คุณพ่อบอสโกได้ให้โอวาทแก่เด็กในศูนย์ของท่านในวันฉลองนักบุญยอแซฟ (19 มี.ค. 1876) คุณพ่อ อาเธอร์ (Arthur Lenti) ได้บันทึกไว้และพิมพ์ในหนังสือ Don Bosco: History and Spirit, Volume 5
เยาวชนทั้งหลาย วันหนึ่งพระเยซูเจ้าทรงดำเนินไปบริเวณทุ่งนาของชาวซามาเรีย. ทรงมองเห็นท้องทุ่งนากว้างใหญ่เต็มไปด้วยข้าวสาลีที่กำลังออกรวง. พระองค์จึงทรงชี้ให้บรรดาอัครสาวกของพระองค์ดูข้าวสาลีนั้น. สาวกมองดูด้วยความเบิกบาน แต่แล้วพลันก็สังเกตว่าไม่มีคนงานเก็บเกี่ยวเลยสักคนเดียว. พระเยซูเจ้าทรงผินพระพักตร์มายังบรรดาอัครสาวกแลัวตรัสว่า "ข้าวที่จะเก็บเกี่ยวมีมากแต่คนงานมีน้อย"
ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา พระศาสนจักรและประชากรทุกชาติทุกภาษาได้สนองตอบเสียงเรียกร้องนี้
พวกเธอคงเข้าใจได้ว่าทุ่งนาและสวนองุ่นที่พระเยซูเจ้าตรัสนี้หมายถึงพระศาสนจักรและมนุษย์ทุกคน. การเก็บเกี่ยวที่พระเยซูเจ้าตรัสนั้นหมายถึงวิญญาณทั้งหลายที่จะต้องถูกรวบรวมนำไปไว้ในยุ้งฉางของพระเป็นเจ้า. ข้าวที่จะต้องเก็บเกี่ยวช่างมากมายจริงๆ. วิญญาณมีนับล้านๆดวงที่อยู่ในโลกนี้และมีงานมากมายมหาศาลเพื่อทำให้ทุกคนได้รับความรอด. แต่คนงานมีจำนวนเพียงน้อยนิด ไม่ใช่เฉพาะแต่พระสงฆ์เท่านั้นแต่รวมถึงคนที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือวิญญาณให้รอดด้วย. แน่นอน,พระสงฆ์มีหน้าที่ในการเก็บเกี่ยววิญญาณโดยตรง. แต่พวกท่านก็ไม่ได้ทำเพียงลำพัง อีกทั้งพระสงฆ์ก็มีไม่เพียงพอ. คนที่มาเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือวิญญาณให้ได้รับความรอดนี้เรียกว่า คนงานของการแพร่ธรรม. เช่นเดียวกับผู้เก็บเกี่ยว , คนงานที่มาช่วยผู้เก็บเกี่ยว พวกเขาก็เป็นผู้เก็บเกี่ยวด้วย.
พิจารณาดูเถอะเราต้องการคนงานมากมายหลายประเภทสักเพียงใดเพื่อมาช่วยทำงานในทุ่งนานี้. บางคนช่วยไถนา. คนอื่นๆช่วยกันเก็บก้อนหิน, พรวนดินให้ร่วน, หว่านเมล็ดข้าวและฝังกลบดิน. งานมากมายต้องถูกกระทำก่อนที่ข้าวสาลีจะงอกงามขึ้นมาพร้อมให้เก็บเกี่ยว.
เช่นเดียวกัน, พระศาสนจักรก็ต้องการคนงานมาทำงานหลายประเภทแตกต่างกัน. และพ่อหมายถึงต้องมีคนมาช่วยทำงานทุกประเภท. อาจมีบางคนคิดว่า. "ฉันเป็นคนดีก็จริง. แต่ฉันคงไม่ใช่คนงานที่ดีพอสำหรับพระเป็นเจ้าหรอก" อย่างไปคิดเช่นนี้. เพราะทุกคนสามารถเข้ามาร่วมงานของพระองค์ได้.
