วันศุกร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2562

ทูตสวรรค์ถูกสร้างขึ้นเมื่อไร?



ในพระคัมภีร์ได้พูดถึงทูตสวรรค์ผู้นำสารของพระเจ้าอยู่เสมอมาโดยตลอด แต่การกำเนิดของพวกท่านนั้นเป็นเรื่องลึกลับมาก พระคัมภีร์ได้เขียนเกี่ยวกับทูตสวรรค์ไว้น้อยมาก ถึงแม้จะมีเขียนถึงเหล่าทูตสวรรค์ แต่ต้นกำเนิดของพวกท่านยังคงลึกลับ
 
พระคัมภีร์ได้กล่าวไว้หรือไม่ว่าพระเจ้าสร้างทูตสวรรค์(เทวดา) เมื่อไร ?
 
พูดตามตรงคือ “ไม่” พระคัมภีร์ไม่ได้บอกเลยว่า “พระเจ้าทรงสร้างทูตสวรรค์ณ เวลาใดเวลาหนึ่งในประวัติศาสตร์” อย่างไรก็ตามมีเงื่อนงำบางอย่างที่อาจชี้นำเราไปในทิศทางที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนี้
 
"ทูตสวรรค์ของพระเจ้า" ที่พระคัมภีร์กล่าวถึงองค์แรกคือซาตาน ที่ถูกเรียกว่า “งูร้าย” ในหนังสือปฐมกาล ต่อมาพระคัมภีร์ได้เล่าว่า ซาตานซึ่งเป็นสิ่งสร้างฝ่ายจิตกลับไม่ยอมเชื่อฟังพระเจ้าในช่วงเวลาหนึ่งที่ไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน คำสอนของพระศาสนจักรคาทอลิกอธิบายว่า “ในตอนแรกซาตานเป็นทูตสวรรค์ที่ดีที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้น: 'มารและปีศาจอื่นๆถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้าให้มีธรรมชาติที่ดีงาม แต่พวกเขากลับกลายเป็นจิตที่ชั่วร้ายด้วยตัวของพวกเขาเอง” (CCC 391)
 
จากข้อความนี้เป็นที่ชัดเจนว่าการตกต่ำของซาตานและพรรคพวกปีศาจของเขาเกิดขึ้นก่อนการตกต่ำของอาดัมและเอวาในสวนเอเดน ดังนั้นทูตสวรรค์จึงถูกสร้างขึ้นมาก่อนวันที่หกของการเนรมิตสร้างของพระเจ้า
 
หนึ่งในทฤษฎีที่น่าเชื่อถือที่สุดระบุว่าทูตสวรรค์ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นในวันที่หนึ่งของการเนรมิตสร้าง และการตกต่ำของซาตานเกิดขึ้นเมื่อพระเจ้าทรงแยกความสว่างออกจากความมืด
 
นักบุญออกัสตินอธิบายถึงทฤษฎีนี้ในหนังสือชื่อ City of God (นครแห่งพระเจ้า)
 
เพราะเมื่อพระเจ้าตรัสว่า “จงมีความสว่าง ความสว่างก็บังเกิดขึ้น” เรามีความชอบธรรมที่จะเข้าใจว่า ความสว่างที่ถูกสร้างขึ้นนี้ก็คือทูตสวรรค์อย่างแน่นอน พวกท่านถูกสร้างขึ้นให้มีส่วนร่วมในแสงสว่างนิรันดรซึ่งคือพระปรีชาญาณของพระเจ้าที่ไม่เปลี่ยนแปลง สิ่งทั้งปวงที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้ที่เราเรียกว่าพระบุตรองค์เดียวของพระเจ้า; เพื่อที่พวกเขาได้รับความสว่างจากองค์ความสว่างที่ทรงสร้างพวกเขาขึ้นมา ทำให้พวกเขากลายเป็นแสงสว่างและถูกเรียกว่า "วัน" เพื่อทำให้พวกเขามีส่วนร่วมกับองค์ความสว่างและวันที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงนี้ซึ่งเป็นพระวจนะของพระเจ้า ผู้ทรงเป็นผู้สร้างพวกเขาและสร้างสิ่งอื่นๆทั้งปวง
 
