Angels ผู้อุทิศตนเองเพื่อความศักดิ์สิทธิ์ของพระสงฆ์ เริ่มเข้าคณะในปี 1930 เธอได้รับรอยแผลศักดิ์สิทธิ์ ตั้งแต่ปี 1950-1958 เธอถูกคุมขังในค่ายโซเวียตที่อยู่บริเวณเทือกเขาอูราล จากนั้นเธอถูกส่งตัวกลับประเทศโปแลนด์ เธอเสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2003 ในเมืองKonstancin ซึ่งอยู่ชานเมืองของกรุงวอร์ซอว์
 
ผมรู้เรื่องของ Sr. Wanda ไม่นานหลังจากที่เธอเสียชีวิต ในตอนที่ผมอ่านหนังสือ Ukryta stygmatyczka (“The Hidden Stigmatic”) หนังสือของ Jan Pryszmont ผู้ล่วงลับไปแล้ว ด้วยประสบการณ์ที่จำกัดในด้านเทววิทยา และทราบมาว่าคุณพ่อ Pryszmont อาศัยอยู่ห่างจากที่ผมอยู่ในกรุงวอร์ซอว์เพียง 15 นาที ผมจึงไปเยี่ยมท่าน
 
คุณพ่อ Pryszmont เป็นผู้ฟังแก้บาปของซิสเตอร์ และคุณพ่อเป็นอาจารย์ที่สถาบันศาสนศาสตร์คาทอลิก (ปัจจุบันเป็นมหาวิทยาลัย Stefan Cardinal Wyszynski University) อยู่ในกรุงวอร์ซอว์ ซิสเตอร์Wanda Boniszewska และคุณพ่อ Pryszmont พบกันที่วิลนีอุส Vilnius  ประเทศลิทัวเนียได้รวมเข้ากับสหภาพโซเวียต และซิสเตอร์แวนด้าเป็นแม่ชีชาวโปแลนด์ส่งผลให้เธอถูกกักขัง แต่นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
 
คุณพ่อ Pryszmont ได้แสดงหนังสือไดอารี่บันทึกชีวิตฝ่ายจิตเล่มใหญ่ของซิสเตอร์ (มี 600 หน้า) ซึ่งเป็นต้นฉบับที่ท่านได้เก็บรักษาไว้ ท่านให้ผมดูภาพถ่ายบางส่วนของการได้รับรอยแผลของซิสเตอร์แวนด้า ผมสังเกตว่าคำนำในหนังสือเขียนโดย Henryk Cardinal Gulbinowicz พระอัครสังฆราชแห่งWroclaw ผู้รู้จักซิเตอร์แวนด้าตั้งแต่ยังเด็ก ผมเข้าใจว่าการตรวจสอบเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของเธอยังอยู่ในขั้นตอนแรก อาจารย์ของสามเณราลัยและ มหาวิทยาลัย และพระคาร์ดินัลกำลังนำเรื่องนี้มาพิจารณาอย่างจริงจัง ซึ่งทำให้ผมรู้สึกสนใจ
 
สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจมากที่สุดเกี่ยวกับซิสเตอร์แวนด้าคือประสบการณ์ลึกลับของเธอในการทนรับความทุกข์ ซึ่งเธอมอบถวายแด่พระเจ้าเพื่อชดเชยใช้โทษความผิดบาปของพระสงฆ์และเพื่อทำให้พระสงฆ์มีความศักดิ์สิทธิ์มากยิ่งขึ้น การช่วยเหลือพระสงฆ์เป็นพันธะและภารกิจของคณะของเธอ: คณะ the Congregation of the Angels ได้ก่อตั้งขึ้นที่วิลนีอุสในปี 1889 เพื่อช่วยเหลือพระสงฆ์สำหรับการทำงานอภิบาลในสถานที่ที่มีปัญหาอุปสรรคขัดขวางการทำงาน วิลนีอุสในศตวรรษที่สิบเก้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิรัสเซีย แต่ประสบการณ์ของซิสเตอร์แวนด้านั้นมีมิติสำหรับโลกทั้งมวล
 
