นักบุญยอห์นได้บันทึกสิ่งที่ท่านเห็นในช่วงเวลาแห่งพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า พระกายของพระเยซูเจ้าอยู่บนไม้กางเขน ทรงได้รับความทุกข์ทรมานอย่างสาหัสจนสิ้นพระชนม์
“เมื่อทหารมาถึงพระเยซูเจ้าก็เห็นว่าพระองค์สิ้นพระชนม์แล้ว จึงไม่ได้ทุบขาของพระองค์ แต่ทหารคนหนึ่งใช้หอกแทงด้านข้างพระวรกายของพระองค์ โลหิตและน้ำก็ไหลออกมาทันที” ~ ยอห์น 19: 33-34
นักบุญยอห์นเป็นผู้เห็นเหตุการณ์นี้และในภายหลังท่านได้บันทึกไว้ในพระวรสาร ท่านไม่ได้มีคำอธิบายทางการแพทย์สำหรับการที่”โลหิตและน้ำไหลออกมา” พระเจ้าทรงประทานความหมายให้แก่พระโลหิตและน้ำ นั่นคือเป็นสิ่งที่บ่งชี้ไปที่ศีลล้างบาปและศีลมหาสนิท เป็นของประทานแห่งพระเมตตาอันไม่มีที่สิ้นสุดของพระองค์
แต่ในความลึกลับทางจิตวิญญาณของเหตุการณ์นี้ ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีคำอธิบายทางการแพทย์ในการที่โลหิตและน้ำไหลออกมาจากสีข้างของพระเยซูเจ้า
ในเรื่องนี้ ดร. อันโทนี เดอโบโน Dr. Antony de Bono ศัลยแพทย์ทรวงอกที่เกษียณอายุแล้วรู้สึกว่ามีเหตุผลง่ายๆที่สนับสนุนสำหรับการที่ “โลหิตและน้ำ”ไหลออกมา
เขาได้เขียนอธิบายไว้ว่า:
พระเยซูเจ้าทรงมีสภาพของการมีเลือดคั่งในโพรงเยื่อหุ้มปอด haemothorax ซึ่งอยู่ในพระกายที่อยู่นิ่งไม่เคลื่อนไหวแล้ว สภาพเช่นนี้ได้แยกโลหิตและน้ำออกเป็นสองชั้น:เซลล์โลหิตสีแดงที่หนักกว่าอยู่ด้านล่างและพลาสมาที่เป็นน้ำที่เบากว่าอยู่ด้านบน Haemothorax เป็นผลมาจากการถูกเฆี่ยนตีด้วยแส้อย่างโหดร้าย
การถอนหอกออกจากสีข้างนั้น ทำให้เซลส์เม็ดเลือดแดงไหลออกมาก่อน แล้วพลาสมาที่เป็นน้ำซึ่งเบากว่าก็จะไหลออกตามมา
พระกายของพระเยซูเจ้าถูกตรึงแขวนอยู่บนไม้กางเขน ทรงสิ้นพระชนม์เป็นระยะเวลาหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าของเหลวจะต้องสะสมตั้งแต่ในช่วงที่ยังทรงมีชีวิตอยู่โดยมีเลือดออกมาคั่งอยู่ในช่องอก แน่นอนว่าเกิดจากการถูกเฆี่ยนตีอย่างรุนแรงโหดร้าย
เป็นที่ทราบกันดีว่าในสถานการณ์เหล่านี้โลหิตในพระกายที่ตายแล้วก็เริ่มแยกชั้นออกไปเป็นชั้นเซลล์เม็ดเลือดแดงที่หนักกว่าจมลงอยู่ด้านล่าง และพลาสมาซึ่งเป็นของเหลวที่เบากว่าลอยอยู่ด้านบน นั่นคือพลาสมาซึ่งเป็นสีจางอยู่บนโลหิตที่เป็นสีเข้ม
เมื่อหอกทำให้เกิดรูที่สีข้าง เซลล์เม็ดเลือดแดงซึ่งนักบุญยอห์นอธิบายว่าเป็นโลหิตได้ไหลพุ่งออกมาก่อนตามด้วยพลาสม่าซึ่งนักบุญยอห์นมองว่าเป็นน้ำ
“ผมนึกหาคำอธิบายเป็นอย่างอื่นๆไม่ได้” แพทย์กล่าวเสริม “โดยทางเทคนิคแล้วกระบวนการในการระบายของเหลวออกทางหน้าอกเป็นที่รู้จักกันในนาม thoracocentesis.”
ภาพสเก็ตของ ดร.อันโทนี
เมื่อเราใคร่ครวญถึงความรักของพระเยซูเจ้าที่มีต่อเรา จึงพิจารณาได้ว่าพระเยซูเจ้าทรงรักเราจนหมดสิ้นทุกสิ่ง แม้แต่พระโลหิตและน้ำทั้งหมดในพระกายของพระองค์ก็ทรงมอบถวายเพื่อความรอดของพวกเรา ด้วยความรักอันยิ่งใหญ่สุดประมาณของพระเยซูเจ้าที่ทรงมีต่อมนุษย์ทั้งหลาย ในสภาวะมนุษย์ของพระองค์จึงได้ทรงนำพระองค์เองไปสู่ไม้กางเขน
****************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น