วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2562

รัสเซียออร์โธดอกซ์ประท้วงแอนตี้ไครส์ระบบดิจิทัล


มีการประท้วงในเมือง โวโรเนส,มอสโคว์ เพื่อต่อต้านการนำเลขรหัสส่วนบุคคล personalized PIN มาใช้ควบคุมอัตลักษณ์ของประชาชนแต่ละคน พระอัยกาคิริลล์ขอให้รัฐบาลเคารพผู้ที่ปฏิเสธเอกสารอิเล็กทรอนิกส์

Moscow (AsiaNews) - ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2019 ชาวรัสเซียจะได้ใช้หมายเลข PIN แทนการใช้บัตรเงินบำนาญ ในการเข้าถึงบริการอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ผู้ศรัทธาในคริสตจักรออร์โธดอกซ์ส่วนหนึ่งได้ต่อต้านการใช้มาตรการนี้ ซึ่งในความเห็นของพวกเขาถือว่าสิ่งนี้เป็นการแสดงออกถึงการใกล้เข้ามาของยุคที่กล่าวไว้ในพระธรรมวิวรณ์
 
กฎหมายใหม่นำเอาข้อบังคับใหม่สำหรับการใช้บริการของรัฐ ซึ่งจะมีเลขรหัสส่วนบุคคล PIN เพื่อเข้าถึงการบริการสาธารณะ อันเป็นส่วนหนึ่งของ "การปฏิวัติทางดิจิทัล" ที่ประกาศโดยปูตินหลังจากการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว ในวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีปีที่สี่ของเขา นี่เป็นกระบวนการทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น ผู้สังเกตการณ์ชาวออร์โธดอกซ์ เคยต่อต้านการใช้ "ตัวเลขซาตาน" อย่างเช่น รหัสภาษี tax code
 
นาย Valentina Pashenko ประธาน "คณะกรรมการในการปกป้องครอบครัวและศีลธรรม" ในเมือง Voronezh ไม่ยอมใช้บัตรเครดิต เขาประณามการใช้ลายนิ้วมือไบโอเมตริกซ์เพื่อเข้าไปในธนาคารและอาคารรัฐบาลและปฏิเสธการใช้ข้อความอิเล็กทรอนิกส์
 
เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาได้มีการจัดการประชุมในเมืองเพื่อต่อต้านกฎหมาย PIN ฉบับใหม่ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับบัตรประจำตัวประชาชน มีผู้เข้าร่วมประมาณ 500 คน นาย Valentina กล่าวกับ BBC ว่า “เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดถูกเก็บไว้ในระบบเดียว คนที่มีจิตใจชั่วช้าจะสามารถแยกคนที่ไม่ต้องการออกจากระบบได้"
 
"อันดับแรกก็คือเงินบำนาญ ต่อไปก็จะเป็นข้อมูลอื่นๆทั้งหมดที่เกี่ยวกับบุคคล ทรัพย์สิน สิทธิทางสังคม ข้อมูลเกี่ยวกับครอบครัวและเด็กๆ โรงเรียนและข้อมูลทางการแพทย์, เงินเดือน เป็นต้น ชีวิตทั้งหมดของบุคคลจะถูกใส่ลงในหมายเลขอิเล็กทรอนิกส์"
 
นาย Valentina พูดว่า "มันเป็นเหมือนเครื่องหมายของค่ายสตาลินที่ซึ่งปู่ย่าตายายของเราถูกส่งไป" การประท้วงอื่นๆ ถูกจัดขึ้นในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและมอสโก ใน Lipetsk มีการชุมนุมสวดภาวนาของนักเคลื่อนไหวออร์โธดอกซ์
 
หัวหน้าของกลุ่ม "ต่อต้านผู้ปกครอง" คือนาย นิโคลาจ มิซูสติน Nikolaj Mishustin เขาเป็นตัวแทนผลประโยชน์ของผู้ศรัทธาที่ปฏิเสธหมายเลขประจำตัวอิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท ประชาชน 40,000 คนในเมืองต่างๆของรัสเซีย ได้ลงชื่ออุทธรณ์ต่อกฎหมาย เขากล่าวว่า "ทุกวันนี้ประชาชนทุกคนก็ยังสามารถเข้าถึงบริการด้านต่างๆได้ด้วยวิธีแบบดั้งเดิม"
 
