วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2562

การงานอันศักดิ์ศิทธิ์ของเราจะดำเนินต่อไปในสวรรค์



โดย Mother Angelica
 
ในสวรรค์ บรรดานักบุญทั้งหลายทำอะไร? เมื่อเราตายไปและได้ไปอยู่สวรรค์ หลังจากที่เราได้รับชัยชนะแล้ว เราต้องทำงานเหมือนเวลาที่อยู่บนโลกหรือไม่? เรายังจะต้องทำอะไรอีกหรือ? นี่เป็นข้อสงสัยของคนจำนวนมาก
 
เราจะเริ่มด้วยแง่คิดที่ว่า สถานที่แห่งความบรมสุขนั้นในเวลาเดียวกันก็ไม่อาจเป็นสถานที่แห่งความเกียจคร้านได้ เราไม่สามารถมีความสุขและเกียจคร้านไปพร้อมกันได้เพราะจิตใจจะเสื่อมถอยลง เหมือนกับเวลาที่อยู่บนโลก กล้ามเนื้อของเราเสื่อมลงเมื่อไม่ทำงาน จงพิจารณาถึงอาดัมและเอวา เมื่ออยู่ในสวนเอเดนซึ่งเรียกว่าสวนสวรรค์ ณ. แผ่นดิน พระเจ้าทรงมอบหมายให้พวกเขาทำงานดูแลสวนเอเดน สวรรค์เบื้องบนก็เช่นเดียวกัน เป็นสถานที่เปี่ยมไปด้วยความสุขอย่างแน่นอน แต่สามัญสำนึกของเราก็บอกเราว่าต้องมีงานบางชนิดในสวรรค์ด้วย
 
งานของพระเจ้า
 
ให้เราลองจินตนาการถึงพระเจ้าในเวลาที่พระองค์ยังไม่ได้ทรงสร้างอะไรขึ้นมาเลย มีแต่เพียงพระเจ้าเท่านั้น ยังไม่มีอะไรเลย ไม่มีเทวดา , มนุษย์ , โลก, ต้นไม้ ไม่มีอะไรเว้นแต่ องค์พระตรีเอกภาพ พระบิดา , พระบุตร และพระจิต แล้วพระเจ้าก็ทรงเนรมิตสร้างสรรพสิ่ง นั่นต้องเป็นงานที่มากมายทีเดียว ทุกสิ่งถูกสร้างขึ้นมาโดยพระเจ้า ดวงดาวต่างๆ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ภูเขา ทะเล สัตว์ป่า พืชผักผลไม้ ฯลฯ
 
หลังจากทรงสร้างสิ่งต่างๆแล้ว พระเจ้าก็ยังทรงทำงานอยู่ต่อไปตลอดเวลา พระเยซูตรัสว่า “อาหารของเราคือการทำตามน้ำพระทัยของผู้ส่งเรามา และทำงานของพระองค์ให้สมบูรณ์” (ยน. 4:34) ปัญหาของเราคือเราไม่มีความรู้หรือแนวคิดเกี่ยวกับงานเป็นแบบอื่น ยกเว้นว่าเป็นสิ่งที่ต้องใช้ความพยายามและทำให้เหนื่อยล้า พวกเราส่วนใหญ่จึงไม่ชอบทำงานเพราะคิดว่ามันน่าเบื่อ แต่ในอาณาจักรสวรรค์เราคงต้องเปลี่ยนความคิดนี้ และสิ่งที่ทำให้เราเปลี่ยนความคิดก็คือชนิดของานที่ทำ
 
บนโลก เราต้องทำงานเพราะอะไร? เพราะเราต้องกิน , นอน , ใช้จ่ายเพื่อสิ่งของต่างๆ เราทำงานเพื่อซื้อบ้าน ทำให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดี แต่ในพระคัมภีร์เราจะเห็นแนวคิดเกี่ยวกับงานที่แตกต่างออกไป เพราะในสวรรค์ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกินอาหารหรือนอนหรือมีสิ่งที่คอยพยุงชีวิต งานแบบโลกนี้ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป แต่มีงานชนิดอื่นแทน “คืองานที่พระบิดาของเราทรงมอบหมายให้เรากระทำจนสำเร็จ งานที่เรากำลังกระทำอยู่นี้เป็นพยานถึงเราว่าพระบิดาทรงส่งเรามา”(ยน. 5:36)
 