โดยการชี้นำของคุณพ่อ Czeslaw Barwicki พระสงฆ์วิญญาณารักษ์ของเธอ  ซิสเตอร์แวนด้าได้เขียนในไดอารี่เมื่อวันที่ 22 เมษายน 1941 ว่าเธอยอมรับการร้องขอของพระคริสต์ ที่ขอให้เธอยอมรับความทุกข์เพื่อพระสงฆ์: “ความทุกข์มาสู่ดิฉันเพื่อชดเชยสำหรับความไม่ซื่อสัตย์ของผู้ที่ได้รับเรียกให้รับใช้พระเจ้าอย่างพิเศษ – อาทิเช่น พระสงฆ์และนักบวชชายหญิงในคณะต่างๆ - และสำหรับเรื่องอื้อฉาวที่พวกเขากระทำต่อผู้อื่น …ความทุกข์ของดิฉันเพื่อพระสงฆ์และนักบวชในคณะต่างๆนั้นเริ่มต้นจากวันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์ของปี 1934 แต่ความทุกข์ที่ได้รับนั้นยังไม่ต่อเนื่อง จนกระทั่งในปี 1935 พระผู้เป็นสุดที่รักที่สุดทรงปรารถนาให้ดิฉันได้รับความทุกข์อย่างต่อเนื่องเพื่อพระสงฆ์ ความทุกข์ทรมานนั้นเจ็บปวดมาก  แต่เป็นความเจ็บปวดฝ่ายวิญญาณมากกว่า ดิฉันได้สัมผัสกับพระมหาทรมานของพระคริสต์บนร่างกายของดิฉัน ... พระผู้เป็นสุดที่รักที่สุดทรงแสดงบุคคลเหล่านั้นที่ต้องการความช่วยเหลือต่อหน้าสายตาแห่งวิญญาณของดิฉัน ทำให้ดิฉันเข้าใจสถานะวิญญาณของพวกเขาและสิ่งที่ทำให้พระองค์ไม่พอพระทัยมากที่สุดในพวกเขา…”
 
ซิสเตอร์แวนด้าบันทึกสิ่งที่เธอเข้าใจซึ่งเป็นการเปิดเผยที่ลึกลับต่อเธอ หลายเรื่องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพระสงฆ์และสิ่งที่พระคริสต์ทรงประสงค์จากพระสงฆ์ ต่อไปนี้คือบางส่วนซึ่งแปลเป็นครั้งแรกโดยผมเอง:
 
“ลูกไม่ได้ให้อะไรแก่เราเลย ลูกเป็นสมบัติของเรา จงดำรงชีวิตในเรา ลูกไม่มีสิทธิ์ดำเนินชีวิตบนโลกใบนี้ กางเขนที่ต่อเนื่องและศีลมหาสนิทนั่นคือชีวิตของลูก …ในพิธีมิสซาอันศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่ลูก แต่เป็นเรา ลูกเป็นผู้ช่วยแห่งพระหรรษทาน อย่าดูหมิ่นเราด้วยการทำบาป อย่าทำให้พระแท่นบูชาของเราเป็นมลทิน เพราะเราอยู่ในลูก เรามีสิทธิ์ในลูก ลูกไม่เห็นเรา แต่ลูกรู้สึกได้ถึงการปรากฏอยู่ของเรา การกระทำทุกอย่างที่ลูกทำมาจากกางเขนแห่งศีลมหาสนิท เราเลือกที่ประทับซึ่งไม่ได้อยู่บนกางเขนหรืออยู่ที่พระแท่นบูชาหรืออยู่ในท่ามกลางนิกรเทวดา แต่เราเลือกที่จะอยู่ในลูก”
 
“เราต้องการความรักของลูก เราต้องการความดีพร้อมสมบูรณ์แบบที่สุดจากคณะสงฆ์และลูกเป็นน้ำแข็ง”
 
“เราต้องการความรักของลูก เราต้องการการมอบถวายทั้งหมดของลูก ความนบนอบเชื่อฟังของการมอบถวายตนเอง เหมือนที่เราได้มอบตัวเราเองบนกางเขน เราต้องการหลั่งความปรารถนาของเราบนพระสงฆ์ เราต้องการให้พวกเขามีความปรารถนานี้ด้วยเช่นเดียวกัน”
 
“พระสงฆ์หันเหจากเราไปหาภาพลวงตาทางโลก พวกเขาฉีกทึ้งตัวเองออกจากหัวใจของเรา”
 
“เหตุใดเราจึงยังคงอยู่บนพระแท่นบูชา, เพื่อใครกันเล่า? ด้วยเสียงของใครที่ทำให้เราเสด็จมา? เราเชื่อฟังเขา   เราต้องการหัวใจของพระสงฆ์ผู้บริสุทธิ์”
 
“ทุกคนที่เรารัก เราจะส่องสว่างแก่เขา บัดนี้เราต้องการการเสียสละของพวกเขา”
 
“จงมีความเชื่อในทุกวัน, ท่านขาดความรักต่อองค์ความรัก หัวใจของท่านถูกแบ่งแยกออกเป็นคู่รักเท็จเทียม, ท่านยึดติดกับสิ่งต่างๆของโลก, เพิกเฉยต่อความยากจน, จัดการ [สิ่งของ]โดยไม่แจ้งผู้ใหญ่ให้รับทราบ, ท่านไม่มีการปฏิเสธตนเอง, ขาดความอ่อนน้อมถ่อมตน, ทำให้พระหรรษทานเสียเปล่า ... เราไม่ได้เป็นกษัตริย์แห่งหัวใจของท่าน แต่เป็นขอทาน ความรักของเราไม่อิ่ม”
 
