วันอังคารที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2563

โรคระบาดและการประจักษ์ของแม่พระ


แม่พระมักทรงประจักษ์มาเสมอเมื่อคริสตชนจำนวนมากหลงลืมพระเจ้าและทำบาปมากยิ่งขึ้น พระนางประจักษ์มาเพื่อเตือนพวกเขาให้กลับใจหันกลับมาสู่หนทางที่ถูกต้อง เพราะมิฉะนั้นพวกเขาจะต้องรับโทษทัณฑ์ร้ายแรง เช่น ความอดหยาก, สงคราม, โรคระบาด ฯลฯ

 
ในสมัยศตวรรษที่ 6 พระสันตะปาปาเกรโกรี่ผู้ยิ่งใหญ่ จะทรงเดินนำขบวนแห่พระรูปแม่พระฉวีดำไปตามถนนของกรุงโรม ในเวลาที่เกิดโรคระบาดร้ายแรง, หรือมีการรุกรานจากศัตรู, หรือเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ โรคระบาดได้คร่าชีวิตของพระสันตะปาปาที่มาก่อนพระองค์ นั่นคือพระสันตะปาปาเพลาเจียสที่ 2 (Pope Pelagius II) โรคระบาดเกิดขึ้นราวศตวรรษที่ 6 ทำให้ชาวกรุงโรมรู้สึกระส่ำระสายและคิดว่ากรุงโรมอาจจะล่มสลาย เมื่อโรคระบาดเกิดขึ้น, พระสันตะปาปาเกรโกรี่จึงทรงจัดขบวนแห่พระรูปแม่พระฉวีดำขึ้นเพื่อวอนขอให้โรคระบาดนั้นจบสิ้นลง และเมื่อสิ้นสุดการเดินแห่ไปจบที่ปราสาท San’Angelo พระองค์ทรงเห็นอัครเทวดามีคาแอลประจักษ์มาอยู่ที่บนยอดปราสาทท่านถือดาบชี้ขึ้นไปยังท้องฟ้า และโรคระบาดก็หยุดลง
 
ภัยพิบัติจากโรคระบาดนี้เป็นการลงโทษจากพระเจ้าหรือ?
 
พระสันตะปาปาเกรโกรี่ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ทรงเป็นนักปราชญ์ของพระศาสนจักรด้วย ทรงเขียนจดหมายถึงกษัตริย์อัลเบิร์ตแห่งเคนท์เกี่ยวกับนัยสำคัญของภัยพิบัติเหล่านั้น พระองค์ทรงสงสัยว่ามันจะเป็นการพิพากษาครั้งสุดท้าย
 
ในจดหมายนี้, พระสันตะปาปาทรงกล่าวถึงภัยพิบัติที่เป็น “หมายสำคัญที่ผิดธรรมดา” ได้แก่ “การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ , ความน่ากลัวที่ส่งมาจากสวรรค์, ฤดูกาลที่ผิดปกติ, สงคราม, ความอดหยาก, โรคระบาด, และแผ่นดินไหว”
 
ระหว่างที่แม่พระทรงประจักษ์ที่กัวดาลูเป ใกล้กับเมืองเม็กซิโก เบอร์นาดิโน ผู้เป็นลุงของฮวนดิเอโก (ผู้เห็นแม่พระ) กำลังป่วยใกล้ตายจากเชื้อโรค cocolixtle ซึ่งเป็นโรคระบาดที่กระจายไปทั่วบริเวณนั้น แม่พระได้ประจักษ์แก่เขาและทรงรักษาเขาให้หาย
 
ที่ลาซาแล็ต ในฝรั่งเศส แม่พระทรงเตือนประชาชนว่าโรคระบาดและความอดหยากกำลังจะมาเพื่อเป็นการลงโทษ ในปีที่แม่พระทรงประจักษ์มานั้น คือปี 1846 เป็นปีที่พืชผลทางตอนเหนือของฝรั่งเศส (และไอร์แลนด์) ขาดแคลนเป็นอย่างมาก เพราะการปลูกมันฝรั่งซึ่งเป็นอาหารหลักของที่นั่นไม่ได้ผลดี ความอดหยากได้คร่าชีวิตของผู้คนไปนับล้าน ประชาชนอ่อนแอเพราะขาดอาหาร และบางคนที่รอดชีวิตจากการขาดอาหาร, ก็ต้องเผชิญกับโรคระบาดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
 
แม่พระทรงเตือนในสาส์นแห่งลาซาแล็ตว่า เด็กๆที่อายุต่ำกว่าเจ็ดขวบจะตัวสั่นและสิ้นใจในอ้อมแขนของพ่อแม่ของพวกเขา ต่อจากภาวการณ์ขาดแคลนอาหาร (มันฝรั่ง) ก็ตามมาด้วยโรคระบาดของโรคไข้รากสาดใหญ่, โรคบิด, และโรคไข้ทรพิษ ซึ่งทำให้เด็กๆจำนวนมากเสียชีวิตตามที่แม่พระทรงเตือนล่วงหน้าไว้แล้ว โรคระบาดเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำหลายครั้งในยุโรปและทั่วโลก
 
ที่ลูรดส์, แม่พระทรงประทานน้ำพุศักดิ์สิทธิ์เพื่อรักษาผู้เจ็บป่วยจากมาลาเรียที่ระบาดอยู่ในเวลานั้น
 
ในเมืองลิเช่น (Lichen)ของโปแลนด์ แม่พระทรงขอร้องให้ประชาชนสวดสายประคำ และทรงเตือนว่า “ผู้คนนับล้าน”จะตายด้วยโรคระบาดและการนองเลือด ไม่นานหลังจากนั้น ในปี 1854 และ 1855 ผู้คนจำนวน 152,000 คนในฝรั่งเศสต้องหิวโหยอดหยากจนตายและโรคมาลาเรียก็คร่าชีวิตคนนับพัน
 
ที่ฟาติมา, เด็กที่เห็นแม่พระสองในสามคนก็เสียชีวิตในปี 1918 – 1920 จากโรคระบาด”ไข้หวัดใหญ่สเปน” ซึ่งทำให้คนมากกว่า 50 ล้านคนทั่วโลกเสียชีวิต แม่พระทรงบอกเด็กสองคนคือ ฟรานซิสโกและยาชินทา มาร์โต ว่าพวกเขาจะติดเชื้อโรคและเสียชีวิต เด็กทั้งสองยอมรับความทุกข์นี้เพื่อช่วยคนบาปให้กลับใจ
 
โรคระบาดมาและจากไปเป็นครั้งคราว ทำให้ผู้คนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก โรคระบาดจากโคโรน่าไวรัสก็จะเป็นเช่นเดียวกัน มันมาและจะจากไป เป็นการเตือนชาวโลกว่า จงหันกลับมาหาพระเจ้า พระองค์เท่านั้นที่เป็นความหวังและความรอดของเรา เมื่อบาปของมนุษย์มีมากเกินไป สวรรค์ก็จำเป็นต้องเตือนและลงโทษ เพื่อที่มนุษย์จะได้กลับมาเดินในหนทางที่ถูกต้อง นั่นคือ กลับมาสู่องค์พระเยซูเจ้า พระเจ้าของเรา
 
นำมาจากหนังสือ The Last Secret

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น