วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2563

เมืองที่มีโบสถ์ 300 แห่ง



ในกรุงเทพมีโบสถ์คาทอลิกอยู่ประมาณ 20 แห่ง แต่มีเมืองหนึ่งในเม็กซิโกที่มีโบสถ์คาทอลิกจำนวนมากอย่างน่าประหลาดใจ
 
มีเมืองหนึ่งในเม็กซิโกที่เชื่อว่ามีโบสถ์จำนวนมากที่สุดในโลก ในศตวรรษที่ 16 เมื่อชาวสเปนหลังจากได้รับชัยชนะในสงครามกับชนท้องถิ่นก็ได้เริ่มต้นสร้างโบสถ์หลายแห่งในเมืองที่เรารู้จักกันในชื่อ Puebla – โบสถ์ถูกสร้างขึ้นเป็นจำนวนมากจนทำให้หลายคนคิดว่ามีโบสถ์สำหรับวันแต่ละวัน ทุกวันนี้ผู้คนยังพูดว่าจำนวนโบสถ์คาทอลิกในเมืองนี้เท่ากับจำนวนวันในหนึ่งปี
 
จำนวนโบสถ์อย่างเป็นทางการคือ 288 โบสถ์ในเมือง Puebla ไม่ใช่เท่ากับจำนวนวันในหนึ่งปีอย่างแน่นอน แต่สำหรับอาณาเขตเกือบ 80 ตารางไมล์ของเมืองนี้แล้ว ก็นับว่ามีโบสถ์จำนวนมากอย่างน่าประหลาดใจ สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าจำนวนนี้ไม่รวมถึงโบสถ์น้อย , อารามและบ้านนักบวช(ซึ่งใช้ประกอบพิธีได้ด้วย) หากรวมสิ่งเหล่านี้แล้วอาจจะมีสถานที่นมัสการสำหรับทุกวันก็ได้? แต่สิ่งที่เป็นความจริงอย่างหนึ่งก็คือการเดินท่องเที่ยวไปตามถนนต่างๆของเมืองในยุคอาณานิคมนี้ถือเป็นประสบการณ์ทางจิตวิญญาณที่ดีมากทีเดียว
 
เมือง Puebla เป็นหนึ่งในเมืองที่มีมรดกทางศาสนามากที่สุดในประเทศเม็กซิโก และโบสถ์จำนวนมากก็เป็นเพียงส่วนเล็กๆของประวัติศาสตร์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งของเมืองคือบิชอปแห่งสังฆมณฑล Tlaxcala ท่าน จูเลียน กราเซียส (Julián Garces) ในปี 1530 ท่านเขียนจดหมายถึงราชินีแห่งสเปนระบุความจำเป็นที่จะต้องสร้างเมืองขึ้นในอาณาบริเวณระหว่างเม็กซิโกซิตี้และเวราครูซ เพื่อเป็นบ้านพักอาศัยสำหรับชาวสเปนคาทอลิก
 
ตามตำนานของการก่อตั้งเมือง จูเลียน กราเซียส ได้ฝันว่ามีหมู่เทวดาลงมาจากสวรรค์เพื่อกำหนดอาณาเขตของเมือง จากนั้นเขาก็ออกเดินทางพร้อมกับนักบวชฟรังซิสกันเพื่อค้นหาหุบเขาที่เขาฝันเห็น แล้วพวกเขาก็พบสถานที่นั้นอยู่ห่างจากอารามไปห้าไมล์ และสถานที่นั้นก็กลายเป็นเมือง Puebla เดิมทีมันถูกเรียกว่า Puebla de los Ángeles (Puebla of Angels); ชื่อถูกเปลี่ยนเป็น Puebla de Zaragoza เมื่อไม่นานมานี้เอง แต่ก็ยังเป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นเมืองแห่งเทวดาหรือAngelopolis มีหลายตำนานที่เกี่ยวข้องกับการปรากฏตัวของทูตสวรรค์ในระหว่างการวางรากฐานและการสร้างเมือง หนึ่งในตำนานที่มีชื่อเสียงที่สุด คือการที่เทวดาได้นำระฆังขนาดใหญ่ขึ้นไปประดิษฐานไว้ด้านบนของมหาวิหารของเมือง
 
นอกจากเรื่องจำนวนของโบสถ์แล้ว ยังมีอีกหลายสิ่งให้ค้นพบในเมืองนี้ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐชื่อเดียวกันในเม็กซิโกตะวันออก-กลาง เมือง Puebla มีประชากรมากกว่าหนึ่งล้านคน ประชาชนจำนวนครึ่งหนึ่งมีบ้านอาศัยอยู่ระหว่างภูเขาและภูเขาไฟ นักท่องเที่ยสามารถมองเห็นภูเขาไฟสองลูกได้จากทุกมุมของเมือง คือภูเขาไฟ Iztaccíhuatl หรือที่รู้จักกันว่าเป็นหญิงสาวที่กำลังหลับ – และภูเขาไฟ Popocatépetl เป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่ยังตื่นตัวมากที่สุดแห่งหนึ่งในเม็กซิโก
 