เมื่อเรามองดูพระชนม์ชีพของพระเยซูเจ้า เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนถึงงานอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ นั่นคือการทำให้มนุษย์เรามีความศักดิ์สิทธิ์ ในตอนแรกพระองค์ทรงช่วยรักษาโรคให้แก่ผู้เจ็บป่วย ต่อมาพระองค์ทรงรักษาความเจ็บป่วยฝ่ายวิญญาณของพวกเขา พระองค์ทรงอภัยบ่าปของพวกเขา และก่อนจะทรงรักษาฝ่ายร่างกายพระองค์เรียกร้องพวกเขาให้มีความเชื่อและความถ่อมตน นี่คืองานอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ เราจึงต้องไม่สับสนระหว่างงานของโลกกับงานของสวรรค์ เราไม่ต้องทำงานแบบโลกอีก เพราะในสวรรค์ชีวิตของเราจะเปลี่ยนไป

งานที่ยิ่งใหญ่
 
งานที่ยิ่งใหญ่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงวัตถุสิ่งของแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงคน งานที่ยิ่งใหญ่นี้ซึ่งต้องกระทำแม้แต่ในโลกนี้แล้ว ไม่ใช่เป็นอาชีพหรือเป็นการประสบความสำเร็จทางโลก แต่เป็นความศักดิ์สิทธิ์ที่จะต้องทำให้เกิดในตัวของเราเอง ทำให้เกิดในพ่อแม่ พี่น้อง สามีภรรยา บุตรชายหญิง และญาติมิตรสหายของเราด้วย เมื่อเรามอบตัวเราเองแด่น้ำพระทัยของพระเจ้า เราจะสามารถเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ได้ เหมือนเช่นที่พระองค์ทรงเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ นี่เป็นงานที่หนักมากอย่างแน่นอน เพราะเราจำเป็นต้องควบคุมจิตใจและร่างกายของเราเอง เราต้องเป็นผู้มีใจอ่อนโยนเมื่อเรารู้สึกไม่มีความอ่อนโยน เราต้องรู้สึกสำนึกผิดเสียใจเมื่อเรามีความโกรธ นี่คืองานที่ยิ่งใหญ่ แต่ถ้าเราไม่คิดว่านี่เป็นงาน เราก็จะไม่ทำงานนี้
 
ในหนังสือดาเนียล เทวดาได้ปรากฏแก่ดาเนียลและพูดว่า “ดาเนียล อย่ากลัวเลย ตั้งแต่วันแรกที่ท่านถ่อมตนลงเบื้องพระพักตร์พระเจ้า พระองค์ก็ทรงรับฟัง คำอธิษฐานของท่านแล้ว” เทวดาพูดต่อไปว่า “คำอธิษฐานของท่านเป็นสาเหตุทำให้ข้าพเจ้ามาพบกับท่าน” (ดน. 10:12) นี่คือเทวดาของพระเจ้า ผู้อยู่ในพระอาณาจักรที่คุณจะไปอยู่ด้วย และคุณก็จะทำสิ่งเดียวกันคือ “มายังโลกเพื่อพูดกับประชากรของพระเจ้า” นี่เป็นงานอย่างหนึ่งของสวรรค์ นักบุญโทมัส อไควนัสกล่าวว่า กาแลกซี่ทั้งหมดในจักรวาลของพระเจ้าถูกควบคุมดูแลโดยเหล่าเทวดาที่คอยเฝ้ารักษาให้มันดำเนินไปตามวิถีที่ถูกต้อง นักวิทยาศาสตร์อาจหัวเราะในเรื่องนี้ เพราะเราลืมคิดไปว่า พระเจ้าไม่ทรงประทับนิ่งๆอยู่โดยไม่ทรงทำอะไรเลย เมื่อร่างกายและวิญญาณของเราจะมารวมกันอีกครั้งในวันพิพากษาครั้งสุดท้าย เราคงจะมีงานมากมายที่จะต้องทำร่วมกันแน่นอน
 
