วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ทำไมแม่พระมาประจักษ์ที่เมดจูกอเรจ์

 

โดย Father Giulio
 
ซาตานได้โจมตีมนุษยชาติและพระศาสนจักรคาทอลิกอย่างโหดเหี้ยมในหลายทศวรรษที่ผ่านมามีข้อเท็จจริงมากมายและแปลกประหลาดเกิดขึ้นในโลก นี่คือเหตุผลที่แม่พระทรงประจักษ์มาที่เมดจูกอเรจ์ บรรดาพระคาร์ดินัลและบิชอปหลายองค์พิจารณาว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่พิเศษมาก
 
หากเรายังเชื่อในพระวรสาร, เราก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าซาตานเป็นผู้ล่อลวงและเป็นศัตรูของมนุษยชาติ มันต่อสู้ด้วยกำลังอำนาจทั้งหมดของมันและด้วยสติปัญญาของมันเพื่อทำให้เราแยกออกจากพระเยซูเจ้าและโยนเราไปสู่ความสิ้นหวัง แล้วก็ตกนรก มันไม่หยุดพักแม้สักชั่วครู่, มันคิด, วางแผนและปฏิบัติการเพื่อโจมตีจุดที่อ่อนแอที่สุดของเรา และทำลายการต่อต้านของเรา เหนือสิ่งอื่นใดมันพยายามทำให้เราอ่อนแอโดยหันเหความสนใจของเราจากการสวดภาวนา มันดลใจเราในหลายๆสิ่งแม้แต่สิ่งที่ดีด้วย เพื่อทำให้เราไม่สวดภาวนาอีกต่อไป
 
ในเรื่องนี้, ขอให้เราอ่านสาส์นของแม่พระต่อไปนี้:
 
“เมื่อลูกรู้สึกขาดความสนใจในการสวดภาวนา จงอย่าหยุดแต่ให้สวดภาวนาต่อไปด้วยสุดจิตใจของลูก และอย่าให้ความสนใจกับร่างกาย แต่เพ่งความสนใจทั้งสิ้นของลูกไปที่จิตวิญญาณของลูก จงสวดภาวนาอย่างเข้มแข็งยิ่งขึ้นเพื่อที่ร่างกายจะไม่สามารถชนะจิตวิญญาณ และคำภาวนาของลูกจะไม่สูญเปล่า พวกลูกทุกคนที่รู้สึกขาดความสนใจในการสวดภาวนา จงสวดภาวนาอย่างกระตือรือร้นยิ่งขึ้น, จงต่อสู้และพิจารณาไตร่ตรองในสิ่งที่ลูกกำลังสวด อย่าปล่อยให้ความคิดใดมาหลอกลวงลูกในการสวดภาวนา จงขจัดความคิดทั้งหมดออกไป, ยกเว้นแต่สิ่งที่รวมแม่และพระเยซูเจ้าเข้ากับลูก” (สาส์นวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 1985)
 
นี่เป็นสาส์นที่ชัดเจนเกี่ยวกับการที่ซาตานล่อลวงต่อผู้อ่อนแอ, ผู้ที่สวดภาวนาเพียงเล็กน้อยหรือสวดไม่ดี และไม่สามารถควบคุมความคิดที่อยู่ในใจได้ จงพิจารณาและหยั่งรู้ถึงต้นกำเนิดของความคิดเหล่านั้น เพื่อหาว่าอะไรที่เป็นเงื่อนไขทำให้ความคิดเหล่านั้นเข้ามาในใจ
 
ความคิดหลายอย่างที่อยู่ในใจของเราเป็นการล่อลวงของซาตานและทำให้เราเสียสมาธิทำให้การสวดภาวนาของเราว่างเปล่าปราศจากความรักและความไว้วางใจ เรารู้ว่าซาตานไม่เคยหยุดพัก
 
ความคิดของเราบางอย่างมาจากซาตาน มันเป็นผู้เบี่ยงเบนความเชื่อของเรา มันต้องการกีดกันเราจากความจริงของพระวรสาร และความโน้มเอียงในบาปของเราจะทำให้เราชอบสิ่งที่ตรงข้ามกับความจริง ถ้าหากเราไม่ได้ดำเนินชีวิตตามความเชื่อของเราอย่างซื่อสัตย์

 ผู้ที่มีพระจิตของพระเจ้า, จะอ่านสัญญาณแห่งกาลเวลาเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย เขาจะตระหนักว่าโลกนี้กำลังอยู่ในเงื้อมมือของซาตาน; แต่ผู้ที่ไม่มีพระจิตของพระเจ้าจะไม่รู้ว่าซาตานกำลังเตรียมที่จะทำร้ายมนุษยชาติอย่างไร ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปด้วยดี เพราะชีวิตนี้เป็นความสุขที่แท้จริง เราสามารถพึงพอใจกับทุกสิ่งที่อยู่ในโลกนี้
 
