By Louise Roseingrave
ฉันได้ไปที่เมดจูกอเรจ์, บอสเนียเฮอร์เซโกวีนา ที่ซึ่งพระแม่มารีย์ได้ปรากฏต่อเยาวชนหกคนในเวลา 32 ปีที่ผ่านมา แต่ฉันไม่คาดหวังว่าจะได้พบกับปีศาจ
ฉันเดินไปรอบๆโบสถ์เซนต์เจมส์ที่ซึ่งผู้แสวงบุญหลายล้านคนเข้าร่วมพิธีมิสซาและสวดภาวนา และต่อมาฉันก็ได้เห็นพิธีกรรมการขับไล่ผี
ฉันฝ่าฝูงชนเข้าไปดูพิธีกรรมนั้น มันเป็นพิธีกรรมที่สยองขวัญที่ฉันจะไม่มีวันลืม
พระสงฆ์ก้มตัวเหนือผู้หญิงชาวอิตาลีอายุประมาณ 30 ปีขึ้นไป ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวด้วยความโกรธแค้น เธอแสยะแยกเขี้ยวจนเห็นฟัน, เปล่งเสียงขู่ฟ่อๆ, เครียดคำรามและบิดเบี้ยว พระสงฆ์ถือหนังสือพระคัมภีร์ในมือข้างหนึ่ง และสวดภาวนาตามบทสวดของพระคัมภีร์
มืออีกข้างหนึ่ง, พระสงฆ์ก็ทำเครื่องหมายกางเขนบนหน้าผากของผู้หญิงหลายครั้ง พระสงฆ์อีกท่านหนึ่งซึ่งอายุน้อยกว่ากำลังรินน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้ผู้หญิงดื่ม
ผู้หญิงดิ้นต่อสู้ด้วยแรงที่มากผิดปกติ ต้องใช้ผู้ชายหกคนช่วยกันจับตัวไว้ ประชาชนกำลังสวดภาวนาอย่างสุดใจในภาษาอิตาลี ‘Santa Maria, prega per noi.’ คำพูดเหล่านั้นจารึกอยู่ในความทรงจำของฉัน
รูม่านตาของเธอเบิกกว้างและกลอกไปจนดวงตาของเธอมีแต่สีดำ มือของเธอตะกุยไปในอากาศนิ้วมือขึงแข็งเพื่อจะข่วน
ภาพเหตุการณ์สุดประหลาดและน่าสยดสยองนี้ ทำให้ผู้คนจำนวนมากที่กำลังสวดภาวนาต้องร้องไห้ออกมา
ฉันพยายามข่มใจไม่ให้ร้องไห้ มันเหมือนเป็นการรณรงค์ต่อสู้กับปีศาจ ประชาชนรวมตัวกันยืนจับมือประสานกันเป็นวงกลมและสวดภาวนา ในกลุ่มฝูงชนนั้นคือตัวฉันที่กำลังหวาดกลัว แต่ก็รู้สึกทึ่งกับพิธีกรรมโบราณนี้
ปีศาจที่สิงอยู่ข้างในผู้หญิงส่งเสียงขู่ฟ่อๆทุกครั้งที่ฝูงชนพรมด้วยน้ำเสก ปีศาจมีปฏิกิริยาด้วยการส่งเสียงที่น่ากลัวสลับกับการสบถด่าทอพระสงฆ์ด้วยความโหดเหี้ยมของมัน
ใบหน้าของหญิงสาวผ่อนคลายลงเล็กน้อย และต่อมาเธอก็เข้าร่วมการสวดสายประคำพร้อมกับผู้คนที่อยู่ล้อมรอบตัวเธอ ความตึงเครียดผ่อนคลายลงเล็กน้อย
พวกเราทุกคนสวดภาวนาเพื่อการปลดปล่อยเธอจากการถูกปีศาจสิง “ Prega per noi”
จากนั้น โดยไม่มีอะไรบ่งบอก , กล้ามเนื้อคอของผู้หญิงก็เหยียดตึง และหันศีรษะของเธอไปที่ใบหน้าของพระสงฆ์ ริมฝีปากที่โค้งงอกลับ เห็นฟันที่แสยะและส่งเสียงหัวเราะที่น่าเกลียด ราวกับจะพูดว่า 'พวกหน้าโง่'
ภาพเหตุการณ์ทั้งปวงรบกวนจิตใจของฉัน ฉันสงสัยว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงคนนี้ กระบวนการนี้จะกินเวลานานแค่ไหน? หลังจากเวลาผ่านไป 30 นาทีหรือมากกว่านั้น, ปีศาจก็ยอมแพ้ (ฉันมาช้าไปสองชั่วโมงก่อนหน้านี้) ร่างของหญิงสาวอ่อนลง และพระสงฆ์วางร่างของเธอไว้ที่ม้านั่งที่อยู่ใกล้ๆ เธอรู้สึกงุนงงและสับสนเหมือนคนที่ตื่นขึ้นมาหลังจากเป็นลม เธอเริ่มร้องไห้
เด็กชายวัยรุ่นคนหนึ่งในหมู่ฝูงชนมีความสะเทือนใจมากจนเขาร้องไห้น้ำตานอง
พวกเราที่เหลือเดินจากไปอย่างช้าๆ ด้วยความตกใจและสะเทือนใจอย่างลึกซึ้งจากสิ่งที่เราได้เห็น
ตลอดคืนนั้นฉันไม่สามารถลบภาพเหล่านั้นออกจากความทรงจำได้ เมื่อระลึกถึงเสียงกรี๊ดนั้นที่ส่งผลให้ฉันมีอาการสั่นสะท้านไปถึงกระดูกสันหลัง