“พระสงฆ์คือเกลือของแผ่นดินโลก พระสงฆ์คือดวงอาทิตย์แห่งวิญญาณในโลก พระสงฆ์ไม่ใช่สมบัติของตนเอง เขาเป็นของเรา. เราคนเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิ์ในตัวเขา”
 
พระสงฆ์ “ต้องจมอยู่ในความรักของเราตลอดเวลา ในการเสียสละจวบจนล่มสลาย เขาจะต้องตายต่อตัวเองอย่างต่อเนื่อง เหมือนที่เราตายเพื่อวิญญาณ เพื่อเปิดสวรรค์ให้แก่พวกเขา เขาต้องมีความเชื่อที่แข็งแกร่งและไม่หวั่นไหว, ทนต่อพายุ, ด้วยความไว้วางใจและความเข้มแข็งบนกางเขน พระสงฆ์ควรเป็นตามความคิดและความปรารถนาของเรา”
 
“เราต้องการกำจัดวัชพืชเหล่านั้นออกจากใจของพระสงฆ์; มิฉะนั้น, เราจะไม่สามารถเป็นคนสวนได้ เราจะไม่สามารถหว่านคุณธรรมได้ เราไม่สามารถ ... เก็บเกี่ยวได้ ... พระสงฆ์เป็นสมบัติของพระเจ้า เขาจะนำผู้คนนับพันให้เดินตามหลังเขา มิฉะนั้นนักบุญเปโตรจะไม่ยอมให้เขาเข้าสู่สวรรค์”
 
และแม่พระทรงเข้ามาร่วมด้วย: “แม่ได้มอบองค์พระบุตรของพระเจ้าให้กับโลก แม่นำคำพูดดูหมิ่นทั้งหมดที่โลกมอบให้พระองค์มาไว้ในวิญญาณที่ทุกข์ทรมานของแม่ วันนี้พระสังฆราชแต่ละคนและพระสงฆ์แต่ละคนเป็นบุตรของแม่ แม่รับความทุกข์ทรมานจากพวกเขาเป็นสองเท่า”
 
ซิสเตอร์แวนด้าเข้าใจพระสงฆ์เป็นอย่างดี – เธอตระหนักถึงศักดิ์ศรีของพระสงฆ์ซึ่งมีที่มาจากการเป็นพระคริสต์บนพระแท่นบูชา alter Christus พระสงฆ์คือ “พระคริสต์อีกองค์หนึ่ง” สำหรับซิสเตอร์แวนด้าผู้ห่างไกลจากการยกย่องตนเอง พื้นฐานที่พระสงฆ์จำเป็นต้องมีคือความอ่อนน้อมถ่อมตนเพื่อเข้าใจถึงศักดิ์ศรีของกระแสเรียกของเขา Noblesse oblige.
 
ซิสเตอร์แวนด้าตระหนักดีถึงความรักอันมั่นคงของพระเจ้าที่มีต่อพระสงฆ์ของพระองค์: “จิตวิญญาณแห่งพระสงฆ์เอ๋ย อย่าคิดว่าเราจะละทิ้งลูก ความรักในศีลมหาสนิทของเรากำลังลุกไหม้  ลุกไหม้อย่างต่อเนื่อง.. เพื่อลูกเป็นพิเศษ โอ พระสงฆ์เอ๋ย บนไม้กางเขนเท่านั้นที่ลูกจะดำรงอยู่ได้ …ลูกจะดำรงอยู่ในเรา เราดีเกินกว่าที่ลูกคิด เราเป็นบิดาเหนือกว่าบิดาทั้งปวง"
 
เมื่อเราพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาว, ความสกปรกและการล่มสลายที่เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศของพระสงฆ์ได้ก่อให้เกิดขึ้นกับพระศาสนจักรในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2002 และ 2018-19 ถึงเวลาแล้วที่เราตระหนักว่าการทำร้ายศักดิ์ศรีของพระสงฆ์และการประนีประนอมของผู้มีอำนาจเรียกร้องการแทรกแซงเหนือธรรมชาติ อย่างน้อยพระสงฆ์ควรคำนึงถึงสิ่งที่ซิสเตอร์แวนด้าบันทึกไว้ ตามสาส์นของพระเยซูเจ้าเกี่ยวกับสถานะของพระสงฆ์ ถ้าหากสังคายนาวาติกันครั้งที่ 2 สอนเรา ย่อมสอนเราเกี่ยวกับการเรียกให้มาสู่ความศักดิ์สิทธิ์ การเรียกที่เรายังหละหลวมไม่ได้ทำตาม
 
ผมขอแนะนำด้วยว่าเราควรสวดบทภาวนาของซิสเตอร์แวนด้าเพื่อการชำระล้างพระศาสนจักรให้บริสุทธิ์ในประเทศของเรา เธอมีความเชื่อมโยงกับดินแดนของเรา: พ่อของเธอเคยอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ
*******************************

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น