วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2562

ดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า



By - Kathy Schiffer
 
ความศรัทธาต่อดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้ามีความเป็นมาอย่างไร?
 
มีการเฉลิมฉลองดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้าทั่วโลกในวันศุกร์หลังจากวันฉลองพระกายและพระโลหิตพระคริสตเจ้า
 
ในทุก ๆ ปี หลังจากวันสมโภชพระจิตเจ้า(Pentecost) 19วัน พระศาสนจักรคาทอลิกจะฉลองดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า แต่ประเพณีนั้นมีจุดเริ่มต้นอย่างไร?
 
ความศรัทธาต่อดวงพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าที่ได้รับบาดเจ็บมีต้นกำเนิดในศตวรรษที่11 เมื่อคริสตชนผู้มีใจศรัทธาได้พิจารณาไตร่ตรองเกี่ยวกับรอยบาดแผลทั้งห้าของพระคริสต์ พวกเขาก็เริ่มสวดภาวนาต่อดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า สวดภาวนาสำหรับรอยบาดแผลที่ไหล่ของพระองค์ เป็นความศรัทธาส่วนบุคคลซึ่งช่วยให้คริสตชนเพ่งพิจารณาถึงพระมหาทรมานและความตายของพระคริสต์ และทำให้พวกเขาเติบโตขึ้นในความรักต่อพระผู้ช่วยให้รอดของชาวเรา
 
กระทั่งปี 1670 พระสงฆ์ชาวฝรั่งเศส คุณพ่อยัง ยูดส์ (Fr. Jean Eudes) ได้จัดการเฉลิมฉลองดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้าเป็นครั้งแรก
 
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง ซิสเตอร์มาร์กาเร็ต มารี อาลาก๊อก เริ่มได้รับนิมิตของพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงประจักษ์แก่เธอบ่อยครั้งและในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1673 พระองค์ทรงอนุญาติให้มาร์กาเร็ตมารี เอนศีรษะพิงพักบนดวงพระทัยของพระองค์ ซึ่งครั้งหนึ่งพระองค์ทรงให้นักบุญเยอร์ทรูดทำเช่นเดียวกัน เธอได้รับการปลอบโยนในเวลานั้น พระเยซูเจ้าทรงบอกเธอถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์และทรงอธิบายว่าพระองค์ทรงเลือกเธอให้ทำหน้าที่ในการที่จะทำให้ความรักและความดีของพระองค์เป็นที่รับรู้แก่ทุกคน
 
ในปีต่อมา ในเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคม ค.ศ. 1674 มาร์กาเร็ต มารี รายงานต่อพระสงฆ์ว่าพระเยซูเจ้าทรงประสงค์ให้ถวายเกียรติแด่พระองค์ภายใต้พระรูปดวงพระหฤทัยที่เป็นเนื้อของพระองค์ พระองค์ทรงขอให้สัตบุรุษรับพระองค์ในศีลมหาสนิทบ่อยๆโดยเฉพาะในวันศุกร์ต้นเดือนและเฝ้าศีลด้วยความศรัทธาอุทิศถวายแด่พระองค์
 
และในปี ค.ศ. 1675 ในช่วงแปดวันของการฉลองพระกายและพระโลหิต มาร์กาเร็ตมารีได้รับนิมิตซึ่งเป็นที่รู้จักในนามของ "การประจักษ์ที่ยิ่งใหญ่แห่งดวงพระหฤทัย" พระเยซูเจ้าทรงขอให้มีการฉลองดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ในวันศุกร์ที่ต่อจากวันฉลองพระกายและพระโลหิตของพระองค์ และต่อมาได้กลายมาเป็นวันฉลองดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ในปัจจุบันนี้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการชดเชยความอกตัญญูของมนุษย์ที่กระทำต่อความเสียสละอันใหญ่หลวงซึ่งพระคริสต์ทรงกระทำเพื่อชาวเรา
 
ความศรัทธานี้ได้กลายเป็นที่นิยมหลังจากการเสียชีวิตของนักบุญมาร์กาเร็ต มารี St. Margaret Mary ในปี 1690 อย่างไรก็ตามเนื่องจากพระศาสนจักรมีความระมัดระวังในการรับรองการประจักษ์หรือความศรัทธาในเรื่องใดก็ตาม วันฉลองจึงยังไม่ได้จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการสำหรับประเทศฝรั่งเศสจนถึงปี 1765
 