สิ่งนี้ดูเหมือนจะสมเหตุสมผลเพราะ “ดวงอาทิตย์” และ “ดวงจันทร์” นั้นถูกสร้างขึ้นในวันที่สี่ ไม่ใช่ในวันแรก แต่ทูตสวรรค์ในขณะที่ถูกสร้างขึ้นมาในวันแรกถูกเรียกว่า “วัน” คำสอนของพระศาสนจักรเองก็ยืนยันว่า “ทูตสวรรค์ปรากฏอยู่ตั้งแต่การเนรมิตสร้างและดำรงอยู่ตลอดประวัติศาสตร์แห่งความรอด” ทูตสวรรค์ยังคงมีบทบาทต่อชีวิตของเรามนุษย์ในโลกทุกวันนี้และตลอดไป ถึงแม้ว่าพวกเราจะมองไม่เห็นพวกท่านด้วยสายตาของเราก็ตาม

"ทูตสวรรค์" โดย คุณพ่อ ไพบูลย์ อุดมเดช C.Ss.R.
 
เทวัญดีเรียก"ทูตสวรรค์" เทวัญร้ายเรียก"ปีศาจ"
 
ถ้าหากจะเอาพระคัมภีร์เป็นข้ออ้างเราก็ต้องยอมรับว่า แม้แต่สมาชิกสวรรค์ก็มีสิทธิ์ทำผิดได้เช่นเดียวกันกับมนุษย์ สมาชิกสวรรค์ที่ดีเราเรียกว่า "ทูตสวรรค์" สมาชิกสวรรค์ที่ร้ายเราเรียกว่า ผีหรือปีศาจ ธรรมเนียมที่สอนให้เราเรียกหาทูตสวรรค์นั้นจึงหมายถึงให้เรียกหาเทวัญที่ดีมาช่วยปกป้องคุ้มครองเรา แต่ปัญหาคือเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเทวัญองค์ไหนดีองค์ ไหนร้าย? คำตอบคือยากมาก และเช่นนี้เองจึงลำบากและวุ่นวายยิ่งในธรรมเนียมการใ ห้ความเคารพต่อสมาชิกชาวสวรรค์ดังกล่าว แต่ผู้รู้ก็ชี้แนะว่า เทวัญใดที่นำเราไปสู่พระเจ้านั่นคือทูตสวรรค์ เทวัญไหนที่พาเราเข้าหาตัวเองและตกเป็นทาสของมันเทวัญนั้นคือ ปีศาจ มันจะครอบครองเจตจำนงเสรีของเราและไม่ให้เรามีอิสรภาพในการตัดสินใจเลือกตามใจได้
 
ธรรมเนียมที่ควรรื้อฟื้น
 
เมืองไทยเรามักจะให้น้ำหนักและความสำคัญกับคำว่า ผี มากเกินไปมากกว่าคำว่า ทูตสวรรค์ เสียอีก คำว่าผีนั้นมีนัยยะของอันตรายและความชั่วร้ายแฝงอยู่ ถึงเวลาหรือยังที่เราจะมองจิตทั้งหลายในทางที่ดี มองด้วยสายตาที่ว่าเราอยู่ร่วมโลกเดียวกัน (แม้จะคนละมิติ) นอกจากนั้นมนุษย์เราเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าทูตสวรรค์เลย นักบุญโทมัสบอกว่า ทูตสวรรค์นั้นต่างกันที่ระดับความรักและเคารพต่อพระเจ้า โดยธรรมชาติทูตสวรรค์เป็นจิตเหมือนกัน แต่สูงต่ำอยู่ที่การรักพระเจ้ามากน้อยต่างกัน จากจุดนี้เองมนุษย์สามารถยกระดับตัวเองให้สูงกว่าทูตสวรรค์ได้หากเราให้พระเจ้ามามีบทบาทในชีวิตมากกว่าสิงอื่นใด รักพระเจ้าด้วยสิ้นสุดจิตใจ ให้น้ำพระทัยของพระเจ้ามาก่อน แสวงหาสิริมงคลของพระองค์ในแต่ละวัน อุทิศชีวิตเพื่อความดีงามของพระเจ้า นำพาผู้อื่นมาสู่พระเจ้าผู้ทรงเป็นความดีงามและความจริง บทบาทเช่นนี้ถ้าหากเราทำได้ชัดเจนเราก็ยกระดับของตัวเองให้สูงส่งยิ่งกว่าทูตสวรรค์และเราจะใกล้ชิดพระเจ้ ายิ่งกว่าทูตสวรรค์บางหมู่คณะด้วยซ้ำไป
 
