วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

การเปิดเผยของพระเยซูเจ้าต่อนักบุญบริจิตแหงสวีเดน

 
 
เล่มที่ 1
บทที่ 1
 
เราคือผู้สร้างสวรรค์และแผ่นดิน เราเป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดาและพระจิต เราคือผู้ที่ตรัสกับผู้วินิจฉัยและบรรดาประกาศก และเป็นผู้ที่พวกเขาตั้งตารอคอย เพื่อเห็นแก่ความปรารถนาของพวกเขา และเห็นแก่พันธสัญญาของเรา เราจึงมารับเนื้อหนังเป็นมนุษย์โดยไม่มีบาปหรือกิเลสใดๆ เราได้เข้าสู่พระครรภ์ของพระนางพรหมจารีย์ ประดุจดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงผ่านเข้าไปในอัญมณีอันสุกใส ดวงอาทิตย์มิได้ทำลายความสดใสของแก้วขณะที่ส่องแสงผ่านเข้าไปฉันใด พรหมจรรย์ของพระนางพรหมจารีย์ก็มิได้เสียหายไปขณะที่เรารับเอามนุษยภาพจากพระนางฉันนั้น เรารับสภาพมนุษย์โดยที่พระอานุภาพของเรามิได้ลดลง และความเป็นพระเจ้าของเราก็มิได้สูญสิ้นไป เรายังคงอยู่กับพระบิดาและพระจิต ในการควบคุมดูแลสรรพสิ่ง ถึงแม้เราจะอยู่ในพระครรภ์ของพระนางพรหมจารีย์ด้วยสภาวะมนุษย์ของเรา
 
เฉกเช่นความสว่างมิอาจแยกจากไฟ พระอานุภาพของเราก็มิอาจแยกจากมนุษยภาพของเราเช่นเดียวกัน แม้ว่าเราจะได้รับความตาย หลังจากที่เรายอมให้ร่างกายอันบริสุทธิ์และปราศจากบาปของเราถูกทรมานเต็มไปด้วยบาดแผลตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า และยอมถูกตรึงกางเขนเพื่อชดเชยบาปทุกประการของมนุษยชาติ ร่างกายเดียวกันนี้ยังได้ถูกถวายทุกวันบนพระแท่นด้วย เพื่อที่มนุษย์อาจรักเรามากขึ้นและจดจำกิจการอันยิ่งใหญ่ของเราบ่อยมากขึ้น แต่เวลานี้เรากลับถูกลืม ถูกละทิ้ง ถูกเหยียดหยาม และถูกขับไล่ เหมือนพระมหากษัตริย์ถูกขับไล่จากอาณาจักรของพระองค์เอง ส่วนอาณาจักรนั้นถูกโจรที่ชั่วร้ายที่สุดเข้ายึดครองและพวกมันได้รับการแต่งตั้ง ได้รับการยกย่อง
 
อันที่จริง เราต้องการให้อาณาจักรของเราดำรงอยู่ในจิตใจของมนุษย์ และเป็นสิทธิ์ของเราที่สมควรเป็นกษัตริย์และเจ้านายของพวกเขา เพราะเราเป็นผู้สร้างพวกเขาและได้ไถ่กู้พวกเขามา อย่างไรก็ตาม เวลานี้พวกเขาได้ฉีกกฎบัญญัติแห่งความรักของเรา ซึ่งเราได้ประทานให้แก่เขา เขารักตัวของเขาเองมากกว่า และปฏิเสธที่จะฟังเรา ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเชิดชูโจรผู้ร้าย ขึ้นเหนือเราและเชื่อฟังพวกมันแทน ปีศาจ คือโจรผู้ร้ายที่แท้จริง เพราะมันขโมยมนุษย์ก็เพื่อตัวของมันเอง ด้วยการประจญล่อลวงมนุษย์ ให้คำแนะนำที่เลวทราม และให้คำสัญญาอันหลอกลวง มันขโมยจิตวิญญาณของมนุษย์ซึ่งเราได้ไถ่กู้มาด้วยโลหิตของเรา ปีศาจทำสิ่งนี้ไม่ใช่เพราะมันมีอำนาจมากกว่าเรา เพราะเราเป็นผู้ทรงฤทธานุภาพ เราสามารถทำทุกสิ่งได้ด้วยพระวาจาของเรา และด้วยความเที่ยงธรรม เราจะไม่ทำสิ่งที่ผิดต่อความเที่ยงธรรมเลย แม้แต่เล็กน้อยที่สุด ถึงแม้ว่าบรรดานักบุญทั้งหมดรวมกันมาวิงวอนต่อเรา
 
แต่เนื่องจากมนุษย์ผู้ซึ่งเราให้จิตใจอิสระที่จะเลือกแก่เขา ได้ปฏิเสธบทบัญญัติแห่งความรักของเรา และไปเชื่อฟังปีศาจ จึงเป็นการสมควรที่พวกเขาต้องได้รับประสบการณ์ความโหดร้ายและการกดขี่ของพวกเขาเอง ปีศาจเหล่านั้นเดิมถูกสร้างให้เป็นเทวดาที่ดีโดยเราเอง แต่พวกมันตกต่ำลงเพราะจิตใจที่ชั่วร้ายของมัน ดังนั้นพวกมันจึงได้กลายเป็นผู้รับใช้ของเรา - หากจะกล่าวเช่นนั้น - สำหรับลงโทษผู้กระทำการอันชั่วช้าเลวทราม
 