Mishutin ตั้งข้อสังเกตว่า "กฎหมายฉบับนี้บังคับใช้แบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ผ่าน PIN โดยไม่ขอความยินยอมจากประชาชนในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล: มันเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลตามรัฐธรรมนูญ"
 
ผู้เข้าร่วมในการประท้วงที่ Voronezh ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อพระอัยกาคิริลล์ แห่งกรุงมอสโก (Gundjaev) เพื่อขออนุญาตจัดการเดินขบวนต่อต้านกฎหมายใหม่ และประณาม "นักลอบบี้lobbyists ที่มีความคิดต่อต้านคริสตชนอย่างชัดเจน
 
"ความขัดแย้งของออร์โธดอกซ์ต่อระบบดิจิทัลนั้น มีพื้นฐานมาจากข้อเขียนของนักบุญยอห์นในพระธรรมวิวรณ์เกี่ยวกับ "หมายเลขของสัตว์ร้าย ": มันบังคับให้ทุกคนทั้งผู้น้อยและผู้ใหญ่, คนร่ำรวยและคนยากจน, อิสระชนและทาส ต้องประทับหมายเลขของมันไว้บนมือขวาหรือบนหน้าผากของพวกเขา เพื่อที่จะไม่มีใครสามารถซื้อหรือขายได้ยกเว้นผู้ที่ประทับชื่อของสัตว์ร้ายหรือหมายเลขที่ใช้แทนชื่อของมัน (วว 13,16-18)
 
ในความเห็นของพวกเขาการใช้ PIN เป็นสัญญาณที่ชัดเจนของการถือกำเนิดของแอนตี้ไครส์ (ผู้ต่อต้านพระคริสต์) บางคนบอกว่า หมายเลขคำสาปนั้นไม่ใช่เฉพาะแต่เพียงเลขรหัสเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทุกหน้าของหนังสือเดินทางและเอกสารอื่นๆที่ออกโดยรัฐด้วย
 
คริสตจักรออร์โธดอกซ์ตระหนักดีถึงความกังวลเหล่านี้ที่ได้รับการเผยแพร่ในหมู่ผู้ศรัทธาเป็นเวลาหลายปี อเล็กซานเดอร์ วอลคอฟ โฆษกของพระอัยกาได้อธิบายต่อบีบีซีว่า: "ในคริสตจักรมีเอกสารที่แสดงให้เห็นว่าเราควรประพฤติตนอย่างไรเมื่อเผชิญกับความริเริ่มประเภทนี้และเราเก็บจดหมายจำนวนมากจากผู้มีความเชื่อเหล่านั้น แต่ต่อกฎหมายฉบับนี้ เรายังไม่มีการคัดค้านอย่างจริงจัง".
 
ในปี 2013 สภาพระอัยกาแห่งรัสเซียประกาศว่าไม่เห็นด้วยกับการนำมาใช้ของ "รูปแบบใดๆที่มีการบีบบังคับประชาชนให้ยอมรับเกี่ยวกับการใช้เลขรหัสระบุตัวตนอิเล็กทรอนิกส์"
 
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา, พระอัยกาคิริลล์ได้พูดที่ Duma ได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐพิจารณาความต้องการของประชาชนในการปฏิเสธเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ "ความก้าวหน้าร่วมสมัยมีอันตรายอยู่ด้วย อันดับแรกและสำคัญที่สุดก็คือต่อเสรีภาพของประชาชน" ท่านเตือนว่า "เสรีภาพที่แท้จริงไม่ยอมให้มีการควบคุมชีวิตของบุคคลทั่วทั้งโลก นี่จะเป็นการทำลายมวลมนุษยชาติตามที่พระธรรมวิวรณ์พูดถึง เมื่อเราพูดถึงการมาถึงของแอนตี้ไครส์ เราก็เข้าใจได้อย่างแน่นอนว่าระบบการควบคุมโลกนี้เกิดขึ้นโดยศูนย์กลางแห่งพลังอำนาจเดียวหรือโดยบุคคลเพียงคนเดียว"
 
