วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2562

สง่าราศีของผู้ที่อยู่ในสวรรค์

จาก NOTEBOOKS  วันที่ 22 มีนาคม 1945
Written by Maria Valtorta
พระเยซูเจ้าตรัสว่า
 
"ซีโมน, จงมองดูท้องฟ้าเถิด ที่นั่นลูกเห็นดวงดาวมากมาย ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์ที่มีขนาดต่างๆกัน ดวงดาวทั้งหมดนี้มีชีวิตและมีความสวยงามที่มาจากพระเจ้าผู้ทรงสร้างพวกมัน และทรงให้ดวงอาทิตย์ส่องแสงแก่พวกมัน แต่ดาวทุกดวงไม่ได้สวยงามและยิ่งใหญ่เท่าเทียมกัน
 
ในสรวงสวรรค์ของเราก็เป็นเช่นนั้น ผู้ที่ได้รับการไถ่กู้ทั้งหมดจะได้รับชีวิตจากเราและได้รับสง่าราศีและความงดงามจากแสงสว่างของเรา แต่ไม่ใช่ทุกคนจะเท่าเทียมกันในความสวยงามและความยิ่งใหญ่ บางคนจะเป็นเพียงละอองดาวธรรมดา เสมือนฝุ่นดาวที่ทำให้เกิดกาลาเทีย (ทางช้างเผือก) ซึ่งดูคล้ายน้ำนม คนเหล่านี้มีจำนวนนับไม่ถ้วนที่ได้รับสง่าราศีจากพระคริสตเจ้า พวกเขาเป็นผู้ที่มีความปรารถนาในระดับที่น้อยที่สุดที่จำเป็นเพียงเพื่อมิให้ถูกสาปแช่งเท่านั้น และโดยอาศัยพระเมตตาอันไม่มีที่สิ้นสุดของพระผู้เป็นเจ้า และหลังจากอยู่ในไฟชำระเป็นเวลานาน พวกเขาก็ได้เข้าสู่สวรรค์
 
คนอื่นๆนอกเหนือจากนี้ จะสว่างสุกใสรุ่งโรจน์มากกว่า พวกเขาคือผู้ที่ให้น้ำใจของตนเป็นหนึ่งเดียวกับพระประสงค์ของเรา พวกเขาเชื่อฟังวาจาของเรา ต่อจากคนเหล่านี้ก็เป็นดาวเคราะห์ใหญ่น้อย คือผู้ที่มีน้ำใจดีทั้งหลาย และสุดท้าย โอ! ผู้ที่สว่างสุกใสมากที่สุด: คือผู้ที่มีแสงสว่างแห่งเพชรมณีที่บริสุทธิ์หรือมีความงดงามเหมือนอัญมณี ที่มีสีแตกต่างกัน: สีแดงทับทิม, สีม่วงไพลิน, สีเหลืองบุษราคัม, สีขาวไข่มุก พวกเขาคือผู้ที่เต็มเปี่ยมด้วยความรักแม้กระทั่งเมื่อถึงแก่ความตาย , พวกเขาคือผู้ที่สำนึกในความผิดเพราะความรัก, คือผู้ที่ทำงานด้วยความรัก, คือผู้ที่ปราศจากมลทินเพราะความรัก
 
และจะมีบางส่วนในคนเหล่านี้  ผู้เปรียบเหมือนดาวเคราะห์   พวกเขาจะเป็นสง่าราศีของเราในฐานะพระผู้ไถ่ พวกเขาแต่ละคนสว่างเจิดจ้าดังทับทิมหรือไพลิน, บุษราคัมและไข่มุก เพราะพวกเขาทุกคนออกมาจากความรัก พวกเขาคือวีรชนที่บรรลุถึงการให้อภัยตัวเองหลังจากผิดพลาดไปเพราะไม่เคยรู้จักความรักมาก่อน พวกเขาสำนึกในความผิด และกระจายกลิ่นหอมแห่งการชดเชยใช้โทษความผิดของตน เหมือนเช่นเอสเธอร์ที่อบร่ำร่างกายด้วยน้ำหอม ก่อนที่จะไปพบกับกษัตริย์อาหสุเอรัส พวกเขาชดเชยความผิดอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยแม้มีเวลาเพียงสั้นๆ เวลาสั้นๆที่เหลืออยู่ในชีวิตของพวกเขา เขาไม่ได้ใช้เวลานานเป็นปีเหมือนกับในการทำความผิดบาป แต่ก็ได้บรรลุถึงความบริสุทธิ์เหมือนเช่นวีรชนในการชดเชยความผิดที่อยู่ส่วนลึกที่สุดในตัวของพวกเขา นอกเหนือไปจากในจิตวิญญาณและความคิด  คือที่ซึ่งประสาทสัมผัสดำรงอยู่ ทุกคนที่กล่าวมานี้นี่แหละ ด้วยสง่าราศีที่ห้อมล้อมพวกเขา ได้ดึงดูดสายตาของผู้มีความเชื่อ, ผู้บริสุทธิ์, ผู้สำนึกผิด, มรณะสักขี, วีรชน, นักพรต, และคนบาป ในบรรดาคนแต่ละประเภทที่กล่าวมานี้ สง่าราศีของพวกเขาจะเป็นคำพูด , คำตอบ , คำเชื้อเชิญ และการรับประกัน .... "

*************************

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น