วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ฟาติมาและอากิตะ



จนถึงทุกวันนี้สาส์นจากการประจักษ์ของพระแม่มารีย์ที่อากิตะซึ่งได้รับการรับรองจากพระศาสนจักรคาทอลิกแล้วว่าเป็นจริง ถูกหลายคนมองว่ามีคำทำนายเกี่ยวกับการลงโทษในอนาคตต่อมนุษยชาติทั้งมวล และมีชาวคาทอลิกจำนวนมากที่คิดว่าคำทำนายแห่งอากิตะนั้นเรียกว่า "ความลับข้อที่สี่ของฟาติมาที่ถูกซ่อนไว้" อากิตะและฟาติมาได้รับการพิจารณาว่าเป็นการประจักษ์ของแม่พระที่โดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักรคาทอลิก และน่าสังเกตอีกประการหนึ่งคือสถานที่ตั้งของฟาติมาและอากิตะนั้นอยู่ในระนาบเดียวกัน (ตามรูปแผนที่)

สาส์นแม่พระแห่งอากิตะ
“ตามที่แม่ได้บอกลูกไว้แล้ว ถ้ามนุษย์ยังไม่กลับใจและเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น พระบิดาจะทรงส่งการลงทัณฑ์ครั้งยิ่งใหญ่มาเหนือมนุษยชาติทั้งปวง มันจะเป็นการลงทัณฑ์ที่ใหญ่กว่าคราวน้ำท่วมโลก อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ไฟจะตกลงมาจากท้องฟ้าและกำจัดมนุษยชาติส่วนใหญ่ให้หายไป ทั้งคนดีและคนเลว, ไม่เว้นแม้แต่พระสงฆ์หรือผู้สัตย์ซื่อ คนที่รอดชีวิตจะพบเห็นแต่ความรกร้างว่างเปล่าและจะอิจฉาคนที่เสียชีวิตแล้ว อาวุธเพียงอย่างเดียวที่ยังคงเหลืออยู่สำหรับลูกคือสายประคำและเครื่องหมายขององค์พระบุตรของแม่ จงสวดสายประคำทุกวัน ด้วยสายประคำนี้จงสวดสำหรับพระสันตะปาปา บิชอปและพระสงฆ์
 
ผลงานของปีศาจจะแทรกเข้าไปแม้แต่ในพระศาสนจักร โดยจะทำให้พระคาร์ดินัลขัดแย้งกับพระคาร์ดินัล บิชอปขัดแย้งกับบิชอป พระสงฆ์ที่เคารพนับถือแม่จะถูกดูหมิ่นและถูกกดขี่ข่มเหงโดยผู้ใหญ่ของพวกเขาเอง โบสถ์และพระแท่นจะถูกทำลาย ในพระศาสนจักรจะเต็มไปด้วยคนที่ยอมรับการประนีประนอม ปีศาจจะกดดันพระสงฆ์จำนวนมากและบรรดาผู้ที่ถวายตนให้ละทิ้งการรับใช้พระเจ้า”

มีข้อเท็จจริงที่รู้จักกันน้อยที่เกี่ยวข้องกับการประจักษ์แห่งอากิตะนั่นก็คือ เครื่องหมายแห่งความหวังที่ลึกลับของหมายเลข 101 ซึ่งเป็นเครื่องหมายแห่งชัยชนะของความดีเหนือความชั่ว หมายเลข 101 ได้ถูกมอบให้ซิสเตอร์ซาซากาว่าเมื่อสิ้นสุดการประจักษ์แห่งอากิตะ ซึ่งประกอบด้วยสาส์นของแม่พระที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากพระศาสนจักรคาทอลิก

ในปี 1973 ซิสเตอร์อักเนส ซาซากาว่าได้รายงานการประจักษ์มาของพระแม่มารีย์และรอยแผลบนพระรูปแม่พระ พระรูปพระแม่มารีย์ที่ทำด้วยไม้ได้ร้องไห้ ซึ่งกล่าวกันว่ายังคงร้องไห้ต่อไปอีก 6 ปีและนับจำนวนได้ 101 ครั้ง แม่ชีที่ Yuzawadai ยังรายงานถึงรอยแผลบนมือของพระรูปรวมทั้งรอยแผลบนมือของซิสเตอร์อักเนสด้วย รอยแผลได้ปรากฏบนพระรูปแม่พระก่อนที่น้ำตาจะเริ่มไหลและหายไปหลังจากหยุดไหลแล้ว