ธรรมเนียมเช่นนี้เองที่เราสั่งสอนกันมาและน่าจะนำมารื้อฟื้นกันใหม่ การวอนขอทูตสวรรค์ไม่ใช่สิ่งที่เสียหายอะไร ตรงข้ามควรส่งเสริม กระนั้นก็ตามแทนที่เราจะพึ่งทูตสวรรค์ในทุกสิ่งทุกอย่าง หากเราเอาหน้าที่ของทูตสวรรค์มาปฏิบัติเองก็จะยิ่งช่วยยกฐานะของเราให้สูงขึ้นทูตสวรรค์ทั้งปวงคงไม่ริษยาหรอกแถมจะยำเกรงเราด้วยซ้ำไป แต่ก็ต้องตระหนักว่าหน้าที่นั้นต้องมีเป้าหมายอยู่ที่พระเจ้า ให้พระองค์เป็นใหญ่กว่าทุกสิ่ง เหนือทุกสิ่ง และเราต้องไม่ลืมว่าเราคือมนุษย์ เป็นสิ่งสร้าง เราไม่มีวันที่จะเป็นเหมือนพระเจ้าได้ เพราะถ้าเราหลงในความดีของตัวเองเราก็จะไม่ผิดอะไรกับซาตานหรือเทวัญตกสวรรค์นั่นเอง และถ้าเราเป็นเหมือนปีศาจในคราบมนุษย์เช่นนี้แล้ว เราจะอยู่ในหมวดใดของของสมาชิกอาณาจักรสวรรค์ที่พระเยซูเจ้าเสด็จมาประกาศเล่า?
 
ลำดับชั้นของทูตสวรรค์ - จากวิกิพีเดีย
 
คณะเสราฟิม (Seraphim)
 
ทูตสวรรค์ในพันธสัญญาเดิม รากศัพท์มาจากคำว่า seraph อันแปลว่าลุกไหม้ ที่ได้ชื่อนี้เพราะมีแสงสว่างอันเจิดจ้า ราวกับกำลังจะลุกไหม้ มีร่างกายสูงใหญ่ มี 6 ปีก 1 คู่สำหรับบิน 1 คู่สำหรับปกป้องดวงตาจากการมองพระเป็นเจ้าโดยตรง และอีก1 คู่สำหรับปกคลุมเท้า เสราฟิมมักจะอยู่รายรอบบัลลังค์แห่งพระเจ้า ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าที่เรียกว่า "the Thrice Holy" เป็นบทเพลงสรรเสริญพระเจ้า

คณะเครูบหรือ เชรูบ (Cherubim)
 
เครูบมีหน้าที่ดูแลและสนับสนุนบัลลังก์แห่งพระเจ้า หรือทำหน้าที่เป็นผู้คุ้มครองดูแล ปรากฏในหนังสือเอเสเคียล (the book of Ezekiel) ว่าเป็นผู้ค้ำจุนบัลลังก์แห่งพระเจ้า และ กองทหารรถศึกของพระเจ้า ปรากฏในหนังสือปฐมกาล ในฐานะผู้ดูแลสวนเอเดน และป้องกันไม่ให้มนุษย์กลับมายังสวนอีเดนอีกครั้ง บางครั้งทูตสวรรค์ในระดับนี้ก็ปรากฏตัวในรูปแบบของความเมตตากรุณาด้วย ในคติความเชื่อของยิวและคริสต์ เครูบ เป็นทูตสวรรค์ระดับถัดมาจากเสราฟิมมี 4 ปีก 4 ใบหน้า ได้แก่ มนุษย์ วัว สิงโต อินทรี โดยปกติจะสวมชุดยาวสีน้ำเงิน ในขณะที่เสราฟิม สวมสีแดง
 
คณะบัลลังก์ หรือ อาสนเทพ/โอฟานิม (Thrones)
 
ตามตำนานของชาวยิวเทวัญคณะนี้มี 70 ตำแหน่ง คอยปกป้องพระบัลลังก์ของพระยาห์เวห์เทวัญเหล่านี้บางองค์ได้มีส่วนสมคบกันก่อกบฏต่อพระเจ้าและได้กลายเป็นปีศาจหรือเทวทูตตกสวรรค์ไปก็มี จะเห็นได้ว่าแม้สมาชิกสวรรค์เองก็เห็นผิดเป็นชอบได้เหมือนกัน
 