นาย Jaroslav Nilov ประธานคณะกรรมการรัฐสภาสำหรับนโยบายทางสังคม กล่าวว่าคำอุทธรณ์และคำวิพากษ์วิจารณ์กฏหมายใหม่จำนวนมากนี้มาจากผู้ศรัทธาทั้งหลาย และเจ้าหน้าที่พยายามที่จะพบกับพวกเขา: "เราขอย้ำเตือนว่าสถานภาพอย่างเป็นทางการของคริสตจักรคืออะไร ไม่ว่าจะกระทำการใดๆ โปรดกระทำด้วยความสุขุมรอบคอบ แต่ไม่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน"
 
กลุ่มของ "ผู้ต่อต้านกฏหมายอิเล็กทรอนิค" ไม่ได้เป็นตัวแทนของประชาชนส่วนใหญ่และไม่ใช่แม้แต่เป็นผู้ที่ศรัทธาในนิกายออร์โธดอกซ์ แต่พวกเขามีอิทธิพลมากในการสนับสนุนบางคนที่มีบทบาทในเรื่องนี้ มีคนฟังพวกเขายิ่งกว่าพระอัยกาหรือประธานาธิบดีเสียอีก เป็นความรู้สึกคล้ายๆกับในสมัยของกษัตริย์ซาร์ ที่มีการสำรวจสำมะโนครัวและการระบุตัวตนประชากรครั้งแรก และเหมือนกับในการเริ่มใช้ "หนังสือเดินทางภายใน" ที่มีการฉีกหนังสือและถูกเผาโดยผู้ศรัทธาทั้งหลาย
 

**********************

มีเรื่องน่าคิดเกี่ยวกับตัวเลขของแอนตี้ไครส์ หมายเลข 666 เพราะสมัยนี้เป็นยุคของดิจิตัล (ดิจิตัล = ตัวเลข) อุปกรณ์หลายอย่างเป็นระบบดิจิตัล โทรศัพท์มือถือเป็นระบบดิจิตัล โทรทัศน์ก็เป็นระบบดิจิตัล คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค และอีกหลายอย่าง ล้วนใช้ระบบดิจิตัล เมื่อเราใช้โทรศัพท์มือถือ เราถือโทรศัพท์ไว้บนฝ่ามือของเรา เมื่อเราดูโทรทัศน์เราใช้สายตาและสมอง สิ่งนี้จะตรงกับที่พระธรรมวิวรณ์กล่าวไว้หรือไม่ (วว. 13 : 16) “สัตว์ร้ายตัวที่สองบังคับทุกคน ทั้งผู้น้อยและผู้ใหญ่ ทั้งคนมั่งมีและคนยากจน ทั้งคนอิสระและทาส ให้ประทับตราไว้ที่มือขวาหรือที่หน้าผาก ไม่มีใครซื้อขายได้ ถ้าไม่มีตราคือนามของสัตว์ร้ายหรือจำนวนเลขของนามนั้น...มันเป็นจำนวนเลขหมายถึงมนุษย์คนหนึ่ง จำนวนเลขนั้นคือ หกร้อยหกสิบหก”
 
ดังนั้นเมื่อเราใช้โทรศัพท์หรือดูโทรทัศน์ เราก็เหมือนกับมีตัวเลขดิจิตัลประทับอยู่ที่มือขวาหรือที่หน้าผาก และปัจจุบันนี้มีการซื้อขายสินค้ามากมายทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งเราต้องใช้โทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ในการสั่งซื้อ สิ่งเหล่านี้ตรงกับที่กล่าวไว้ในพระธรรมวิวรณ์  และนี่เป็นสิ่งบ่งบอกว่า ยุคนี้คือยุคของแอนตี้ไครส์ที่เป็นดิจิตัลใช่หรือไม่? เป็นเรื่องที่น่าคิด อินเตอร์เน็ตมีทั้งประโยชน์และโทษในเวลาเดียวกัน เวปไซต์ที่ไม่ดีก็มีจำนวนมาก หรือเกมส์ที่ทำให้คนเล่นติด หรือวีดีโอต่างๆ เป็นต้น 
 