สำหรับผู้คนที่ซาตานเป็นนายของพวกเขา พวกเขาโกรธเกรี้ยวและเกลียดชังต่อเมดจูกอเรจ์ และต่อพระแม่มารีย์ พวกเขาต่อต้านอย่างรุนแรงต่อพระมารดาของพระเจ้าเพียงเพราะพระนางเสด็จมาเรียกบรรดาลูกของพระนางให้หันกลับมาสู่ความจริงแห่งพระวรสารและ เพื่อบอกเราว่าพระเยซูเจ้าทรงเรียกเราให้กลับใจและปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระองค์ หลายคนที่ประณามการประจักษ์มาของพระแม่มารีย์ เป็นคาทอลิก
 
ซาตานและปีศาจทั้งหมดถูกปลดปล่อยเพื่อต่อสู้กับมนุษยชาติและพยายามทำลายทุกสิ่งเท่าที่มันสามารถทำได้ ความโกรธแค้นของพวกมันส่งผ่านความเกลียดชังในบรรดาผู้ที่ไม่ได้รับการปกป้องจากพระแม่มารีย์ พระแม่ทรงมาพูดกับเราเกี่ยวกับความรักของพระเยซูเจ้าและทรงแนะนำเราให้อภัยกันและกัน “ความรัก, ความรัก! พระเยซูทรงเปลี่ยนแปลงจิตใจของผู้คนได้อย่างง่ายดาย ถ้าลูกรัก นี่คือวิธีที่ลูกจะเปลี่ยนแปลงโลก! ” (23 กุมภาพันธ์ 1985)
 
คนที่ปราศจากพระหรรษทานของพระเจ้ามีความโน้มเอียงอย่างมากที่จะทำสิ่งชั่วร้ายและแสดงความก้าวร้าว เขาใช้ความไม่ซื่อสัตย์ทุกรูปแบบเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ
 
อย่างไรก็ตาม กฎเกณฑ์นี้ไม่ได้ใช้กับทุกคนที่เป็นผู้ที่ไม่มีความเชื่อหรือผู้ที่หันหลังให้กับความเชื่อ แต่ในหลายกรณีมันเป็นเช่นนั้น ,ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
 
เราพบว่าตัวเราเองก็มีส่วนร่วมในสงครามฝ่ายจิตวิญญาณที่น่าเหลือเชื่อระหว่างกองทัพแห่งความดีและกองทัพแห่งความชั่วร้าย แต่ในท้ายที่สุดความดีจะมีชัยชนะเสมอ ความวุ่นวายที่มีสาเหตุมาจากการกระทำของกองทัพของซาตานจะทำให้เกิดความทุกข์ทรมานและจะทำให้คนดีจำนวนมากได้รับความทุกข์ทรมานอย่างหนัก
 
ความทุกข์ทรมานเหล่านี้ได้แก่ การกดขี่ข่มเหงพระศาสนจักรคาทอลิกและผู้ติดตามพระคริสต์, โรคระบาดแปลกๆ ที่รักษาไม่หาย, สงครามที่เกิดจากซาตาน สิ่งเหล่านี้จะมีและเกิดขึ้นมากมายนับไม่ถ้วนในช่วงเวลาเดียวกัน
 
เพื่อให้เข้าใจถึงการกระทำของซาตาน เข้าใจถึงอันตรายจากการทรยศของผู้ถวายตนในพระศาสนจักรคาทอลิก, ศีลธรรมจริยธรรมที่ตกต่ำลง ทำให้เราต้องอ่านหนังสือพระวิวรณ์ ทุกอย่างถูกกล่าวถึงไว้แล้วที่นั่น แม้แต่รื่องแผนการณ์อันโหดเหี้ยมของซาตานต่อพระเจ้า มันเป็นสงครามที่แท้จริงในระดับของจิตวิญญาณอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
 
ในการทำตามแผนชั่วร้ายนี้, ซาตานได้สร้างทีมวายร้ายและคนชั่วที่ทำงานในหลาย ๆ ส่วนของโลก ในชีวิตสาธารณะซึ่งหลายคนเป็นเจ้าของและมีสิทธิ์

