"เมื่อยากอบปรารถนาจะได้พรบุตรหัวปีจากอิซาอักผู้เป็นบิดา บุตรหัวปีคือเอเซาพี่ชายของยากอบ และเป็นเขาที่ต้องได้รับพรนี้ มารดาของยากอบสั่งให้เขาไปทำซุปแกะที่อิซาอักชอบ (ปฐ.27:9- 29 ) เธอยังสั่งให้ยากอบสวมขนแกะไว้ที่แขน เพราะเอเซามีขนดก และได้นำเสื้อของเอเซาซึ่งยังมีกลิ่นตัวของเขามาสวมใส่ให้ยากอบ จากนั้นก็ให้ยากอบน้ำซุปแกะไปหาบิดาที่ในเวลานั้นตาบอด เมื่ออิซาอักทานซุปแกะเสร็จแล้ว ยากอบก็ขอพรจากอิซาอัก อิซาอักสัมผัสแขนของยากอบพลางพูดว่า “อา นี่ฉันกำลังป่วยอยู่หรือ เสียงที่ฉันได้ยินเป็นเสียงของยากอบ แต่แขนที่สัมผัสเป็นของเอเซา” อิซาอักดมกลิ่นเสื้อที่ยากอบสวมอยู่ แล้วพูดว่า “กลิ่นที่ดี ทำให้ฉันมีความยินดี ฉันจะให้พรลูกชายของฉัน”
ดังนั้นพวกเราก็เช่นเดียวกัน จะต้องเตรียมลูกแกะที่ขาวสะอาดถวายแด่พระบิดานิรันดรของเรา เพื่อทำให้พระองค์พอพระทัย นั่นคือการสวดภาวนาและกิจการดีของเรา และเมื่อเราวอนขอพรจากพระองค์ ถ้าหากเราสวมใส่เสื้อที่อาบด้วยพระโลหิตของพระเยซูเจ้าพระบุตรของพระองค์ พระองค์จะตรัสว่า “เสียงที่เราได้ยินเป็นเสียงของยากอบ แต่แขน (ซึ่งหมายถึงกิจการความชั่วของเรา) เป็นของเอเซา อย่างไรก็ตาม ความยินดีที่เราได้กลิ่นที่มาจากกลิ่นเสื้อของเขา เราจะอวยพรแก่เขา”
*********************
ท่านอาจจะกล่าวกับข้าพเจ้าว่า “ถ้าฉันได้เห็นทูตสวรรค์ปรากฏมาในระหว่างการสวดภาวนา ฉันจะยิ่งมีความยำเกรงและมีความตั้งใจในการสวดภาวนามากขึ้นแน่นอน” อา, ขอโทษเถิด, มันหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ ข้าพเจ้าขอบอกท่านว่า ถึงแม้ท่านจะถูกยกขึ้นไปสู่สวรรค์ชั้นที่ 3 พร้อมกับนักบุญเปาโล(2 คร. 12:2) หรือได้อยู่ในสวรรค์นาน 30 ปี แต่ถ้าหากไม่มีความเชื่อ สิ่งเหล่านั้นก็หามีประโยชน์อันใดไม่ ข้าพเจ้าเคยกล่าวมาหลายครั้งแล้วว่า ท่านนักบุญเปโตร, นักบุญยากอบและนักบุญยอห์น แม้จะได้เห็นพระเยซูเจ้าแสดงพระองค์ในสิริมงคลอันรุ่งเรืองและในพระฤทธานุภาพของพระองค์แล้ว แต่พวกท่านก็หาได้อยู่ร่วมทนทุกข์ทรมานและความตายของพระเยซูเจ้า
ดังนั้น เราจึงควรวอนขอความช่วยเหลือจากพระจิตเจ้า ก่อนที่จะสวดภาวนาประจำวันของเรา โอ, เราจะมีความสุขมากสักเพียงไร ถ้าเราจะกระทำเสียแต่บัดนี้ ในสิ่งที่เราจะกระทำตลอดนิรันดรในสวรรค์ ที่ซึ่ง พระบิดา พระบุตร และพระจิต ทรงเฝ้าดูแลเรา
**************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น