มีอิกเรื่องหนึ่งน่าคิดเช่นเดียวกัน เกี่ยวกับวันสิ้นพิภพหรือวันสิ้นโลก คำว่าโลกนี้อาจไม่ได้หมายถึงดาวเคราะห์โลกตามที่พวกเราส่วนใหญ่คิด เพราะมีตัวอย่างในเรื่องนี้ เช่นการที่พระเจ้าทรงเลือกชนชาติยิวให้เป็นชนชาติที่พระผู้ไถ่ทรงมาบังเกิดเพื่อการไถ่กู้โลก พระเจ้าทรงถือว่าชนชาติยิวเป็นตัวแทนของทุกชนชาติในโลกทั้งมวล หรือในวันเปเตกอสเตที่มีกล่าวว่า "ที่กรุงเยรูซาเล็มมีชาวยิวและผู้เลื่อมใสพระเจ้ามาจากทุกชาติทั่วโลก" คงไม่หมายรวมถึงมีคนที่มาจากจีน, ญี่ปุ่น, หรือไทยด้วยเป็นแน่  ในทำนองเดียวกัน วันสิ้นโลกตามที่กล่าวไว้ในพระคัมภีร์นั้น  โลกก็อาจหมายถึงประเทศหนึ่งที่เป็นตัวแทนของทุกประเทศในโลกก็เป็นได้  ซึ่งถ้าเป็นไปตามนี้และเมื่อพิจารณาดูแล้ว ประเทศนั้นก็น่าจะเป็นประเทศสหรัฐอเมริกามากที่สุด เพราะประเทศนี้เป็นที่รวมของประชาชนที่มาจากทั่วทุกมุมโลก  สหรัฐอเมริกาในทุกกวันนี้กำลังเสื่อมถอยลงทางด้านศรัทธาความเชื่อในพระเยซูเจ้า ศีลธรรมเสื่อมโทรมลงทุกที มีการทำแท้งอย่างถูกกฏหมาย สังคมเน่าเฟะมีกลุ่มเกย์ที่ประกาศตนเองว่าเป็นเกย์ เกิดกลุ่มลัทธิศาสนาเท็จเทียมต่างๆ จนถึงลัทธิซาตานที่ก่อตั้งอย่างเปิดเผย แม้แต่ในพระสงฆ์เองก็มีข่าวอื้อฉาวดังที่เป็นข่าวอยู่ในเวลานี้ อนึ่ง การคิดค้นระบบดิจิตัล โทรศัพท์มือถือ โทรทัศน์ดิจิตัล คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค อินเตอร์เน็ต ฯลฯ ล้วนมีจุดเริ่มต้นที่สหรัฐอเมริกา
 
ดังนั้นวันสิ้นโลก ก็อาจหมายถึงวันที่สหรัฐอเมริกาจะถูกทำลายจนไม่เหลือก็เป็นได้ และความเป็นไปได้นั้นก็มีอยู่ ด้วยระเบิดนิวเคลียร์เพียงไม่กี่ลูกก็สามารถทำลายอเมริกาทั้งประเทศได้จนไม่มีคนรอดชีวิตเหลืออยู่เลย เหตุการณ์นี้มีเพื่อเป็นเป็นตัวอย่างวันสิ้นโลก เป็นการเตือนล่วงหน้า เพื่อให้มนุษย์รับรู้ก่อนถึงวันสิ้นโลกที่แท้จริงเท่านั้น ส่วนวันสิ้นโลกที่แท้จริงซึ่งกล่าวถึงในพระคัมภีร์ คือวันที่โลกจะสูญหายไปนั้นยังคงมีอยู่  และนั่นคือวันที่พระเยซูคริสตเจ้าจะเสด็จมาในโลกครั้งที่สองอย่างสง่ารุ่งเรืองในพระสิริรุ่งโรจน์พร้อมด้วยเหล่าทูตสวรรค์  มนุษย์ที่ตายไปแล้วจะกลับฟื้นขึ้นมารวมกับผู้ที่มีชีวิตอยู่ และพระเยซูเจ้าจะทรงพิพากษาครั้งสุดท้าย

*********************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น