รักและสวดภาวนาในสวรรค์
 
งานหนึ่งที่จะทำในอาณาจักรสวรรค์ก็คือการสวดภาวนาสำหรับผู้ที่ยังอยู่ในโลก ฟังดูอาจเป็นงานธรรมดาที่ไม่หนักนัก แต่ลองคิดดูว่าถ้าหากคุณอยู่ในสวรรค์และคนที่คุณรักเป็นอย่างมากอยู่บนโลก และเขาหรือเธอกำลังดำเนินชีวิตในทางที่ผิด ห่างไกลจากพระคริสต์ นั่นจะต้องทำให้คุณสวดภาวนาวิงวอนเพื่อเขา นั่นเป็นงานของคุณในการพยายามนำคนที่คุณรักมาสู่หนทางที่ถูกต้อง และแน่นอนว่าพระเจ้าจะทรงอนุญาตให้คุณนำทางพวกเขาเมื่อคุณอยู่ในสวรรค์แล้ว แน่ใจได้เลยว่า หลายครั้งเราได้รับความช่วยเหลือจากมิตรสหายและคนในครอบครัวที่ได้จากไปก่อนเรา และเมื่อถึงเวลาของเรา เราจะต่อสู้กับศัตรูของพระเจ้าไม่ใช่ด้วยอาวุธที่ใช้ในสงครามแต่ด้วยอาวุธแห่งความดีงามและความรักความเมตตา
 
เมื่อคนที่เรารักตายไป เป็นการยากที่จะคิดว่าพวกเขายังรับรู้และใส่ใจเกี่ยวกับเรา แต่พวกเขาทำเช่นนั้น เหมือนกับที่เราจะรู้และใส่ใจในคนที่เรารักซึ่งอยู่บนโลกหลังจากที่เราเสียชีวิตไปแล้ว ถ้าหากพวกเขาใส่ใจในเราขณะที่ยังอยู่ในโลกที่ไม่สมบูรณ์นี้ พวกเขาก็จะยิ่งใส่ใจในเรามากกว่าเมื่อเขาไปอยู่ในโลกที่สมบูรณ์แล้ว พวกเขาจะได้รับอำนาจยิ่งกว่าเพื่อช่วยในการดลใจเรา
 
เราอาจเคยได้ยินมาบ้างจากประสบการณ์ของบางคนที่แม่ของเขาป่วยใกล้ตาย และแม่ได้บอกเขาว่าพ่อที่เสียชีวิตไปก่อนแล้วได้ปรากฏมาให้เห็น และเขา “สวยงามและสง่างามมาก” หรือประสบการณ์อื่นๆอีกมากมายในลักษณะเช่นนี้ ซึ่งแสดงว่าผู้ที่อยู่ในสวรรค์แล้วยังคงใส่ใจดูแลผู้อันเป็นที่รักของพวกเขา
 
งานนิรันดรของเรา
 
งานการในชีวิตประจำวันของเราเป็นงานที่สำคัญ แต่ไม่ใช่งานที่สำคัญที่สุดที่พระเจ้าทรงประสงฆ์ต่อเรา งานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราในโลกคือการร่วมมือกับน้ำพระทัยของพระเจ้าในเวลาปัจจุบันเพื่อให้พระจิตเจ้าสามารถเปลี่ยนเราให้เป็นภาพลักษณ์ของพระองค์ ถ้าหากเราพลาดสิ่งนี้ไป, ก็เท่ากับเราได้สูญเสียทุกสิ่ง!ไม่ว่าเราจะทำงานหนักแค่ไหนในอาชีพการงานหรืออย่างอื่น
 
ทุกสิ่งจะผ่านพ้นไป เว้นแต่การงานด้านจิตวิญญาณ และงานนั้นจะนำไปสู่อาณาจักรสวรรค์ เมื่ออยู่ที่นั่นเราจะไม่นั่งอยู่เฉยๆเพียงแค่มองดูคนที่เรารักหรือเหล่ามวลมนุษยชาติ ถ้าเหล่าทูตสวรรค์ชื่นชมยินดีเมื่อคนบาปคนหนึ่งกลับใจ ย่อมแสดงว่าท่านรู้จักคนบาปคนนั้น ท่านรู้ว่าเขาได้ทำอะไรลงไป และท่านจะต้องสวดอ้อนวอนให้เขา เพื่อชื่นชมยินดีเมื่อเขากลับใจ หากทูตสวรรค์ทำเช่นนี้ เราซึ่งอยู่ท่ามกลางมนุษย์และรู้จักคนจำนวนมากในขณะที่อยู่บนโลกนี้ ก็จะทำเช่นเดียวกับทูตสวรรค์ด้วย
 
“การเตรียมตัวเพื่อพระอาณาจักรในสวรรค์เป็นงานที่ยิ่งใหญ่และลำบากที่สุดบนโลกนี้ แต่เราจะทำงานอันมีเกียรติที่สุดนั้นต่อไปในสวรรค์ ขอสรรเสริญพระเจ้า” คุณแม่แองเจลิกา 

****************************


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น