วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

คำแนะนำในการใช้โซเชียลมีเดีย



โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการเชื่อมโยงเรากับผู้คนทั่วโลก อีกทั้งยังสามารถนำเราไปสู่แหล่งของการซุบซิบนินทา, ใส่ร้ายและแสดงความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินคนอื่น อารมณ์ของเรานั้นสามารถ “ปลดปล่อย” ออกมาได้อย่างง่ายๆ และการไม่เปิดเผยตัวตนบนโลกอินเทอร์เน็ตช่วยป้องกันเราจากผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นตามมาจากผลของการใช้คำที่ไม่เหมาะสม
 
นักบุญฟรังซิส เดอ ซาลส์ ได้เขียนหนังสือฝ่ายจิตวิญญาณอันลึกซึ้งที่มีชื่อว่า Introduction to the Devout Life(คำแนะนำสู่ชีวิตศรัทธา) ซึ่งมีคำแนะนำที่ยังคงสามารถนำไปใช้ได้ในวันนี้ซึ่งเป็นศตวรรษที่ 21
 
ตัวอย่างเช่นท่านเขียนว่า “อย่ากล่าวหาชายคนหนึ่งว่าเป็นคนขี้เมา ถึงแม้ว่าคุณอาจเคยเห็นเขาเมาก็ตาม หรือกล่าวหาคนหนึ่งว่าเป็นคนทำผิดประเวณีเพราะคุณรู้ว่าเขามีชู้ การกระทำผิดเพียงครั้งเดียวไม่ได้เป็นตราบาปตลอดชีวิต... ครั้งหนึ่งโนอาห์เคยดื่มจนเมามาย และโลท, ทำผิดยิ่งกว่านั้น, ด้วยการแต่งงานกับญาติใกล้ชิดของตัวเอง แต่ก็ไม่มีมนุษย์คนใดอาจพูดได้ว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นบาป มิฉะนั้น คุณจะไม่เรียกนักบุญเปาโลว่าเป็นคนชั่วที่ดูหมิ่นพระเจ้าหรอกหรือ เพราะท่านได้เคยดูหมิ่นพระเจ้าและได้หลั่งโลหิตคริสตชนก่อนที่ท่านจะกลับใจ…เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าคนที่เมื่อวานนี้เป็นคนบาป แต่วันนี้ยังเป็นเช่นเดิมอยู่อีก?”
 
การประจญล่อลวงของโซเชียลมีเดียก็คือ เมื่อเราดูข่าวหรือโพสต์ของเพื่อน แล้วมันก็นำเราให้ข้ามไปยังบทสรุปทันที มันสร้างมุมมองเชิงลบของบุคคลอื่นด้วยโพสต์เพียงโพสต์เดียว เราทุกคนเคยทำผิดพลาดกันทั้งนั้นและบางครั้งสิ่งที่เราโพสต์จะวาดภาพเชิงลบต่อตัวเราเองว่าเราเป็นคนอย่างไร เพราะฉะนั้น, เราไม่สามารถตัดสินตามสิ่งที่เราเห็นบนโซเชียลมีเดียได้

นักบุญฟรังซิสพยายามหาข้อแก้ตัวให้กับคนๆ นั้นโดยมองเห็นพวกเขาในแง่ดีที่สุด
 
เมื่อคุณได้ยินความชั่วของใครก็ตาม อย่าเชื่อในทันที จงพิจารณาในข้อกล่าวหาที่คุณอาจมีต่อเขาด้วยความยุติธรรม หรือหากทำไม่ได้ ก็ให้พยายามหาข้อแก้ตัวสำหรับผู้กระทำผิด และแม้กระทั่งไม่สามารถหาได้ ก็ขอให้สงสารและมีความเห็นอกเห็นใจเขา พยายามเตือนผู้ที่คุณกำลังพูดด้วยโดยอาศัยความช่วยเหลือจากพระหรรษทานของพระเจ้า ตรวจสอบให้ดีในเรื่องอื้อฉาว และถ้าคุณรู้สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ก็ขอให้คุณพูดถึงสิ่งนั้น
 
ไม่ใช่เป็นการดีนักที่จะไปชี้นิ้วที่คนอื่น ในเมื่อเราก็ไม่ได้พยายามแก้ไขข้อบกพร่องในชีวิตของเราเอง เราไม่สามารถมองเข้าไปในหัวใจของบุคคลอื่นได้ แต่เราสามารถมองเห็นภายในใจของเราเอง

ในการโพสต์และแสดงความคิดเห็นของเราในโซเชียลมีเดีย นักบุญฟรังซิส เดอ ซาลส์ได้ให้คำแนะนำเฉพาะเพิ่มเติมว่า
 
ให้คำพูดของคุณแสดงความเมตตากรุณา, ตรงไปตรงมา, จริงใจ, เรียบง่ายและเป็นความจริง หลีกเลี่ยงการใช้อุบายและการเสแสร้ง จำไว้ว่าแม้ว่ามันจะไม่เป็นการดีเสมอไปที่จะเผยแพร่ทุกสิ่งที่อาจเป็นความจริง แต่ก็ไม่มีการอนุญาตให้พูดต่อต้านความจริง จงทำให้เป็นกฎของคุณที่จะไม่พูดสิ่งที่ไม่เป็นความจริง ไม่พูดสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการกล่าวหาผู้อื่นหรือพูดแก้ตัวให้ตัวเอง และจำไว้เสมอว่าพระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าแห่งความจริง

นอกจากนี้ท่านยังแนะนำว่า “เมื่อมีความจำเป็นที่จะต้องโต้แย้งใครหรือยืนยันความคิดเห็นของตัวเอง, ก็ควรทำอย่างอ่อนโยนและพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยไม่ทำให้เกิดความขุ่นเคืองหรือความโมโห แน่นอน, เราจะไม่ได้อะไรเลยจากการพูดที่บาดใจหรือประชดเสียดสี”

ท้ายที่สุด, เราควรเน้นที่คุณภาพของการสนทนาออนไลน์ของเรามากกว่าปริมาณ ความเงียบ, ซึ่งนักปราชญ์ยกย่อง, ไม่ได้หมายถึงการใช้คำเพียงไม่กี่คำ หรือการไม่ใช้คำที่ไร้สาระมากมาย ในเรื่องนี้, เราต้องให้ปริมาณน้อยกว่าคุณภาพ เป้าหมายของเราคือหลีกเลี่ยงความสุดโต่งของทั้งสองอย่าง

เมื่อคุณเริ่มใช้โซเชียลมีเดียโปรดคำนึงถึงแนวทางเหล่านี้และคุณจะทำสิ่งที่ดีเพื่อนำแสงสว่างของพระคริสต์มาสู่ผู้อื่น

************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น