ในวันที่ 8 พฤษภาคม ค.ศ. 1873 ความเลื่อมใสศรัทธาต่อดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการจากพระสันตะปาปาปิอุสที่ 9 และอีก 26 ปีต่อมา - วันที่ 21 กรกฎาคม 1899 – สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่13 ได้แนะนำอย่างเร่งด่วนให้พระสังฆราชทุกคนทั่วโลกจัดงานฉลองขึ้นในสังฆมณฑลของพวกเขา พระสันตะปาปาเลโอด้วยพระอำนาจการปกครองยังได้ทรงประทานพระคุณการุณย์แก่ผู้กระทำกิจศรัทธาต่อดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ด้วย

ในภาพดวงพระหฤทัยของพระเยซูเจ้านี้ เปลวไฟ, แสงสว่าง, ลูกศรและมงกุฎหนามหมายถึงอะไร
 
ดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า(The Sacred Heart) เป็นหนึ่งในรูปภาพซึ่งเป็นที่คุ้นเคยและประทับใจที่สุดของคริสตชนคาทอลิก รูปภาพนี้มีสัญญลักษณ์ที่มีความหมายอันลึกซึ้ง  ในขณะที่เรากำลังจะฉลองดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ในวันศุกร์ที่ 29 มิ.ย. 2019 นี้ ให้เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับสัญญลักษณ์ต่างๆในพระรูปอันศักดิ์สิทธิ์นี้
 
1 เปลวไฟ เห็นได้ชัดว่าดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ทำให้เราคิดถึงพระมหาทรมานของพระคริสตเจ้าบนไม้กางเขน มีมงกุฎหนาม , ไม้กางเขน อยู่ด้านบนของดวงพระหฤทัย และมีแผลที่เกิดจากหอกที่แทงทะลุทางพระสีข้างของพระองค์ แต่ทำไมดวงพระหฤทัยจึงมีเปลวไฟอยู่ด้วยล่ะ? นั่นไม่ได้เกิดขึ้นในการตรึงกางเขนอย่างแน่นอน
 
มีเหตุผลสามประการที่อยู่เบื้องหลังสิ่งนี้
 
ประการแรกเราต้องจำไว้ว่าการถวายเป็นยัญบูชาของพระคริสต์บนไม้กางเขนเป็นยัญบูชาที่สมบูรณ์แบบเพียงครั้งเดียวที่เหนือกว่ายัญบูชาอื่นทั้งหมดในพระคัมภีร์เดิม ซึ่งรวมถึงเครื่องเผาบูชาซึ่งเป็นรูปแบบสูงสุดของยัญบูชาต่อพระเจ้าในอิสราเอลโบราณ ตามสารานุกรมชาวยิว ยัญบูชารูปแบบแรกคือการที่อับราฮัมถวายอิสซาอักเป็นยัญบูชาด้วยไม้ที่จะนำมาเผาไฟซึ่งได้จัดเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว
 
ประการที่สอง ไฟมักเกี่ยวข้องกับความศักดิ์สิทธิ์ในพันธสัญญาเดิม อย่างเช่น 1.โมเสสได้พบกับพระเจ้าในพุ่มไม้ที่ลุกติดไฟ และพระองค์ตรัสกับโมเสสจากพุ่มไม้ที่ติดไฟนั้น 2. เสาไฟซึ่งพระเจ้าทรงส่งมาช่วยชาวอิสราแอลที่กำลังหนีจากทหารอิยิปต์ขณะที่พวกเขาอยู่บริเวณเขาซีนาย 3. เปลวไฟจากเบื้องบนที่เผาผลาญเครื่องบูชาของเอลียาห์ เหตุการณ์เหล่านี้เป็นคำอธิบายอย่างเหมาะสมกับเรื่องราวของพระเยซูเจ้าผู้ทรงถูกตรึงบนไม้กางเขน ในเวลาที่ทหารโรมันใช้หอกแทงที่สีข้างของพระเยซูเจ้าเผยให้เห็นดวงพระหฤทัยของพระองค์ ในเวลาเดียวกันกับที่ผ้าม่านของพระวิหารถูกฉีกขาดออกและได้เผยให้เห็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งความศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย สถานที่ซึ่งพระเจ้าทรงสถิตอยู่
 