ตามรายงานกล่าวว่า วันหนึ่ง ”อารักขเทวดา” ของซิสเตอร์อักเนสได้ปรากฏต่อเธอภายในคอนแวนต์ ท่านมาพร้อมด้วยพระคัมภีร์ถือไว้ในมือ ท่านเปิดพระคัมภีร์ออกและชี้ไปที่ข้อความซึ่งซิสเตอร์อักเนสจำได้ทันที เป็นข้อความในพระคัมภีร์ปฐมกาล 3;15 เขียนว่า

“เราจะสร้างความเป็นศัตรูกันระหว่างเจ้าและสตรีผู้นั้น...และระหว่างพงศ์พันธ์ของเจ้ากับพงศ์พันธ์ของนางด้วย เขาจะเหยียบหัวของเจ้าส่วนเจ้าจะขบส้นเท้าของเขา”

เทวดาอธิบายให้ซิสเตอร์ฟังว่า “หมายเลข 101 มีความหมายว่าบาปได้เข้ามาสู่โลกโดยสตรีผู้หนึ่ง และโดยสตรีอีกผู้หนึ่งจะนำความรอดมา เลข 0 ที่อยู่ระหว่างเลข 1 สองตัว หมายถึงพระเจ้าผู้ทรงเป็นนิรันดร ทรงดำรงอยู่ตลอดนิรันดรกาล เลข 1 ตัวแรกคือ เอวา และเลข 1 ตัวที่สองคือพระนางพรหมจารีย์มารีย์”

คุณพ่อยาซูดะ ซึ่งเป็นผู้แนะนำฝ่ายวิญญาณของซิสเตอร์อักเนส ได้ให้ความคิดเห็นว่าข้อความในพระคัมภีร์ปฐมกาลอาจพิจารณาได้ว่าเป็นพระสัญญาแรกของพระเจ้าที่จะประทานพระผู้ไถ่แก่มนุษยชาติ และเป็นข้อความแรกในพระคัมภีร์ที่กล่าวถึงการปฏิสนธินิรมลของพระนางมารีย์ผู้ที่ไม่เคยอยู่ใต้อำนาจของซาตาน

ซิสเตอร์อักเนสได้บอกว่า ในสาส์นแรกของแม่พระนั้น แม่พระทรงขอให้เธอสวดภาวนาบทแสดงความทุกข์พร้อมกัน และทรงบอกเธอในปี 1973 ว่าหูที่หนวกของเธอจะได้รับการรักษาให้หาย พระแม่ทรงขอให้เธอสวดสายประคำเพื่อการกลับใจของคนบาป สาส์นที่สองเป็นดังนี้

“มนุษย์จำนวนมากในโลกนี้ได้ทำให้พระเยซูเจ้าทรงขัดเคืองพระทัย แม่ปรารถนาวิญญาณที่จะช่วยปลอบประโลมพระทัยพระองค์ เพื่อทำให้พระพิโรธของพระบิดาเบาลง ความปรารถนาของแม่และขององค์พระบุตรคือให้มีวิญญาณที่จะช่วยชดเชยใช้โทษเพื่อคนบาปและคนอกตัญญูทั้งหลายโดยอาศัยความทุกข์และความยากจนของพวกเขา"
 
สาส์นที่สามเป็นการเตือนถึงหายนะภัยที่อาจเกิดขึ้นถ้าหากมนุษย์ไม่กลับใจเปลี่ยนแปลงชีวิตของตน และย้ำถึงความจำเป็นในการสวดสายประคำ และแม่พระตรัสว่านี่เป็นสาส์นสุดท้ายสำหรับซิสเตอร์อักเนสและตรัสเป็นครั้งสุดท้ายว่า

“ผู้ที่วางความไว้ใจของเขาในแม่จะได้รับการช่วยให้รอด”

ระหว่างพิธีมิสซาในปี 1982 หูหนวกของซิสเตอร์อักเนสก็หายเป็นปกติ บิชอปยอห์น โชจิโร อิโตะ แห่งสังฆมณฑลนิกาตะได้รับรองการประจักษ์ในปี 1984 ท่านยังได้เห็นเป็นพยานถึงเหตุการณ์ในอากิตะด้วย ในปี 1988 ท่านบิชอปได้ไปที่โรมและปรึกษากับพระคาร์ดินัล โจเซฟ รัธซิงเกอร์ (พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16) เพื่อให้การรับรองแม่พระแห่งอากิตะและเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ

ท่านบิชอปพูดว่า “สาส์นแห่งอากิตะคือสาส์นแห่งฟาติมา”

แม่พระแห่งอากิตะยังได้บอกกับซิสเตอร์อักเนสให้รับศีลมหาสนิทในปากเท่านั้น ไม่ให้รับศีลในมือ


**************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น