คนงานมีน้อย!...จะเป็นเรื่องที่น่ายินดีสักเพียงไร ถ้าหากจะมีพระสงฆ์อยู่ในทุกประเทศ,ทุกหัวเมือง, ทุกหมู่บ้าน แม้แต่หมู่บ้านเล็กๆ และมีพระสงฆ์มากเพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงโลกทั้งโลก. เพราะเหตุที่เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้. พระสงฆ์จึงต้องมีผู้คอยช่วยเหลือ. นอกจากนี้, พระสงฆ์จะใช้เวลาอย่างเต็มที่ในการแพร่ธรรมและอภิบาลสัตบุรุษได้อย่างไร ถ้าหากท่านยังต้องมามัวซักเสื้อผ้า รองเท้าของตัวเองอยู่อีก.
พระสงฆ์ต้องมีผู้ช่วย. และพ่อเชื่อว่าคงไม่ผิดที่จะพูดว่า พวกเธอทุกคนที่อยู่ที่นี่ พระสงฆ์, นักเรียน,ช่างฝีมือ,และผู้ดูแล สามารถมาเป็นคนงานผู้แพร่ธรรมที่แท้จริงในสวนองุ่นของพระเป็นเจ้าได้.
ทำได้อย่างไรรึ? โดยหลายวิธี ยกตัวอย่าง, เธอสามารถสวดภาวนา, และสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่พระเยซูเจ้าทรงแนะนำสำหรับความศักดิ์สิทธิ์ของคนงานของพระองค์. เพราะฉะนั้นจงสวดภาวนาต่อพระอาจารย์เจ้าของเราซึ่งเป็นเจ้าของสวนองุ่นให้ทรงส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวเถิด.
จงสวดภาวนาวิงวอนต่อพระเป็นเจ้าผู้ทรงพระทัยดีและพระองค์จะทรงส่งคนงานมาให้. ดังนั้น, ขอให้เราช่วยกันสวดภาวนาเพื่อประเทศของเราและประเทศที่อยู่ไกลโพ้น. สวดเพื่อครอบครัวและเมืองของเราเอง, สวดสำหรับวิญญาณที่ยังคงอยู่ในความมืดของการบูชาเทวรูป,ทำไสยศาสตร์และอยู่ในความหลงผิด.
ให้เราสวดภาวนาด้วยสิ้นสุดจิตใจและสุดกำลังต่อพระเป็นเจ้า
สิ่งอื่นๆที่เราสามารถทำได้อีกซึ่งมีอานุภาพและประสิทธิภาพมาก คือ การเป็นตัวอย่างที่ดี. เราจะทำสิ่งนี้ได้อย่างไร การเป็นตัวอย่างที่ดี. ด้วยคำพูด,เราจงให้กำลังใจคนอื่นให้ทำในสิงที่ดีและถูกต้อง ให้คำแนะนำที่ดีแก่เขา. อาจมีบางคนที่สงสัยในกระแสเรียกของตนเอง บางคนอาจตัดสินใจทำในสิ่งที่ผิดพลาด. คำแนะนำที่ดีและการให้กำลังใจสามารถช่วยในเรื่องนี้ได้. บ่อยครั้งคำพูดดีๆไม่กี่คำสามารถช่วยให้คนๆนั้นเห็นความแตกต่างระหว่างทางเลือกที่ถูกต้องกับทางเลือกที่ผิดได้.