ประการสุดท้าย ภาพของไฟที่อยู่ในดวงพระหฤทัยนี้หมายถึงความรักอันใหญ่หลวงของพระคริสตเจ้าที่มีต่อมนุษย์ทั้งมวล รูปภาพในการ์ดที่วาดขึ้นที่ฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 19 มีตัวอักษรเขียนไว้เหนือดวงพระหฤทัยว่า - Voilà ce Cœurqué a téaimé les hommes ซึ่งแปลโดยประมาณว่า: "นี่คือดวงพระหฤทัยที่รักมนุษย์เป็นอย่างมาก" ธรรมประเพณีอธิบายว่า "ดวงพระหฤทัยของพระเยซูเจ้ากำลังเผาไหม้ด้วยไฟความรักที่ทรงมีต่อพวกเรา ทำให้หัวใจของเราลุกร้อนเป็นไฟด้วยความรักของพระองค์” และเราก็พบเรื่องนี้ในพระวรสารลูกา24:14-35 ในตอนที่ศิษย์สองคนเดินบนถนนมุ่งสู่เอมมาอุส (Emmaus) พวกเขารู้สึกว่าหัวใจของพวกเขา “เร่าร้อนเป็นไฟ” หลังจากที่พวกเขาได้พบกับพระเยซูเจ้า
 
2 รังสีของแสง ที่ส่องออกมาจากดวงพระหฤทัย และอยู่ถัดออกมาจากเปลวไฟ ในพระวรสารยอห์น 8:12 พระคริสต์ทรงประกาศว่าพระองค์เป็น “แสงสว่างของโลก” และในพระธรรมวิวรณ์ 21:23 บอกเราว่าในกรุงเยรูซาเล็มใหม่เมื่อถึงวาระอวสานของโลกจะไม่มีแสงสว่างจากดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ส่องสว่างอีกต่อไปเพราะ ลูกแกะของพระเจ้า - นั่นคือพระเยซูเจ้า - จะทรงเป็นแหล่งกำเนิดของแสงสว่าง แสงสว่างก็เป็นเช่นเดียวกับเปลวไฟเป็นสัญลักษณ์ของความศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า ลองพิจารณาถึงเวลาที่พระเยซูเจ้าทรงจำแลงพระกายบนภูเขาทาบอร์หรือแสงสว่างที่เปาโลประสบบนถนนสู่ดามัสกัส พระเยซูคริสต์ทรงอยู่ในฐานะแสงสว่างของโลกพระองค์ทรงเป็นผู้ที่ “ส่องสว่าง” จิตใจเรา ทรงเผยแสดงพระเจ้าให้เราเห็น ดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ถือเป็นจุดสำคัญของการเปิดเผยพระองค์เองแก่เรา แสดงให้เราเห็นถึงความรักอันลึกซึ้งของพระเจ้าที่มีต่อเรา
 
3 ลูกศร มงกุฎหนามและหอก ทำให้เราเกิดความความรู้สึกสะเทือนใจ ในภาพนี้มีลูกศรปรากฏอยู่ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เราอ่านพบในพระวรสาร ลูกศรหมายถึงบาป นี่คือคำอธิบายที่พระเยซูเจ้าตรัสแก่นักบุญมารีย์แห่งนักบุญเปโตร (St. Mary of St. Peter ) ลูกศรอาจอุปมาอุปมัยตามความเชื่อของโรมันโบราณ ซึ่งตามตำนานโบราณเล่าว่าคิวปิดยิงลูกธนูเข้าในหัวใจของคู่รัก ทำให้พวกเขารักกัน
 
