วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2563

ความฝันของคุณพ่อบอสโก - พบกับคุณพ่อปรอเวรา



คุณพ่อปรอเวรา ได้ประจักษ์แก่คุณพ่อบอสโกในความฝัน  และคุณพ่อบอสโกได้เล่าให้ฟังดังนี้
 
เมื่อคืนวันที่ 17 มกราคม 1883 พ่อฝันว่า พ่อกำลังเดินออกจากห้องอาหาร รู้สึกตัวว่าข้างพ่อมีพระสงฆ์องค์หนึ่ง ทีแรกไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่แล้วก็จำได้ว่า เป็นคุณพ่อปรอเวรา ดูเหมือนท่านสูงกว่าเมื่อเวลามีชีวิตอยู่ สวมเสื้อชุดใหม่ หน้าตาอิ่มเอิบแจ่มใสเรืองรองด้วยรัศมีแห่งสวรรค์ท่านทำท่าจะเดินต่อไป
 
"โอ้ คุณพ่อปรอเวรา เป็นท่านจริง ๆ รึ
"ครับ เป็นผมเอง"
 
ในเวลานั้นหน้าตาของท่านทอแสงออกมาจนเกือบจะมองไม่ได้
 
"ถ้าเป็นคุณพ่อจริงก็อย่าเพิ่งไป กรุณารอสักประเดี๋ยวขอให้ผทพูดกับคุณพ่อสักหน่อย"
"ครับ เชิญพูดมาเถิด ผมจะฟัง"
 
ท่านเอาตัวรอดไปสวรรค์หรือเปล่า?”
ครับผมเอาตัวรอดโดยทางพระเมตตาของพระผู้เป็นเจ้า
ในสวรรค์ท่านเสวยสุขอย่างไรบ้าง?”
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ใจปรารถนา สติปัญญาสามารถจะเข้าใจได้ ทุกสิ่งที่ตาสามารถเห็น และลิ้นสามารถบรรยายได้พูดเช่นนี้แล้วท่านก็ทำท่าจะเดินต่อไป มือของท่านที่พ่อกุมอยู่กลายเป็นอากาศธาตุไป จับต้องไม่ได้
 
"อย่าเพิ่งไปครับ ช่วยบอกสิ่งที่เกี่ยวกับตัวผมสักหน่อยซิครับ
"คุณพ่อจงทำงานต่อไป เพราะมีงานอีกมากมาย

“ผมยังมีเวลาอีกนานไหม
ไม่เท่าไรครับ แต่จงทำงานด้วยความพยายามเหมือนกับว่าจะไม่อยู่ในโลกนี้อีกต่อไป ขอให้คุณพ่อเตรียมตัวไว้เสมอก็แล้วกัน

และสำหรับสมาชิกของคณะเล่า?”
เกี่ยวกับสมาชิกของคณะ ให้คุณพ่อสั่งสอนและเตือนพวกเขาให้มีความศรัทธาร้อนรน
จะต้องทำอย่างไรเล่า จึงจะมีความศรัทธาร้อนรน?”
เรื่องนี้บรรดาอาจารย์เป็นผู้สอน จงทำเหมือนชาวสวนองุ่นที่ชำนาญที่เอาตะขอคมๆ ตัดกิ่งไม้แห้งและกิ่งที่ไม่จำเป็นออกเสีย ดังนั้นแล้วต้นองุ่นก็จะแข็งแรง และออกผลดก และจะมีชีวิตอยู่นาน

และแก่บรรดาเพื่อนสมาชิกเล่า,  ผมจะต้องบอกอะไรกับพวกเขาบ้าง?”
คุณพ่อปรอเวราตอบด้วยเสียงดังว่า จงบอกแก่เพื่อนๆของผม และแก่บรรดาสมาชิกว่ามีรางวัลใหญ่หลวงซึ่งพระเป็นเจ้าทรงเตรียมไว้ให้  แต่จะให้แก่ผู้ที่มีมานะในสนามรบแห่งชีวิตนี้เท่านั้น
 
และสำหรับเยาวชนของเราจะต้องบอกว่าอย่างไร?”
"สำหรับเยาวชนของเราหรือ ต้องอาศัยงานและการดูแลซิ

ยังมีอะไรอีกไหม?”
“จงดูแล และทำงาน และดูแล
"เขาต้องปฏิบัติอย่างไรจึงจะแน่ใจได้ว่า จะได้ความรอดนิรันดร?”
"ให้เขารับอาหารทิพย์ของผู้เข้มแข็งบ่อยๆ และให้เขาตั้งใจแน่วแน่เวลาไปแก้บาป
"ให้บอกแก่พวกเขา ถึงสิ่งที่เขาต้องเลือกในโลกนี้เวลานั้นมีแสงสว่างมาปกคลุมคุณพ่อปรอเวรา จนพ่อต้องหลบสายตาลง เพราะสู้แสงสว่างไม่ได้
 
ในเวลานั้นท่านพูดเหมือนกับคนกำลังขับร้องเพลงว่า สิริพึงมีแด่พระบิดา สิริพึงมีแด่พระบุตร สิริพึงมีแด่พระจิต แด่พระเจ้าผู้ทรงชีวิต และจะเป็นผู้พิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย
 
พ่ออยากจะพูดกับคุณพ่อปรอเวราอีกต่อไป แต่คุณพ่อเริ่มร้องเพลงอันน่าประทับใจและสง่างาม ด้วยน้ำเสียงอันไพเราะเพราะพริ้งจับใจว่า จงสรรเสริญพระเป็นเจ้า แล้วมีเสียงตอบรับเป็นพันๆเสียง มาจากชั้นล่างทางบันไดว่า เพราะพระคุณของพระองค์ไม่มีที่สิ้นสุด แล้วจบด้วยสิริพึงมี...
 
พ่อพยายามเพ่งตาดูคนที่ขับร้อง แต่ลืมตาไม่ขึ้นเพราะแสงสว่างแรงกล้า เวลาจบเพลงแล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็กลายเป็นปกติ แม้แต่คุณพ่อปรอเวราก็ไม่อยู่ให้เห็น  แม้แต่เงาก็หายไป
 
พ่อลงไปที่ระเบียงชั้นล่าง ที่นั่นมีพระสงฆ์ เณรและเด็ก ๆ พ่อถามเขาว่าได้เห็นคุณพ่อปรอเวราไหม? เขาตอบว่า ไม่เห็น ไม่ได้ยินพ่อรู้สึกเสียใจ นึกในใจว่าสิ่งที่ได้เห็นและได้ยินเป็นแต่เพียงความฝัน พ่อพูดว่า มานี่ พ่อจะเล่าความฝันให้พวกเธอฟังแล้วพ่อก็เล่าตามเรื่องข้างบนนี้ คุณพ่อรัว คุณพ่อกาลีเอโรได้ซักถามพ่อหลายอย่างหลายประการ พ่อก็ตอบทุกอย่าง แต่รู้สึกเหนื่อยจนเกือบจะหายใจไม่ออกจึงรู้สึกตัวตื่น
 
จากประวัตินักบุญยวงบอสโก เล่ม 16 หน้า 15-17
 
**********************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น