หนึ่งในไฮไลท์ที่สำคัญอีกอย่างของเมืองนี้ก็คือวิธีทำอาหาร อาหารดั้งเดิมของ Puebla เป็นหนึ่งในอาหารที่ชาวเมืองชื่นชอบมากที่สุด Mole ถูกประดิษฐ์ขึ้นที่นี่ในคอนแวนต์ซานตาโรซ่า เพื่อเป็นของขวัญสำหรับอุปราชเมื่อหลายศตวรรษก่อน อาหารที่โดดเด่นที่สุดอีกอย่างหนึ่งของประเทศคือ “Chiles en Nogada” (พริกในซอส nogada) ซึ่งถูกทำขึ้นในคอนแวนต์ของซานตาโมนิกาเพื่อเฉลิมฉลองอิสรภาพของประเทศ มันยังคงถูกเสริฟทุกปีในระหว่างการเฉลิมฉลองในเดือนกันยายน เหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างสองอย่างของวิธีการทำอาหารในท้องถิ่นที่งดงามที่นำความสุขมากมายสำหรับผู้ชื่นชอบอาหารรสเผ็ด
 
มหาวิหาร (The cathedral)
 
ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง เป็นโบสถ์ใหญ่แห่งแรกที่สร้างขึ้น มหาวิหารแห่งนี้ได้รักการเสกในปี 1649 และสร้างอุทิศถวายแด่แม่พระปฏิสนธินิรมล ใช้เวลานานกว่า 200 ปี เป็นมหาวิหารใหญ่สูง 230 ฟุต มีเสามากกว่า 30 เสา, ห้องใต้ดิน 40 ห้องและออร์แกนหลักสามออร์แกน ส่วนที่น่าประทับใจที่สุดของโบสถ์แห่งนี้คือระฆังหลักซึ่งตั้งอยู่ที่ด้านบนของหนึ่งในสองหอคอย


วิหารน้อยสายประคำ Rosary Chapel (Capilla del Rosario)
 
หรือที่รู้จักกันในนาม “บ้านทองคำ” ภายในโบสถ์ตกแต่งด้วยแผ่นทองคำ 22K นอกเหนือจากความสำคัญทางศาสนาแล้วยังได้รับการยกย่องในด้านสถาปัตยกรรมและได้รับการยกย่องว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของบาร็อคเม็กซิกัน ในปี 1979 พระสันตะปาปาจอห์นปอลที่ 2 ได้ยกย่องโบสถ์นี้ว่าเป็น "อาสนวิหารแห่งทวีปอเมริกา" นอกเหนือจากเพดานและผนังสีทองแล้วยังมีรายละเอียดมากมายในรูปแบบ onyx (ออนิกซ์) ภาพเขียนและเครื่องปั้นดินเผาท้องถิ่นเรียกว่า talavera โดยเฉพาะที่แท่นบูชา

                                  "ROSARY CHAPEL ; PUEBLA"
 
Church of Santa María Tonantzintla
 
โบสถ์แห่งนี้ตั้งอยู่ใน Cholula ได้รับการขนานนามว่าเป็นอนุสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์ในปี 1933 เนื่องจากมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นจากศตวรรษที่16 สถานที่นี้ถูกปกคลุมไปด้วยผลงานศิลปะซึ่งหลายชิ้นถูกทำโดยคนพื้นเมืองที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่ โบสถ์นี้ยังเป็นหลักฐานของการผสมผสานของวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นระหว่างชาวสเปนและผู้คนในท้องถิ่น ด้านนอกของโบสถ์มีความเรียบง่ายสวยงาม แต่เมื่อคุณเข้าไปด้านใน, คุณจะได้ชื่นชมกับผลงานชิ้นเอกอันได้แก่ เครื่องประดับตกแต่งที่ละเอียดมากมาย, ภาพวาดและรูปปั้นนับพันชิ้น จำทำให้โบสถ์แห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นโบสถ์ที่สวยที่สุดใน Puebla


Temple of the Holy Spirit
 
สร้างขึ้นโดยคณะเยซูอิต(Society of Jesus) ในช่วงกลางปี 1700 เป็นสถานที่พักผ่อนของ Catarina de San Juan ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในนาม “China Poblana” และเป็นแรงบันดาลใจสำหรับรูปแบบเครื่องแต่งกายประจำภูมิภาคของPuebla การตกแต่งภายนอกด้วยสีขาวบริสุทธิ์และทางเข้าใหญ่ เป็นโบสถ์ที่สวยงามในตอนกลางวันและในเวลากลางคืนมีแสงไฟส่องด้านหน้าอาคารเป็นที่น่าประทับใจยิ่งขึ้น ภายในมีรูปปั้นขนาดใหญ่และรายละเอียดหินอ่อนและเฟอร์นิเจอร์ที่ทำขึ้นเพื่อการตกแต่งที่สวยงาม
SANCTUARY OF LADY OF REMEDIOS
 
ที่ด้านบนสุดของเนินเขาใน Cholula เป็นที่ตั้งของโบสถ์สีส้มขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนพื้นที่ทางโบราณคดีที่สำคัญ บนยอดปิรามิดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในละตินอเมริกา เริ่มแรกเป็นเพียงโบสถ์เล็กๆในช่วงปลายทศวรรษที่1500 แต่หลังจากเกิดแผ่นดินไหวในปี 1864 โบสถ์ก็ถูกสร้างขึ้นใหม่เพื่อเป็นสิ่งก่อสร้างอนุสรณ์สถานที่ยิ่งใหญ่




 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น