นักบุญเปาโลได้แนะนำคริสตชนให้เป็น "ตะเกียงที่มีเปลวไฟส่องสว่างอยู่เสมอ". โอ,นั่นคือแสงสว่างซึ่งอยู่ในตัวของเรานั่นเอง และทุกคนจะได้รับการกระตุ้นเตือนด้วยคำพูดและการกระทำของเรา. ถ้าเพียงแต่เรามีความรักอันร้อนแรงที่จะทำให้เราปรารถนาจะช่วยเหลือผู้อื่น. ถ้าเพียงแต่เรามีจิตเมตตาอย่างแท้จริงซึ่งจะกำจัดความชั่วร้ายทุกชนิด และทำให้เรามีความสุภาพอ่อนหวานจนชนะหัวใจของทุกคนได้. และนี่คือสิ่งที่พ่อแน่ใจว่า เราจะสามารถทำให้โลกทั้งโลกมาติดในอวนของเราได้.
ด้วยวิธีนี้และวิธีอื่นๆอีกมากมายที่กำลังเปิดกว้างสำหรับคนงานทุกคนที่ทำงานในสวนองุ่นของพระเป็นเจ้า. ไม่ว่าเขาจะเป็นพระสงฆ์, นักบวชหรือ คนธรรมดา. ไม่ว่าจะมีอายุหรือตำแหน่งอะไร. ทุกๆคนสามารถเข้ามาร่วมทำงานเก็บเกี่ยวตามที่พระวรสารกล่าวไว้. นานตราบเท่าที่ความกระตือรือร้นของเขาที่จะทำงานเพื่อพระเกียรติของพระเป็นเจ้าและเพื่อการช่วยวิญญาณให้รอด.
ลูกที่รัก, เสียงร้องเรียกที่ว่า "คนงานมีน้อย" ไม่ใช่เป็นแต่เพียงเสียงร้องในอดีต. แต่มันยังเป็นเสียงเรียกแกมบังคับต่อเรามากยิ่งขึ้นในยุคสมัยของเรานี้. งานการเก็บเกี่ยวที่ถูกมอบหมายมาให้แก่คณะของเรานั้นเติบโตใหญ่ขึ้นทุกวันจนกระทั่งพ่อเองก็บอกไม่ได้ว่า จะต้องเริ่มต้นอย่างไรหรือต้องทำงานนี้อย่างไร. นี่คือสาเหตุที่พ่ออยากเห็นพวกเธอทุกคนให้เริ่มทำงานอย่างหนักและเร่งด่วนในสวนองุ่นของพระเป็นเจ้านี้.
มีเสียงเรียกร้องจำนวนมากให้เราไปเปิดโรงเรียน,บ้านพักและศูนย์เยาวชนในแต่ละภาคของอิตาลี, ฝรั่งเศสและประเทศอื่นๆ อย่างเช่น ยิบบอลตาร์, อัลจีเรีย, อียิปต์, อาราเบีย, อินเดีย, จีน, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, อาร์เจนตินา, ปารากวัย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในอเมริกาใต้. ทุกๆแห่งยังขาดแคลนคนงานจำนวนมากที่จะไปทำงานการแพร่ธรรม และพวกเธอต้องตกใจเมื่อพิจารณาว่ายังมีความดีอีกมากมายเท่าไรที่ยังไม่ได้ทำเนื่องจากการขาดแคลนมิสชันนารี. มีข่าวที่สะเทือนใจส่งมาถึงเราจากคุณพ่อคากลิเอโร. ในอาร์เจนตินา. พระสงฆ์จะไม่ถามผู้ที่มาสารภาพบาปว่า "ลูกไม่ได้สารภาพบาปมานานเท่าไรแล้ว?" แต่จะถามว่า "ลูกเคยมาสารภาพบาปหรือเปล่า?" และบุรุษหรือสตรีที่มีอายุราวสามสิบ ถึง สี่สิบปี มักจะตอบว่า พวกเขาไม่เคยไปสารภาพบาปเลย. สาเหตุไม่ใช่เป็นเพราะเขาไม่พอใจโบสถ์ แต่เป็นเพราะพวกเขาไม่มีโอกาสพบพระสงฆ์. ดังนั้นพวกเธอก็คงจินตนาการได้ว่าจะมีคนมากมายเพียงไรที่อยู่ในอันตรายของวิญญาณ. และจำเป็นที่จะต้องมีพระสงฆ์ฟังการสารภาพบาปของพวกเขา