สำหรับแผนการที่เลวทรามของซาตานนี้, นรกได้แตกออกเพื่อมาปะทะต่อสู้กับพระศาสนจักรคาทอลิก กองทัพที่ชั่วร้ายมากมายในโลกมารวมตัวกันเพื่อเข้าร่วมในโครงการหลายอย่าง เพื่อทำลายพระศาสนจักรคาทอลิก นั่นคือ การกำเนิดของลัทธิคอมมิวนิสต์ในศตวรรษที่ผ่านมา การแพร่กระจายของความคิดที่ผิดพลาดในโลกและความผิดพลาดของอุดมการณ์เท็จซึ่งโหดร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์
 
การขจัดความเป็นคริสตชนในโลกเป็นโครงการของซาตาน ซึ่งดำเนินการโดยพลังลึกลับที่ดำมืด วันนี้พระศาสนจักรคาทอลิกพบว่าตนเองกำลังต่อสู้กับผู้คนหลายพันล้านคน, และทุกคนถูกล่อลวงให้รับใช้ซาตาน
 
ใครก็ตามที่สร้างแรงบันดาลใจหรือตระเตรียมและส่งผู้เผยพระวจนะเท็จไปในโลกนั้นย่อมเป็นซาตานเสมอ
 
เทวดาเหล่านั้นที่ปฏิเสธไม่ยอมเชื่อฟังพระเจ้า และด้วยความหยิ่งจองหองและความไม่เชื่อฟัง, พวกมันจึงได้กลายเป็นปีศาจ พวกมันก่อการกบฏต่อพระเจ้า เราสามารถเข้าใจได้ถึงความเกลียดชังของพวกมันที่มีต่อมนุษย์ มันไม่สามารถโจมตีพระเจ้าได้ มันจึงหันมาโจมตีพวกเราทุกคน เพราะเรากำลังก้าวไปสู่สวรรค์ในขณะที่พวกมันไม่สามารถเข้าถึงสวรรค์ได้ตลอดไป
 
ทุกวันนี้ซาตานครองโลกด้วยจิตวิญญาณแห่งความเย่อหยิ่งและการกบฏ ซาตานปกครองเหนือทุกคนที่ไม่สวดภาวนาและใช้ชีวิตในบาปอย่างต่อเนื่อง มันครอบงำหัวใจหลายคนที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง, การแก้แค้น, ความอาฆาตพยาบาท, การดูหมิ่นพระเจ้าและความดีทุกรูปแบบ ดังนั้นซาตานจึงนำผู้คนจำนวนมหาศาลบนทัองถนนให้ไปสู่การสาปแช่ง, ไปสู่บาป, ไปสู่ความสุขที่ไร้ขอบเขต, การไม่เชื่อฟังพระบัญญัติของพระเจ้า, การปฏิเสธไม่เคารพในสิ่งศักดิ์สิทธิ์
 
ซาตานล่อลวงคริสตชนคาทอลิกหลายล้านคนว่าบาปไม่ได้เป็นความชั่วร้ายอีกต่อไป ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่จะกระทำโดยไม่ต้องคำนึงถึงมโนธรรมความสำนึกในผิดชอบชั่วดี และไม่จำเป็นต้องสารภาพบาปอีกต่อไป
 
หลายคนที่เมื่อเร็วๆ นี้ได้ชักจูงคนจำนวนมากให้ทำบาปอันน่าดึงดูดใจ(ตัวอย่างเช่น การแสดงคอนเสริท, เพลงที่มีเนื้อหาในทางยั่วยุทางเพศ ฯลฯ) ชักนำคนหลายล้านคนให้ดำเนินชีวิตในบาปหนักและไม่ไปสารภาพบาปของพวกเขา การเปลี่ยนแปลงทางปัญญาได้กลายเป็นจริงอย่างไม่น่าเชื่อ สืบเนื่องมาจากผู้มีความเชื่อจำนวนมากขาดการสวดภาวนาที่แท้จริงและการผ่อนปรนทางศีลธรรมจริยธรรม
 
ถ้าบาปถือเป็นความผิดต่อพระเจ้าในวันนี้, มันก็ไม่ใช่ความผิดอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของอิสรภาพและชัยชนะ วิธีคิดให้เหตุผลแบบนี้เหมือนกับเหตุผลของซาตาน มันเกลียดความจริง ด้วยเหตุนี้พระแม่มารีย์จึงกล่าวว่า “ซาตานมันเล่นสนุกกับลูกและจิตวิญญาณของลูก” (25 มีนาคม 1992)
 
ในแสงสว่างของพระเจ้า, พระแม่มารีย์ทรงรู้ทุกสิ่ง อนาคตเป็นปัจจุบันสำหรับพระนาง พระนางทรงรู้จักทั้งคนดีและคนที่ต้องการทำลายมนุษยชาติ เพราะพวกเขารับใช้ผู้หลอกลวงโลก นั่นคือ ซาตาน
 
นี่คือสิ่งที่พระแม่มารีย์ตรัสเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 1993 “ ลูกที่รัก ในวันนี้, อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน, แม่ขอเชื้อเชิญพวกลูกให้สวดภาวนาเพื่อสันติภาพ: สวดภาวนาเพื่อสันติสุขในหัวใจของลูก สันติภาพในครอบครัวและในโลกทั้งมวล เพราะซาตานต้องการสงคราม มันไม่ต้องการความสงบสุข และมันต้องการทำลายทุกสิ่งที่เป็นความดี ดังนั้น, ลูกที่รักของแม่ จงสวดภาวนา สวดภาวนา ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่!”
 
