วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2562

โลกยุคใหม่

 

     วิกก้าแสดงออกบนใบหน้าที่ร่าเริงของเธอเป็นการบ่งบอกว่าชีวิตบนโลกจะอยู่ในยุคใหม่ที่แม่พระทรงทำนายไว้ เธอพูดไว้ว่า
 
“วันหนึ่งความลับทั้ง 10 ข้อจะกลายเป็นอดีต เมื่อถึงเวลานั้นโลกจะแตกต่างไปจากเดิมมาก โลกจะดีขึ้น ความลับเป็นเครื่องหมายของจุดสิ้นสุดของยุคนี้และรุ่งอรุณของยุคใหม่
นี่จะเป็นยุคใหม่ ยุคแห่งสันติภาพ ดังนั้นจึงเป็นที่เข้าใจกันทั่วไปแล้วว่าทำไมพระแม่มารีย์จึงทรงเรียกพระนางว่า ราชินีแห่งสันติภาพ เมื่อพระนางประจักษ์มาครั้งแรกในเมดจูกอเรจ์
ในยุคใหม่, มนุษยชาติจะมีชีวิตในความสัมพันธ์ใหม่ที่ดีกับพระเจ้า พระเยซูเจ้าจะทรงครอบครองจิตใจของมนุษย์ทั้งมวล
แต่ในสภาวะบาปของมนุษยชาติในปัจจุบันนี้ จึงทำให้มนุษยชาติยังไม่พร้อมสำหรับสิ่งนี้ ดังนั้นจุดประสงค์สูงสุดของลำดับความลับทั้งหมดก็คือการชำระล้างจิตใจมนุษย์ให้บริสุทธิ์และทำให้มนุษย์มีความถ่อมตน, นำมนุษยชาติกลับสู่ความมีมโนธรรมและฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ให้ดีขึ้น”
 
มารีจา พาฟวโรวิค (Marija Pavlovic)ผู้เห็นแม่พระอีกผู้หนึ่งกล่าวในปี 1988

“ฉันมีทัศนคติในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคต หากเราทุกคนเริ่มดำเนินชีวิตตามสาส์นของพระแม่มารีย์ โลกยุคใหม่ก็จะเกิดขึ้น” ดังนั้นความลับจึงหมายถึงจุดสิ้นสุดของการที่ซาตานยึดกุมมนุษยชาติไว้ในมือของมัน
 
ดราจิเซวิค(Dragicevic) ได้รับการบอกกล่าวในปีที่สองของการประจักษ์ว่า: “ ศตวรรษนี้อยู่ภายใต้อำนาจของปีศาจ แต่เมื่อความลับที่บอกกับคุณเกิดขึ้น อำนาจของมันจะถูกทำลาย (พูดไว้ในปี1982; แต่ไม่ทราบวันที่แน่นอน)
 

มีเพียงคำทำนายของแม่พระแห่งฟาติมาประการเดียวที่เหลืออยู่และต้องเกิดขึ้น นั่นคือ “ในที่สุดดวงหทัยนิรมลของแม่จะได้รับชัยชนะ” (ฟาติมา 13 กรกฎาคม 1917) 74 ปีต่อมาในเมดจูกอเรจ์ พระแม่มารีย์ทรงเปิดเผยว่าเวลาแห่งชัยชนะของพระนางใกล้เข้ามาแล้ว:“แม่ขอเชื้อเชิญพวกลูกให้ทำนพวารเป็นเวลาเก้าวัน เพื่อที่โดยอาศัยความช่วยเหลือของลูก, ทุกสิ่งที่แม่ต้องการให้ลูกตระหนักถึงสิ่งที่อยู่ในความลับซึ่งแม่เริ่มไว้ที่ฟาติมาจะได้สำเร็จไป” (25 สิงหาคม 1991) 
 
