พระเจ้าทรงเปิดเผยพระนามของพระองค์ให้เราทราบ เมื่อเวลาที่โมเสสพบกับพระเจ้าที่พุ่มไม้ อพย.3:13-15
โมเสสทูลพระเจ้าว่า "เมื่อข้าพเจ้าไปหาชาวอิสราเอลแล้วบอกเขาว่า พระเจ้าของบรรพบุรุษของท่านทรงส่งข้าพเจ้ามาหาท่าน" ถ้าเขาถามข้าพเจ้าว่า "พระองค์ทรงพระนามว่าอะไรเล่า" ข้าพเจ้าจะตอบเขาอย่างไร พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า "เราคือเราเป็น" แล้วตรัสต่อไปว่า "ท่านต้องบอกชาวอิสราเอลดังนี้ว่า "เราเป็น" ทรงส่งข้าพเจ้ามาหาท่านทั้งหลาย" พระเจ้าตรัสกับโมเสสอีกว่า ท่านต้องบอกชาวอิสราเอลดังนี้ว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของท่าน พระเจ้าของอับราฮัม พระเจ้าของอิสอัค และพระเจ้าของยาโคบ ทรงส่งข้าพเจ้ามาหาท่านทั้งหลาย นามนี้จะเป็นนามของเราตลอดไป ชนรุ่นต่อ ๆ ไปจะต้องเรียกเราด้วยนามนี้"
พระคัมภีร์ในภาษาฮิบรูนั้นคำว่า "เราคือเราเป็น" เขียนว่า YHWH (อ่านว่ายาห์เวห์) ถ้าเป็นภาษาอังกฤษก็จะเขียนว่า “I am who I am” (เราเป็นผู้ที่เราเป็น) คำแปลนี้ได้รับอิทธิพลมาจากกรีก ในสมัยที่มีการแปลพระคัมภีร์เป็นภาษากรีก พระคาร์ดินัลวอลเตอร์ กัสปาร์ ให้ความเห็นว่า กรีกมีความคิดที่ค่อนข้างเป็น “นามธรรม” เพราะฉะนั้นในการ “เป็นผู้ที่เราเป็น” นั้น คือเป็นพระเจ้าสูงสุด ที่ไม่สามารถจับต้องได้อยู่สูงเกินที่จะเข้าใจได้ เป็นผู้ไม่รู้ตาย
แต่ชาวยิวมีความคิดแบบนี้ด้วยหรือ? ในทัศนะของชาวยิว “ผู้เป็น” เป็นสิ่งที่สัมผัสได้ มีพลัง มีชีวิต เคลื่อนไหวได้ เป็นพลวัติ พระเจ้าในทัศนะคติของชาวยิวจึงแตกต่างจากพระเจ้าในทัศนะของชาวกรีก
อักษรสี่ตัว YHWH นำมาจากรากศัพท์ภาษาฮีบรูของคำกิริยาว่า h-y-h (hayah), ซึ่งมีความหมายว่า"to be" (เป็น) YHWH เป็นการนำกิริยาสามตัวมารวมกันคือ "hayah hoveh yi'yeh", มีความหมายว่า "He was, He is, He will be".(พระองค์เป็น -อดีต, พระองค์เป็น - ปัจจุบัน, พระองค์เป็น - อนาคต)
นั่นหมายความว่า พระเจ้าทรงเป็นนิรันดร
ตัวอักษรภาษาฮีบรูนั้นจะอ่านจากขวาไปซ้าย ลักษณะดังข้างล่างนี้
י = Yodh
ה = He
ו = Waw
ה = He
ส่วนการสะกดคำอ่านนั้นไม่รู้แน่ชัด เพราะฮีบรูโบราณไม่ได้ใช้เครื่องหมายสระใดๆ เพราะฉะนั้นการอ่านพระนามพระเจ้าที่ถูกต้องในสมัยเริ่มแรกจึงสูญหายไปตามกาลเวลา ด้วยเหตุที่โดยปกติชาวยิวจะไม่เอ่ยพระนามนี้เพราะถือว่าเป็นอักขระศักดิ์สิทธิ์ เวลาเจอคำนี้ในพระคัมภีร์ ชาวยิวจะอ่านเลี่ยงทันทีว่า “อาโดนาย” หรือ “เอโลฮิม” ซี่งแปลว่า เจ้านาย หรือพระเจ้า (เช่นเดียวกับที่เราไม่เอ่ยพระนามของในหลวงโดยตรง แต่จะใช้คำเรียกว่า ในหลวงแทน)
อย่างไรก็ตามพระเจ้าทรงช่วยให้เราเข้าใจแนวคิดของความหมาย และเราพบมันตลอดทั้งพระคัมภีร์ ในภาคพันธสัญญาเดิมและแม้แต่ในพันธสัญญาใหม่ด้วย ความหมายของพระนามพระเจ้าแสดงเกี่ยวกับธรรมชาติของพระผู้สร้าง ด้วยแนวคิดที่ว่าพระองค์ทรงดำรงอยู่เสมอ พระองค์ไม่มีจุดเริ่มต้นและพระองค์ไม่มีจุดสิ้นสุด พระเจ้าทรงดำรงอยู่ตั้งแต่นิรันดรไปตลอดนิรันดร อย่างเช่น
