ไมเคิล เอช บราวน์ ได้เดินทางไปยังสถานที่สำคัญซึ่งแม่พระทรงประจักษ์มาหลายแห่งทั่วโลกและได้ถ่ายภาพเก็บไว้ หลังจากผ่านไปเป็นเวลานานและนำภาพเก่าออกมาดู มันก็ยังเป็นสิ่งที่น่าสนใจอยู่
ตัวอย่างเช่น เมื่อครั้งที่ไปที่ยูเครน สถานที่เรียกว่า Hrushiw และได้พบกับ Maria Kizyn ผู้ที่เห็นแม่พระ สถานที่เดียวกับ Josyp Terelya ได้รับสาสน์จากแม่พระเช่นเดียวกัน ดังในภาพข้างล่างนี้
ภาพข้างล่างคือสถานที่แม่พระประจักษ์แก่มาเรีย ถ่ายคู่กับอีกคนหนี่งที่เห็นเหตุการณ์ใน Hrushiw (อยู่ทางใต้ของเมือง Kiev) แม่พระประจักษ์มาที่ระเบียงของโบสถ์เล็กๆนี้ ในเวลานั้น, ลัทธิคอมมิวนิสต์เริ่มล่มสลาย
ภาพข้างล่างเป็นอีกคนหนึ่งที่เห็นแม่พระประจักษ์ในยูเครน บริเวณ Zarvanystya ที่อยู่ห่างจาก Hrushiw ไปประมาณ100 ไมล์
ภาพข้างล่างคือผู้เห็นแม่พระที่กีเบโฮ ในราวันดา เธอคือ อานาตาลี มูกามาซิมปากา Anathalie Mukamazimpaka เธอเป็นเพียงคนเดียวในบรรดาผู้ที่เห็นแม่พระที่ยังคงอยู่ที่กีเบโฮ เธอทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยพระสงฆ์ในโบสถ์ที่นั่น
และภาพข้างล่างนี้คือที่ เบธาเนีย (1991) สถานที่แม่พระประจักษ์มาและพระศาสนจักรได้รับรองแล้ว ที่นี่มีอัศจรรย์ของดวงอาทิตย์ด้วย (แม่พระทรงประจักษ์ในแสงสว่างเหมือนกับรูปแม่พระเหรียญอัศจรรย์ และผมได้เห็น) ผมได้พบกับมาเรีย เอสเปรันซา และจีโอ สามีของเธอ พวกเขาเป็นครอบครัวที่น่าประทับใจมาก
พระรูปแม่พระที่เบธาเนีย
รูปข้างล่างนี้อยู่ในบ้านของมาเรีย เอสเปรันซา
ถ่ายรูปกับมาเรีย เอสเปรันซาและสามีของเธอในการพบกันครั้งแรกที่บ้านของเธอ
รูปข้างล่างนี้คือที่เมดจูกอเรจ์ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้พบกับผู้เห็นแม่พระ วิคก้า อิวานโกวิค (และผมได้ให้หนังสือ Prayer of the Warrior แก่เธอ) เธอคล้ายกับมาเรีย เอสเปรันซา ผู้ที่ได้พบกับเธอจะรู้สึกประหลาดใจ
ภาพข้างล่างนี้ผมได้พบกับผู้เห็นแม่พระในเมดจูกอเรจ์อีกท่านหนึ่ง คือ จาโคฟ โคโล เวลานั้นเป็นช่วงที่มีสงคราม ผมไม่ได้ไปในฐานะผู้แสวงบุญแต่ไปในฐานะนักข่าว นั่งแท็กซี่นานสามชั่วโมงจากสนามบินผ่านด่านตรวจของทหารหลายด่าน เมื่ออยู่ที่บ้านของอิวานกา อิวานโกวิค ผมได้ยินเสียงระเบิดที่ดังมาจากมอสตา ผมได้ไปที่โบสถ์เซนต์เจมส์อันเป็นสถานที่สำคัญของที่นี่และมีคนร่วมพิธีมิสซาแน่นขนัดทุกวันจนผมต้องเบียดคนเข้าไป
ภาพข้างล่างคืออิวานกา อิวานโกวิค พร้อมด้วยสามีและลูก สังเกตว่าลูกของเธอจ้องมองไปที่จุดหนึ่งที่แม่ของเธอมองอยู่ด้วย (อิวานกา ถ่อมตนมาก เธอต้องการช่วยถือกระเป๋าของผม เมื่อผมถามเธอถึงเรื่องสาส์นความลับ เธอก็ปัดไปเรื่องอื่นทันที)
ลาก่อนเมดจูกอเรจ์ นั่นเป็นช่วงต้นของปี 1990 ภาพข้างล่างเป็นสถานที่มีการประจักษ์ในเมือง โอลิเวโต ซิตรา ในอิตาลี
และผมไม่ลืมผู้หญิงคนหนึ่งที่ให้ภาพถ่ายแก่ผมหลังจากที่ผมกลับจากเมดจูกอเรจ์แล้ว เป็นภาพถ่ายที่ภูเขาแห่งการประจักษ์ ดังภาพข้างล่างนี้ ภาพนี้ได้มาก่อนที่จะมีโปรแกรมคอมพ์ photoshop และเธอไม่ใช่คนที่ชอบพูดโกหกหรือสร้างเรื่องเท็จ ยังมีรูปอื่นอีกที่ถ่ายจากสถานที่เดียวกันแต่ถ่ายก่อนหน้า ช่วงเวลาที่ถ่ายรูป, ไม่มีอะไรบนท้องฟ้าเลย ท้องฟ่ากระจ่าง รูปนี้ถ่ายในช่วงบ่าย เมื่อนำไปล้าง รูปดูเหมือนเป็นเวลากลางคืน มองไม่เห็นใคร (เธอถ่ายรูปคนที่มาพร้อมกับเธอ) ในรูปกลับมีตัวอักษรบนท้องฟ้าที่เขียนว่า Christ
ท้องฟ้าที่เมดจูกอเรจ์สร้างความประหลาดใจหลายครั้ง ดวงอาทิตย์ก็เช่นกัน ครั้งหนึ่งผมเคยเห็นกับตา ดวงดาวแยกออกเป็นสามดวงเล็กๆ (สีขาว, น้ำเงิน, และแดง) แล้วก็กลับมารวมกัน แล้วแยกกันอีก และรวมกัน เป็นอย่างนี้นานสิบห้านาที --- มีคนหลายสิบคนอยู่ที่นั่น บางคนมองดูด้วยกล้องส่องทางไกล การได้เห็นทำให้เชื่อ และความเชื่อทำให้ได้เห็น
รูปภาพข้างล่างนี้ เป็นรูปภาพที่น่าอัศจรรย์ใช่ไหม? มีคนส่งรูปภาพมาให้ผมในตอนปลายปี 1980 ดูเหมือนจะเป็นพระบัลลังก์ของพระเจ้า ผมค่อนข้างจะไม่เชื่อนัก มันเหมือนกับเป็นการวาดรูปหรือระบายสีภาพ แต่ผมจะไปตัดสินได้หรือ?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น