คุณพ่อ โจโซ ซอฟโก (Fr. Jozo Zovko) ทำนายเนื้อหาที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นของชัยชนะแห่งดวงหทัยนิรมลของแม่พระไว้ด้วย บางครั้งท่านถูกเรียกว่า “ผู้เห็นแม่พระคนที่เจ็ด” เพราะในช่วงการประจักษ์ครั้งแรก, ท่านได้มีประสบการณ์ที่ลึกลับเกิดกับตัวท่านด้วย เมื่อวันที่ 23 เมษายน 1992 ท่านบอกกับแม่ชีชาวฝรั่งเศสชื่อ ซิสเตอร์เอมมานูเอล ไมลาร์ด ว่า “การสิ้นสุดของสงครามโลกซึ่งเกิดในยุโรป เป็นการเริ่มต้นของลัทธิคอมมิวนิสต์ และที่นี่ , คำทำนายของฟาติมาเกี่ยวกับการกลับใจของโลกและการล่มสลายของระบอบคอมมิวนิสต์ที่ไม่มีพระเจ้าก็เริ่มเป็นจริง”

“และที่นี่ที่ซึ่งลัทธิคอมมิวนิสต์และความชั่วร้ายได้หยั่งรากลึกที่สุด, ที่นี่ที่ซึ่งพระแม่มารีย์ประจักษ์มาเป็นเวลาสิบปี, ที่นี่จะเป็นสถานที่เกิดสิ่งพิเศษที่ยิ่งใหญ่นั่นคือ: ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ - ชัยชนะแห่งดวงหทัยนิรมลของพระแม่มารีย์ การตกต่ำของความผิดพลาดของมนุษย์, การเปลี่ยนแปลงในหัวใจของมนุษย์, การสร้างจิตสำนึกใหม่, จุดเริ่มต้นของโลกที่ดีกว่า
 
มีรยานา : อย่ากลัวที่จะมีลูก
ในขณะที่การล่วงรู้ความลับของเธอทำให้เธอต้องแบกกางเขนที่หนักหน่วงไว้ แต่เธอยังมีความสุขที่ได้ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับชัยชนะแห่งดวงหทัยนิรมลของแม่พระ เพราะเหตุที่ผู้เห็นแม่พระได้ล่วงรู้ความลับและรู้เรื่องในอนาคต ประชาชนหลายคนจึงรู้สึกตื่นเต้นต่อเรื่องนี้และกังวลว่าพวกเขาสมควรจะแต่งงานและมีลูกหรือไม่ มีบางอย่างที่ช่วยบรรเทาใจเมื่อ อิวานกาบุคคลแรกที่เห็นแม่พระ ได้กลายเป็นคนแรกที่มีลูกด้วยเช่นกัน ทุกวันนี้ผู้เห็นแม่พระทุกคนมีลูกของตนเอง ซึ่งนับจำนวนทั้งหมดได้ถึง 17 คน มีรยาน่าพูดว่าประชาชนจะทำผิดพลาดถ้าพวกเขาเลือกที่จะไม่มีลูก เธอพูดในระหว่างการสนทนากับ Sr. Emmanuel Maillard แม่ชีชาวฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่ใน Medjugorje ตั้งแต่ปี 1989:
 
Sr. Emmanuel: “เมื่อวานเธอได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงสาส์นจากแม่พระ ตัวอย่างเช่น:“ อย่ากลัวที่จะมีลูก แต่ลูกควรจะกลัวว่าจะไม่มีมากกว่า! ยิ่งลูกมีลูกมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น!”
Mirjana ตอบ: “ใช่ค่ะ พระนางตรัสอย่างนั้น และพระนางทรงทราบดีว่าทำไมจึงตรัสอย่างนั้น ฉันก็รู้เช่นกัน…. แต่ฉันไม่สามารถบอกซิสเตอร์ได้มากกว่านี้” 
Sr. Emmanuel: “โอ้…เธอรู้ด้วยหรือนี่…!”
Mirjana (พยักหน้า, ยิ้มด้วยความมั่นใจในศรัทธาที่แข็งแกร่ง):“ เมื่อความลับถูกเปิดเผย ประชาชนจะเข้าใจว่าทำไมจึงมีความสำคัญที่พวกควรมีลูกหลายคน. เราทุกคนกำลังรอชัยชนะแห่งดวงหทัยนิรมลของพระแม่มารีย์”
 