พระสันตะปาปาฟรังซิสเคยขับไล่ผีให้แก่เด็กชายที่นั่งรถเข็นที่จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ มันอาจจะเป็นการปลดปล่อยเด็กจากการถูกกระทำของปีศาจ เป็นพระพรที่มีเพื่อจุดประสงค์ในการขับไล่ความชั่ว วาติกันและพระศาสนจักรเคยประกอบพิธีกรรมการขับไล่ผี และดูเหมือนจะไม่ทำให้ผู้คนหวาดกลัวและไม่ดึงดูดสื่อมากนัก
แต่ในเมดจูกอเรจ์ ที่ซึ่งแม่พระได้รับการต้อนรับด้วยความเงียบสงบจากผู้แสวงบุญเพื่อให้เกียรติพระนาง ทุกวันเวลา 18.00 น. คนที่ถูกผีสิงจะได้รับการปลดปล่อย และกลายเป็นเรื่องปกติไป
“ไม่ว่าแม่พระประจักษ์มา ณ ที่ใด ปีศาจก็จะไปอยู่ที่นั่น” นี่เป็นสิ่งที่ฉันได้รับการบอกเล่าจากผู้ที่แสวงบุญที่เมดจูกอเรจ์ ปีศาจโกรธแค้นต่อการประจักษ์มาของพระเยซูเจ้าและพระแม่มารีย์ มันไม่อาจทนต่อความศักดิ์สิทธิ์ได้
รูปแบบของพิธีกรรมการขับไล่ผีนั้นตรงไปตรงมา การถูกผีสิง, ซึ่งบางทีอาจมีสาเหตุมาจากการเสพยาเสพติดเรื้อรัง หรือพฤติกรรมอื่นๆที่ทำให้ร่างกายทรุดโทรม การถูกผีสิงสามารถถูกกำจัดออกไปได้ด้วยพิธีกรรมนี้ บางครั้งก็ต้องใช้เวลานานหลายวัน ฉันถามผู้มีความรู้ว่าคนจะถูกผีสิงได้ด้วยสาเหตุใดบ้าง คำตอบก็มีหลากหลาย แต่ตามที่ฉันได้ฟังมา มีสิ่งหนึ่งที่เป็นสาเหตุหลักคือ การมีส่วนร่วมในสิ่งที่เป็นไสยศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเล่นกระดานผีถ้วยแก้วนั้นเป็นอันตรายที่สำคัญ
ความรู้นี้ส่งผลให้ฉันไปที่สารภาพบาป ฉันเชื่อในพระเจ้าและไปร่วมพิธีมิสซา ฉันสวดภาวนาและพยายามดำเนินชีวิตที่ดี แม้ว่าจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนัก
ฉันไปเมดจูกอเรจ์ เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์พร้อมกับเพื่อนสามคน ก่อนหน้านี้ฉันได้เดินทางไปทั่วโลกเพื่อค้นหาความจริงทางจิตวิญญาณ ฉันเคยไปอยู่ที่อาศรมฮินดูในประเทศเนปาล เคยไปอยู่กับพระภิกษุสงฆ์ในเทือกเขาหิมาลัย และไปเที่ยวตามแหล่งสำคัญของศาสนาอิสลามในตะวันออกกลางและอินโดนีเซีย ฉันได้รับการฝึกฝนให้เป็นครูสอนโยคะในอินเดีย ฉันไปพักอาศัยอยู่ที่กระท่อมในชนบทใน West Cork และมีส่วนร่วมในการแสวงบุญที่ Lough Derg
แต่ไม่มีที่ใดที่ฉันได้พบความสงบ, แสงสว่างและความรักเหมือนที่มีอยู่ในเมดจูกอเรจ์ มีอัศจรรย์เกิดขึ้นทุกวัน อัศจรรย์ส่วนตัวที่เปลี่ยนแปลงชีวิต
มีการประกอบพิธีมิสซาศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก
คนหลายพันคนคุกเข่าและสวดภาวนาต่อหน้าศีลมหาสนิทในช่วง 'ชั่วโมงศักดิ์สิทธิ์' ที่ประกอบพิธีในโบสถ์ ทุกคนเงียบสงบด้วยความศรัทธาจนคุณสามารถได้ยินเสียงเข็มหมุดที่ตกบนพื้น
ผู้ใหญ่มักจะสะเทือนใจจนน้ำตาไหล อาจเป็นเพราะความเจ็บปวดและสิ่งที่รบกวนจิตใจที่ถูกกักเก็บไว้ในใจเป็นเวลานานนับปีเริ่มได้รับการปลดปล่อย นับเป็นก้าวแรกของการได้รับการเยียวยารักษา
ฉันกลายเป็นผู้ที่ชื่นชอบ”ชั่วโมงศักดิ์สิทธิ์”ในเมดจูกอเรจ์ เมื่อมองดูพี่น้อง, คู่รัก, มิตรสหายและคนในครอบครัวต่างโอบกอดกันและกันด้วยความรัก ในโลกที่เต็มไปด้วยคำโกหกหลอกลวงนี้, ฉันได้พบความจริงในเมดจูกอเรจ์
และความจริงก็คือปีศาจมีอยู่จริง และมันเก่งในการหลอกคนให้คิดว่ามันไม่มีตัวตนอยู่
**********************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น