วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2563

นักบุญอักเนส พรหมจารีย์และมรณะสักขี


อักแนสในภาษาลาตินแปลว่า"ลูกแกะ"ภาษากรีกแปลว่า"บริสุทธิ์" เธอได้ยินเรื่องของพระเยซูเจ้าตั้งแต่เด็ก ภายหลังได้สมัครรับศีลล้างบาปเป็นคริสตชนและเธอปฏิญาณถวายตัวเองแด่พระเยซูเจ้าตลอดชีวิต
 
นักบุญอักเนส เป็นหญิงชาวโรมัน อายุเพียงสิบสามปีเธอได้เป็นมรณะสักขียืนยันความเชี่อ เธอได้สัญญากับพระเป็นเจ้าที่จะรักษาความบริสุทธิ์ของเธอให้ปราศจากมลทิน เธอรักพระองค์สิ้นสุดดวงใจ
 
เนื่องจากเธอเป็นคนสวยงามมาก ชายหนุ่มหลายคนปรารถนาอยากแต่งงานกับเธอ แต่เธอพูดเสมอว่า: "พระเยซูคริสตเจ้าผู้เดียวเท่านั้นเป็นคู่ครองของฉัน"
 
เมื่อแอกเนสอายุได้12ปี เธอปฎิเสธไม่ยอมแต่งงานกับโปรคอปลูกชายข้าหลวงซึ่งเป็นคนต่างศาสนา เขาโกรธมากเมื่อเธอปฏิเสธที่จะแต่งงานกับเขา และได้พยายามเอาชนะใจเธอด้วยการให้ของขวัญราคาแพงและคำมั่นสัญญาต่างๆ แต่หญิงสาวหน้าตาน่ารักมีเสน่ห์ได้ปฏิเสธ เธอพูดว่า: "ฉันได้ให้คำมั่นสัญญากับพระเป็นเจ้าผู้สร้างจักรวาล พระองค์ทรงพระฤทธานุภาพยิ่งกว่าดวงอาทิตย์และดวงดาวทั้งหมดในท้องฟ้า และพระองค์ได้ตรัสกับฉันว่า พระองค์จะไม่ทอดทิ้งฉันเป็นอันขาด"
 
ด้วยความโมโหฉุนเฉียว โปรคอปได้กล่าวหาเธอเป็นคริสตชนและจับเธอส่งให้ข้าหลวงผู้เป็นบิดาของเขาเอง ข้าหลวงได้สัญญาจะให้ของขวัญประเสริฐเลอเลิศต่างๆแก่เธอ ถ้าเธอเพียงแต่ปฏิเสธพระเป็นเจ้า แต่เธอไม่สามารถทำตามที่เขาขอร้อง เขาก็พยายามเปลี่ยนใจเธอโดยสั่งทหารล่ามโซ่เธอ แต่ใบหน้าอันงดงามของเธอฉายแสงแห่งความยินดี
 
ขั้นต่อไปเขาได้ส่งเธอไปเข้าซ่องโสเภณี แต่เทวดาได้ปกป้องคุ้มครองเธอให้พ้นภัยอันตราย ต่อมาเธอถูกนำไปยืนอยู่ต่อหน้ารูปปั้นพระในกรุงโรมเพื่อถวายกำยาน แต่เธอกลับชูมือขึ้นถวายนมัสการพระเยซูคริสตเจ้าและทำเครื่องหมายกางเขน พวกทหารได้จับเธอเปลื้องเสื้อผ้า ให้เธอยืนอยู่บนถนนเพื่อประจาน ขณะที่ประชาชนเมินหน้าหนีจากร่างกายเปลือยเปล่าของเธอ ปรากฎว่ามีชายหนุ่มผู้หนึ่งซึ่งบังอาจมองเธอด้วยความคิดชั่ว ทันใดนั้นเกิดฟ้าแลบฟาดลงมา ทำให้ชายผู้นั้นตาบอดทันที
 
ในที่สุดเธอถูกตัดสินประหารชีวิต แม้แต่คนต่างศาสนาที่ไม่เชื่อถือพระเป็นเจ้าได้ร้องไห้ เห็นหญิงสาวหน้าตาสวยงามมากเดินไปสู่หลักประหาร แน่นอน เธอมีความสุขเหลือล้นเหมือนเจ้าสาวในวันแต่งงาน หลายๆ คนได้ขอร้องเธอรักษาชีวิตไว้ เธอไม่รับฟังและพูดว่า: "ถ้าฉันพยายามเอาใจท่านทั้งหลาย ฉันก็ทำเคืองพระทัยคู่ครองของฉัน พระองค์ทรงเลือกฉันก่อน และฉันเป็นของพระองค์" อักแนสถูกนำไปที่ประหาร โดยถูกสั่งให้เผาทั้งเป็น แต่ไฟมิได้ทำให้เธอได้รับอันตรายแม้แต่น้อย เขาจึงสั่งให้ตัดศีรษะของเธอ เธอสวดภาวนาและก้มศีรษะให้เพชฌฆาตฟันคอเธอ อักแนส เป็นเด็กหญิงที่ยอมตายเพื่อยืนยันความเชื่อ ด้วยความรักต่อพระเป็นเจ้าและความปรารถนารักษาความบริสุทธิ์ของเธอด้วยชีวิต พระศาสนจักรฉลองนักบุญอักเนส วันที่ 21 มกราคม
 
การฉลองการเป็นมรณสักขีของนักบุญ อักแนส ที่นักบุญ อัมโบรซีโอได้กล่าวสรรเสริญยกย่องนั้น ไม่ใช่ว่าจะทำการฉลองกันเฉพาะในแวดวงของพระศาสนจักรโรมันเท่านั้น แต่ว่าทั่วทั่งพระศาสนจักรได้ทำการฉลองท่านด้วย
 
การเคารพให้เกียรตินักบุญองค์นี้ ได้เริ่มแพร่หลายแล้วตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ทั้งนี้เพราะท่านได้เป็นมรณสักขีตั้งแต่อายุยังเด็กเหลือเกิน คือเมื่อมีอายุได้ 12 ขวบเท่านั้น และในสมัยที่คริสตศาสนาทั้งที่กรุงโรม และที่กรุงคาร์เทจ (ตอนเหนือของอาฟริกา) กำลังอยู่ในสภาพที่ตกต่ำมาก เพราะการเบียดเบียน
 
นามชื่อของนักบุญนี้ “อักแนส” (Agnella) ก็มีกลิ่นหอมของพระคัมภีร์ นั่นก็คือ เธอได้รับชัยชนะ เพราะพระโลหิตขององค์ชุมพาน้อย (Agnellus) และได้เข้าสู่งานวิวาห์มงคลของพระองค์

********************

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น