พระเยซูเจ้าจะครองราชย์ในหัวใจทุกดวง 
ภารกิจของพระแม่มารีคือการนำพระเยซูเข้ามาในโลก พระนางได้รับอำนาจและทุกสิ่งจากพระเยซูเจ้า ด้วยอำนาจนี้และความรักที่พวกเรามีต่อกัน พระแม่จะทรงนำทุกคนมาหาพระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้าเป็นเป้าหมายสำหรับทุกสิ่งที่พระนางทรงกระทำ ดังนั้นดวงหทัยของพระแม่มารีย์ไม่สามารถกล่าวได้ว่ามีชัยชนะแล้ว จนกว่าหัวใจมนุษย์ทุกคนจะได้มาอยู่ในความรักและสันติสุขของพระเยซูเจ้า นี่คือเหตุผลที่พระแม่ทรงประจักษ์ในเมดจูกอเรจ์ เพื่อการกลับใจของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นี่เป็นเหตุผลที่เชื่อมโยงชัยชนะของพระแม่มารีย์กับการที่พระเยซูเจ้าจะทรงสถิตย์ในหัวใจมนุษย์ทั้งมวล
 
ชัยชนะแห่งดวงหทัยนิรมลของพระแม่มารีย์จะนำมาซึ่งยุคแห่งสันติภาพ 
แต่มันไม่ได้มาโดยผ่านทางนักการเมือง แต่ได้มาจากการที่มนุษยชาติมีสันติสุขกับพระเจ้า บรรยากาศที่เงียบสงบเป็นเอกลักษณ์ของเมดจูกอเรจ์ เป็นหน้าต่างที่เปิดไปสู่ยุคต่อไป ผู้แสวงบุญหลายล้านคนได้รับประสบการณ์ความสงบสุขนี้ พวกเขา "เก็บรักษา" ไว้ในใจและนำ กลับไปที่บ้านโดยผ่านการกลับใจส่วนบุคคล, ผ่านการเป็นพยานและการสวดภาวนาของผู้ที่มาที่เมดจูกอเรจ์ ดังในสาส์นของแม่พระ:
 
"ลูก ๆ ที่รัก! วันนี้แม่มีความสุขที่ได้เห็นพวกลูกจำนวนมากเช่นนี้ พวกลูกได้ตอบสนองและได้มาเพื่อดำเนินชีวิตตามสาส์นของแม่ แม่ขอเชื้อเชิญพวกลูก, ลูกน้อยทั้งหลาย, ให้เป็นผู้นำสันติภาพไปสู่โลกแห่งความยากลำบากของทุกวันนี้ จงสวดภาวนาเพื่อสันติภาพ, เพื่อให้เวลาแห่งสันติภาพที่ดวงหทัยของแม่กำลังรอคอยจะได้ครอบครอง” (25 มิถุนายน 1995)
 
“ลูกๆ ที่รักทั้งหลาย! นี่เป็นช่วงเวลาแห่งพระหรรษทานที่ยิ่งใหญ่ แต่ก็เป็นช่วงเวลาแห่งการทดลองที่ยิ่งใหญ่สำหรับทุกคนที่ปรารถนาจะเดินตามแนวทางแห่งสันติภาพเช่นกัน ด้วยเหตุนี้, ลูกน้อยทั้งหลาย, แม่จึงขอให้ลูกสวดภาวนา สวดภาวนา ไม่ใช่ด้วยคำพูด แต่ด้วยหัวใจ จงดำเนินชีวิตตามสาส์นของแม่และกลับใจ จงสำนึกในพระพรนี้ที่พระเจ้าทรงอนุญาตให้แม่มาอยู่กับลูก โดยเฉพาะในวันนี้ เมื่อในอ้อมแขนของแม่มีพระกุมารเยซูผู้ทรงเป็นราชาแห่งสันติภาพ แม่ปรารถนาที่จะมอบสันติภาพให้แก่ลูก ลูกจงรับไว้ในหัวใจของลูกและนำไปมอบให้แก่ผู้อื่นจนกว่าสันติภาพของพระเจ้าจะเริ่มครอบครองโลก ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่” (25 ธันวาคม 2002)

***************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น