ชั้นโท วงศ์ที่ 2 ประกอบไปด้วย
 
คณะหัวหน้า (ขัตติยเทพ:Dominations)
 
ทูตสวรรค์คณะนี้มีหน้าที่คอยจัดสรรและมอบหมายหน้าที่การทำงานให้แก่บรรดาเทวดาต่าง ๆ ให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระเจ้า สัญลักษณ์แห่งอำนาจของพวกเขาคือ คฑาและลูกโลก
 
คณะคุณธรรม (ธรรมเทพ/ความดี:Virtues)
 
ตามตำนานของชาวยิว หน้าที่หลักของทูตสวรรค์คณะนี้คือการทำอัศจรรย์ต่าง ๆ ในโลก บทบาทนี้พบได้ในหนังสือกิจการของอัครสาวก 1.10
 
คณะอำนาจ (อิทธิเทพ:Powers)
 
ทูตสวรรค์หมวดนี้มีหน้าที่ดังทหารกล้าคอยต่อสู้กับปีศาจ และคอยปกป้องโลกไม่ให้ตกอยู่ใต้อำนาจของปีศาจ แต่บางครั้งก็พลาดท่าตกเป็นตัวร้ายเสียเองก็มี เช่นที่บันทึกไว้ในจดหมายถึงชาวโรม 8.38-39
 
ชั้นตรี วงศ์ที่ 3

คณะปกครอง (ศักดิเทพ:Principalities)
 
ชื่อของทูตสวรรค์หมวดนี้มาจากภาษากรีกเก่าซึ่งแปลได้ว่า ผู้ปกครอง (Rulers) หน้าที่ของพวกเขาคือคอยปกป้องศาสนา คอยดลใจบรรดาผู้นำประชาชนให้ตัดสินใจนำผู้อื่นไปในทางที่ถูกต้องในพระคัมภีร์กล่าวถึงเทวัญ กลุ่มนี้ว่าเกี่ยวข้องกับอำนาจทั้งทางดีและร้าย (อฟ 6.12: 2.22) มีประมุขได้แก่ อนาเอล ฮามิเอล และ Nisroch (ต่อมาได้กลายเป็นเทพตกสวรรค์) ว่ากันว่า ฮามิเอลเป็นผู้มารับผู้เผยพระวจนะเอโนค (Enoch) พามาสู่สรวงสวรรค์หลังจากที่เอโนคถึงแก่กรรม ทูตสวรรค์องค์อื่น ๆ ในวงศ์นี้ ได้แก่ Cervill (เซอร์วิลล์) มีชื่อว่าเป็นเจ้าชายแห่งความแข็งแรง ผู้ช่วยเหลือกษัตริย์ดาวิดในสงครามที่ปะทะกับ โกลิอัท
 
คณะอัครทูตสวรรค์ (Archangels)
 
Archangels ถ้าแปลตามตำแหน่งแปลได้ว่าหัวหน้าทูตสวรรค์ แต่หน้าที่จริง ๆ นั้นไม่มีใครทราบ มีบันทึกถึงบทบาทและชื่อของอัครทูตสวรรค์เหล่านี้ว่ามี อัครทูตสวรรค์มีคาเอล (ปราบทูตสวรรค์กบฏอื่น ๆ) ราฟาเอล (ปรากฏในหนังสือโทบิต) ทูตสวรรค์กาเบรียล (ช่วยดาเนียลเข้าใจนิมิตที่เห็น และเป็นผู้แจ้งสาส์นแก่พระนางมารีย์ถึงการรับเอากายของพระบุตร) หนังสือเอโนคบทที่ 1 กล่าวว่าทูตสวรรค์คณะนี้มี 7 องค์คือ มีคาเอล กาเบรียล ราฟาเอล อูรีเอล ซารีเอล เรมีเอล ราเกล
 
คณะทูตสวรรค์ (Angels)
 
คำว่า "ทูตสวรรค์" ที่ใช้และพบทั่วไปในพระคัมภีร์อยู่หมู่ทูตสวรรค์คณะนี้ ทูตสวรรค์คณะนี้มีมากมายและมีหน้าที่หลายอย่างเช่น คอยปกป้องดูแลมนุษย์ (อารักขเทวดา)

***************************

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น