พ่อไม่ได้ต้องการที่จะบังคับให้เธอออกเดินทางไปยังดินแดนอันห่างไกล. บางคนอาจทำได้. แต่ไม่ใช่ทุกคน ซึ่งก็มีเหตุผล. ประการแรก, เราเองก็มีความจำเป็นเร่งด่วนที่นี่เหมือนกัน. อีกอย่าง,ไม่ใช่ทุกคนที่ถูกเรียกให้มาอยู่ในคณะซาเลเซียนจะเดินทางไปในที่ไกลๆได้. แต่ในภาพรวมที่ขณะนี้กำลังขาดแคลนและต้องการคนงานในการแพร่ธรรม. เราจะอยู่นิ่งเฉยได้อย่างไร? จงตระหนักในใจว่าพวกเธอสามารถทำงานในสวนองุ่นของพระเป็นเจ้าด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งก็ได้. แล้วเธอจะซ่อนความปรารถนาของหัวใจนี้ได้อย่างไรเล่า? ใช่แล้ว พ่อหวังจริงๆที่จะเห็นเธอทุกคนมีความกระหายที่จะทำงานเหมือนดังอัครสาวกทั้งหลาย. นี่เป็นจุดประสงค์ในโอวาทของพ่อ นั่นคือการใส่ใจและความพยายาม. นี่เป็นเหตุผลสำหรับการให้การศึกษาของเรา และสำหรับโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่เรามอบให้แก่พวกเธอที่จะเป็นนักบวช และสำหรับการศึกษาพิเศษอื่นๆที่จะตามมา.
เธอจะอยู่นิ่งเฉยได้อย่างไรในเมื่อได้รู้ถึงความจำเป็นเร่งด่วนนี้แล้ว? เธอจะทำเป็นหูหนวกต่อเสียงเรียกร้องที่มีมาถึงเราจากทุกๆด้านได้หรือ? พ่อรู้สึกว่าเป็นพระเป็นเจ้าเองที่ทรงตรัสผ่านทางคนเหล่านั้น. เธอจะนิ่งเฉยไม่พยายามที่จะเพิ่มจำนวนมิสชันนารีเลยหรือ? ในเมื่อพระเป็นเจ้าทรงเผยแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าพระองค์ประสงค์ความสำเร็จในเรื่องนี้โดยผ่านทางคณะของเรา.
ขอให้มีความรักอันแข็งแกร่งฉันท์พี่น้องอยู่ในท่ามกลางพวกเรา. เพื่อที่ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในพระศาสนจักรก็จะเกิดขึ้นในคณะของเราด้วย. นอกจากอัครสาวก 12 คนแล้ว พระเยซูเจ้า ยังมีสาวกอีก 72 คน, ผู้ช่วยของอัครสาวก และผู้ร่วมงานในการประกาศพระวรสารอีกหลายคน. พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างสมานฉันท์ มีความเกี่ยวพันกันด้วยความรักอันมั่นคง. พวกเขาจึงประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงโลก. ดังนั้นเราก็เช่นเดียวกัน. ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าเราจะได้รับมอบหมายให้ทำงานอะไร ขอให้เราพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยเหลือวิญญาณให้รอด และเหนือสิ่งอื่นใด สำหรับวิญญาณของเราเองด้วย. จงทำดังนี้ก็เป็นสิ่งที่เพียงพอแล้ว.
วันที่ 1 เมษายน 2019 เป็นวันครบรอบ 85 ปีของการสถาปนาคุณพ่อบอสโก เป็นนักบุญ...คุณพ่อบอสโกมีความรักต่อเยาวชนเป็นพิเศษ ท่านได้ก่อตั้งคณะซาเลเซียนและคณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ขึ้น และสร้างโรงเรียนเพื่อดูแล สั่งสอนอบรมเยาวชนชายหญิงให้เป็นคนดี
********************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น