และถ้ามีคนบ่นเพราะเขาไม่ได้ยินความช่วยเหลือจากพระแม่มารีย์, จงใคร่ครวญคำพูดของพระนางให้ดี: “แม่ไม่สามารถช่วยลูกได้ เพราะลูกอยู่ห่างไกลจากหัวใจของแม่ ดังนั้นจงสวดภาวนาและดำเนินชีวิตตามสาส์นของแม่ แล้วลูกจะเห็นอัศจรรย์แห่งความรักของพระเจ้าในชีวิตประจำวันของลูก"(25 มีนาคม 1992)
 
และสำหรับความคิดที่หยาบช้าซึ่งสงสัยในการประจักษ์ของแม่พระที่เมดจูกอเรจ์ ผู้ที่ได้รับประโยชน์จากมันก็คือซาตาน, ศัตรูของมนุษย์, เจ้าแห่งความเกลียดชัง, ปฏิปักษ์แห่งความดี ถ้าพระแม่มารีย์ไม่ทรงเตือนมนุษยชาติว่าซาตานมีอยู่จริงแล้ว ถ้าพระนางไม่เตือนว่ามันต้องการทำลายพระศาสนจักร, ทำลายโลกและพวกเราทุกคน จะมีใครที่จะได้ประโยชน์นอกจากซาตานเล่า? ในสาส์นของวันที่ 26 กรกฎาคม 1983 พระแม่มารีย์ตรัสว่า: "ดูเถิด! นี่เป็นช่วงเวลาที่อันตรายสำหรับลูก ซาตานจะพยายามพาพวกลูกออกไปจากเส้นทางนี้ ผู้ที่ถวายตนแด่พระเจ้าจะต้องทนทุกข์กับการโจมตีของซาตานเสมอ”
 
พระแม่มารีย์ทรงตรัสหลายครั้งหลายหน เกี่ยวกับซาตาน, แผนการอันชั่วร้ายของมัน ความเจ้าเล่ห์อันชั่วร้าย, การกระทำอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยของมันต่อมนุษย์ทุกคน เหนือสิ่งอื่นใดต่อผู้ที่ใกล้ชิดกับพระเยซูและพระแม่มารีย์ ผู้ที่น่าจะได้รับความรอดและได้ไปสวรรค์มากที่สุด
 
ทำไมคนที่กระทำความชั่วหลายคนจึงมีชีวิตที่สุขสบายล่ะ? พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้ที่ช่วยพวกเขาหรือ? เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เช่นนั้น คนที่ไม่ซื่อสัตย์หรือดำเนินชีวิตที่ไร้ศีลธรรม, คนเหล่านี้กำลังมุ่งหน้าสู่นรกพวกเขาอยู่ในความครอบครองของซาตานแล้ว พวกเขาจะกลับใจได้ยากมาก แล้วทำไมซาตานจึงต้องไปรบกวนและทำร้ายผู้ติดตามและผู้นมัสการมันเล่า? ถ้ามันทำอย่างนั้น คนเหล่านั้นอาจเริ่มต้นสวดภาวนาและกลับใจหันไปหาพระเจ้าก็ได้, ไม่ใช่หรือ? ดังนั้น ซาตานจึงทำให้คนเหล่านั้นอยู่อย่างสุขสบายในตอนนี้ แล้วในนรก, มันจะทรมานพวกเขาอย่างที่พวกเขาไม่ได้เคยได้รับบนโลก การทรมานทั้งหมดที่พวกเขาสมควรได้รับเมื่อตกสู่นรก
 
และคุณรู้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนสองคนที่รักกันในโลกอย่างบ้าคลั่งและทั้งคู่ตกอยู่ในนรก? ที่นั่นพวกเขาเกลียดชังกันจนตาย เพราะในนรกไม่มีความรัก มีแต่ความเกลียดชังและความทรมานเท่านั้น
 
Source: WHY MADONNA APPEARS IN MEDJUGORJE By Padre Giulio Maria Scozzaro

*********************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น