ถึงแม้เราจะได้รับการดูหมิ่นเหยียดหยามมากมายก็ตาม เรายังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตา ไม่ว่าใครก็ตามที่สวดภาวนาวอนขอพระเมตตาต่อเรา และเมื่อเขาถ่อมตนลงสำนึกผิดกลับใจ เราจะอภัยบาปของเขา และจะช่วยเขาให้รอดพ้นจากเจ้าโจรที่ชั่วร้าย นั่นคือเจ้าปีศาจ แต่ใครก็ตามที่ยังคงดูหมิ่นเรา เราจะมาหาเขาด้วยพระยุติธรรมที่จะอยู่เหนือเขา ผู้ที่ได้ยินคำกล่าวนี้จะสั่นสะท้าน และผู้ที่รับรู้ได้จะกล่าวว่า "วิบัติแก่เราที่ได้เกิดมา วิบัติแก่เราที่ยั่วยุพระพิโรธของพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ"
 
สำหรับลูก ผู้ที่เราเลือกสรรมาเพื่อเราเอง และทุกคนที่เรากำลังตรัสกับเขาในจิตสำนึกเวลานี้ จงรักเราด้วยหัวใจทั้งหมดของลูก ไม่เหมือนกับความรักต่อบิดามารดาหรือบุตรธิดา แต่ต้องรักมากกว่าทุกสิ่งในโลก เพราะเรา, ผู้ได้สร้างลูกมา และไม่หวงแหนตัวเราเองแต่ยอมทนทุกข์ทุกอย่างเพื่อลูก เรารักวิญญาณของลูกมากยิ่งนัก จนกระทั่งเรายินยอมที่จะถูกตรึงกางเขนอีกครั้ง ดีกว่าจะสูญเสียลูกไป ถ้าหากสิ่งนี้สามารถเป็นไปได้ จงเลียนแบบความถ่อมตนของเราเถิด เพราะถึงแม้เราจะเป็นกษัตริย์แห่งความสง่ารุ่งเรืองและกษัตริย์แห่งปวงเทพนิกรในสวรรค์ เรายังยอมสวมเสื้อผ้าสกปรก ขาดวิ่นเหมือนผ้าขี้ริ้ว และยืนเปล่าเปลือย ณ. แทบกางเขน ยอมทนฟังคำดูหมิ่นเหยียดหยามและเยาะเย้ยทุกอย่าง จงทำตามน้ำพระทัยของเราเสมอก่อนน้ำใจของลูกเอง เพราะพระมารดาของเรา และแม่ของลูกด้วย ไม่เคยประสงค์สิ่งใดเลยนอกจากความประสงค์ของเรา ตั้งแต่แรกเริ่มจนวาระสุดท้าย
 
ถ้าหากลูกทำตามวาจาของเรา หัวใจของลูกจะอยู่ในดวงพระทัยของเรา และจะถูกเผาให้เร่าร้อนด้วยความรักของเรา เหมือนดังวัตถุที่จะแห้งและสลายไปอย่างรวดเร็วในเปลวไฟ วิญญาณของลูกจะลุกร้อนและถูกเติมเต็มด้วยความรักของเรา เราจะอยู่ในลูก แล้วสิ่งของทุกอย่างของโลกจะกลายเป็นของขมสำหรับลูก สิ่งล่อลวงทางเนื้อหนังจะเป็นเหมือนยาพิษสำหรับลูก ลูกจะพักผ่อนอยู่ในอ้อมแขนอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา ที่ซึ่งไม่มีความปรารถนาทางเนื้อหนังหลงเหลืออยู่อีกต่อไป จะมีแต่เพียงความชื่นชมยินดีที่ทำให้วิญญาณเต็มไปด้วยความสุข ทั้งภายในและภายนอก จนลูกจะไม่คิดถึงสิ่งใด ไม่ปรารถนาสิ่งใด นอกจากชื่นชมในความปิติยินดีที่มีอยู่เท่านั้น ดังนั้นจงรักเราแต่เพียงผู้เดียว แล้วลูกจะมีทุกสิ่งที่ลูกต้องการ และจะมีอย่างอุดมบริบูรณ์ ไม่ได้มีเขียนไว้ดอกหรือว่า น้ำมันมะกอกของหญิงหม้ายจะไม่มีวันหมด จนถึงวันที่พระเป็นเจ้าจะทรงส่งฝนลงมายังแผ่นดิน ตามคำวอนขอของประกาศก? เราคือประกาศกที่แท้จริง ถ้าลูกเชื่อวาจาของเราและทำตามอย่างครบถ้วน น้ำมัน ซึ่งหมายถึงความชื่นชมยินดีและปิติสุข จะไม่หมดสิ้นไปจากลูกเลยตลอดนิรันดร
 
***************************

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น