สดุดี 90:2 – “ก่อนที่ภูเขาจะเกิดขึ้นมา พระองค์ทรงก่อรูปร่างของโลกและแผ่นดินแล้ว พระองค์ดำรงอยู่จากนิรันดรถึงนิรันดร พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า”
มีคาห์ 5:2 – “ส่วนเจ้า เบทเลเฮม และเอฟราทาห์ เจ้ามิได้ต่ำต้อยที่สุดในบรรดาเผ่ายูดาห์ เพราะผู้ปกครองอิสราเอลจะออกมาจากเจ้า พระองค์ผู้ทรงดำเนินไปข้างหน้าทรงมาจากโบราณกาล ทรงมาจากนิรันดรกาล”
วิวรณ์ 1:8 – “เราคือพระเจ้าผู้ดำรงอยู่ในอดีต ผู้ดำรงอยู่ในปัจจุบัน และผู้จะเสด็จมา พระผู้ทรงสรรพานุภาพตรัสว่า “เราคืออัลฟา และโอเมก้า เราเป็นเบื้องต้นและอวสาน”
คนที่ไม่เชื่อพระเจ้าบอกว่า “พระเจ้าไม่มีอยู่จริง” เราสามารถทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ เพราะพระเจ้าตายแล้ว แต่พวกเขาคิดผิด ไม่ว่าพวกเขาจะคิดอย่างไร พระเจ้าก็ยังทรงดำรงอยู่ เพราะพระองค์ดำรงอยู่ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ทรงดำรงอยู่นิรันดร พระองค์ทรงอยู่กับพวกเขาเสมอและไม่ทรงเปลี่ยนแปลง ทรงหยั่งรู้ถึงความคิด และบาปของพวกเขา เมื่อถึงเวลาหนึ่งพวกเขาก็จะได้รับโทษจากบาปของพวกเขา ถ้าพวกเขายังดื้อดึงไม่กลับใจ
ส่วนผู้ที่มีความเชื่อในพระเจ้าและปฏิบัติตามพระบัญญัติ และคำสั่งสอนของพระองค์ พวกเขาจะได้รับรางวัลเพราะการกระทำความดีและความเชื่อ พวกเขาจะมีชีวิตนิรันดรพร้อมกับพระเจ้า ผู้ทรงมีชีวิตและเป็นบ่อเกิดแห่งความสุขทั้งปวง
ยังมีความสัมพันธ์บางอย่างระหว่างตัวอักษรโบราณของฮิบรูในพระนามของพระเจ้าด้วย เนื่องจากชาวยิวนำรูปร่างของวัตถุสิ่งของและท่าทางในชีวิตประจำวันของพวกเขามาสร้างเป็นรูปแบบตัวอักษร พระนามของพระเจ้าในภาษาฮีบรูโบราณจึงเป็นดังในรูปข้างล่างนี้ และการอ่านจะอ่านจากขวาไปซ้าย
จากรูป คำแรก Yodh มาจากรูปมือ
คำที่สอง He มาจากรูปการมองดู
คำที่สาม Waw มาจากรูปตะปู
คำที่สี่เหมือนคำที่สอง
จึงเป็น มือ – มอง – ตะปู – มอง
แล้วมีความหมายอะไรในเรื่องนี้?
เมื่อพระเยซูเจ้าทรงอยู่ต่อหน้าโทมัส อัครสาวกผู้ที่ยังไม่เชื่อว่าพระองค์ทรงกลับฟื้นคืนชีพแล้ว พระองค์ตรัสกับโทมัสว่า “จงเอานิ้วของท่านมาที่นี่ และมองดูมือของเรา และเอามือของท่านวางที่สีข้างของเรา อย่าสงสัยอีก แต่จงเชื่อเถิด” (ยอห์น 20:27)
และโทมัสตอบพระองค์ว่า “พระเจ้าของข้าพเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า” (ยอห์น 20:28)
นี่เป็นความสัมพันธ์กันอย่างน่าประหลาดที่โทมัสรับรู้ว่าพระเยซูเจ้าคือ YHWH (ผู้เป็น – พระเจ้านิรันดร) ผู้ทรงถูกตะปูตรึงที่มือและมีรอยแผลซึ่งโทมัสได้สัมผัสและได้มองนั่นเอง
*************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น