4 มงกุฎหนาม ไม่เหมือนกันลูกศร ในพระวรสารมีเขียนเกี่ยวกับมงกุฏหนาม แต่ในรูปนี้มงกุฏหนามอยู่ล้อมรอบดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ ในขณะที่พระคัมภีร์บอกว่ามงกุฎหนามถูกสวมที่พระเศียรของพระเยซูเจ้า คำอธิบายตามธรรมประเพณีกล่าวถึงผู้มีความเชื่อที่กำลังเพ่งมองพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขนว่า:“พวกเขาเห็นมงกุฎถูกย้ายจากพระเศียรของพระองค์ไปยังดวงพระหฤทัยของพระองค์; พวกเขารู้สึกว่าคมหอกแทงที่บริเวณนั้นตลอดเวลา พวกเขาจึงเข้าใจว่าพระมหาทรมานก็คือการตรึงกางเขนแห่งดวงพระหฤทัยของพระองค์นั่นเอง” (จากหนังสือ The Heart of the Gospel: Traits of the Sacred Heart by Francis Patrick Donnelly, published in 1911 by the Apostleship of Prayer) กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ มงกุฎหนามที่ล้อมรอบดวงพระหฤทัยนั้นเป็นการเน้นย้ำในความจริงที่ว่าพระคริสต์ทรงรู้สึกเจ็บปวดจากบาดแผลที่ลึกไปถึงส่วนลึกที่สุดของดวงพระหฤทัยของพระองค์
 
ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากพระเยซูเจ้าทรงกลับฟื้นคืนพระชนม์แล้ว มงกุฎหนามได้กลับกลายเป็นมงกุฎแห่งชัยชนะ ท่านดอนเนลลี(Donnelly)พูดถึงเรื่องนี้ว่า “จากอาวุธของศัตรู จากกางเขน จากมงกุฏหนามและการแทงซึ่งเปิดดวงพระหฤทัยของพระองค์ พระผู้ทรงได้รับชัยชนะแล้วของชาวเราได้ทรงสร้างถ้วยรางวัลแห่งชัยชนะซึ่งเป็นประจักษ์พยานที่ดีที่สุดในความรักของพระองค์” ในการแข่งขันของโรมันสมัยโบราณผู้ชนะจะได้รับมงกุฎ ในพระธรรมวิวรณ์ 19:12 พระคริสต์ก็ทรงสวม "มงกุฎหลายองค์" และผู้มีความเชื่อที่ได้รับชัยชนะเหนือบาปและซาตานจะได้รับ "มงกุฎแห่งชีวิต" (วิวรณ์ 2:10)
 
ในที่สุด ตามที่นักบุญมากาเร็ต มารี อาลาก๊อก(St. Margaret Mary Alacoque) อธิบายไว้ว่า หนามแต่ละหนามหมายถึงบาปจำนวนมากมายที่แต่ละคนได้กระทำ หนามเหล่านั้นทิ่มแทงดวงพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า ขณะที่เธอกำลังเขียนบันทึกคำอธิบายนี้ เธอก็ระลึกถึงนิมิตที่เธอได้รับ “ ดิฉันเห็นดวงพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์นี้อยู่บนบัลลังก์แห่งเปลวเพลิง ส่องสว่างเจิดจรัสยิ่งกว่าดวงอาทิตย์และใสเหมือนแก้วผลึก มีบาดแผลที่น่าเทิดทูนปรากฏอยู่และถูกล้อมรอบด้วยมงกุฎหนามซึ่งบ่งบอกถึงความผิดบาปของเราแต่ละคนที่ได้กระทำล่วงเกินต่อพระองค์”
 
5 ไม้กางเขน เช่นเดียวกับมงกุฎหนาม, ไม้กางเขนถูกบันทึกอยู่ในพระวรสาร ในพระวรสารพระคริสต์ทรงถูกแขวนอยู่บนไม้กางเขน แต่ในภาพดวงพระหฤทัยของพระองค์มีไม้กางเขนปักอยู่โดยมีเปลวไฟลุกไหม้อยู่ด้านล่าง และดูเหมือนดวงพระหฤทัยขยายใหญ่ขึ้น ส่วนกางเขนหดเล็กลง ดวงพระหฤทัยไม่ได้ถูกตรึงอยู่กับไม้กางเขน แต่ไม้กางเขนดูเหมือนว่าถูก 'ปลูก' ไว้ในดวงพระหฤทัย นักบุญมาร์กาเร็ต มารี อาลาก็อกกล่าวว่า – ถ้าจะบอกว่า ความหมายที่แท้จริงของการตรึงกางเขนของพระเยซูเจ้านั้นมีที่มาจากดวงพระหฤทัยของพระองค์นั่นเอง - ดวงพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าทำให้กางเขนมีความหมายสำหรับเราในทุกวันนี้

****************************************************


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น