วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2563

แม่พระตรัสกับลูกทั้งหลาย


แม่พระตรัสกับลูกของพระนาง
 
แม่ได้พูดกับลูกอย่างต่อเนื่องเสมอมา  เพราะในห้วงเวลานี้ไม่เหมือนกับห้วงเวลาอื่น  เหตุการณ์ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องราวของการต่อสู้ระหว่างความดีและความชั่วซึ่งดำเนินสืบเนื่องมานับตั้งแต่จุดเริ่มต้นของกาลเวลา  ในอดีต  เกิดเหตุการณ์สำคัญพิเศษของการต่อสู้นี้  บางครั้ง ผลลัพท์ที่ได้ก็เป็นผลดีและเกิดพระพรที่ยิ่งใหญ่  และในบางครั้งก็มีการล่มสลายของความดีและการเสื่อมสลายของพระพร

ด้วยเหตุที่มีการต่อสู้ดำเนินไปในแต่ละวัน  แม่จึงต้องพูดกับลูกในแต่ละวันด้วย  เพื่อที่จะไม่มีวันใดที่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์  เมื่อวาจาของแม่ไม่คืบหน้า  ทุกวันนี้  แม่เริ่มพูดด้วยวาจาที่ออกมาจากส่วนลึกในใจของแม่  เป็นวาจาที่พิเศษ  วาจาเหล่านี้แสดงถึงความคิดของแม่  แสดงถึงความกลัวของแม่  และแสดงถึงความหวังอันยิ่งใหญ่ของแม่  ให้เราเริ่มต้นกัน ณ. บัดนี้เถิด

ในฐานะผู้รับใช้แห่งนาซาเร็ธ  แม่ได้ยินวาจาของทูตสวรรค์  สาสน์นั้นแจ้งชัดแต่ยากที่จะเชื่อ  แม่จะให้บังเกิดบุตรชายคนหนึ่งด้วยอำนาจของพระจิตเจ้า  ในส่วนลึกของจิตใจ  แม่เชื่อ, แล้วพระองค์ก็ทรงมารับเอากาย  แม่ได้ตั้งครรภ์  ร่างกายของแม่ได้รับอำนาจของพระเป็นเจ้าไว้

ความรู้สึกของแม่ในเวลานั้นเต็มไปด้วยความปิติยินดีเพราะแม่ถูกยกย่องให้สูงขึ้น  ในเวลาเดียวกัน  แม่ก็ยังคงอยู่ในชีวิตที่เป็นมนุษย์อย่างครบถ้วน  พระเป็นเจ้าทรงนำแม่ไปสู่นิมิตของประวัติศาสตร์และแม่เริ่มต้นเห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นและวิธีที่องค์พระวจนาตถ์ทรงมาถึง ณ.เวลานี้  แม่เริ่มเข้าใจในทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้น  นิมิตนั้นดูสลัวในตอนแรกแต่ค่อยกระจ่างชัดขึ้นทีละเล็กทีละน้อย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่อลิซาเบ็ธพูดกับแม่ด้วยคำพูดนั้น

ในความเงียบสงบของอิสราเอล  ไม่เป็นที่รับรู้จากทุกคนในโลก  พระเป็นเจ้าทรงเริ่มโต้ตอบต่ออำนาจทุกประการของปีศาจโดยการตัดสินพระทัยที่น่าประหลาดใจที่จะทรงมาเป็นมนุษย์และอาศัยอยู่ท่ามกลางเรา  พระธรรมล้ำลึกนี้แม่จะอธิบายแก่ลูกทุกคน

พระมารดาผู้โศกเศร้า

ไม่มีวาจาใดที่สามารถบรรยายความรู้สึกของแม่ได้  แม่เฝ้ามองดูโลกที่ถูกสร้างด้วยแสงสว่าง  แต่กลับถูกครอบงำด้วยความมืดมิดที่เติบโตมากยิ่งขึ้นและทรงอำนาจมากขึ้นทุกที  ความพยายามมากมายสักเพียงไรที่แม่ทำเพื่อสถาปนาพระบัลลังก์ของพระเป็นเจ้าขึ้นในโลกนี้

 แม่ได้ประจักษ์มาในหลายสถานที่  เพื่อพยายามให้เสียงของแม่เป็นที่ได้ยิน  แม่ได้เกื้อหนุนค้ำจุนผู้นำสาสน์ที่ซื่อสัตย์หลายคนซึ่งได้รับความทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก  วาจาของแม่ถูกเพาะหว่านในหัวใจของพวกเขาและพวกเขาก็พยายามปลุกโลกนี้ให้ตื่นขึ้นมา

ในเวลานี้  แม่เป็นทุกข์โศกเศร้า  เหมือนคนที่ได้เห็นความจริงที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า  แม่ได้พยายามอย่างหนักสักเพียงไรเพื่อเบี่ยงเบนมนุษยชาติให้ออกจากหนทางนี้  แม่ได้ใช้พระศาสนจักรของแม่  แม่ได้ส่งผู้นำสาส์นออกไป  แม่ได้ให้คำสัญญา  แม่พูดทำนายถึงอนาคต  แม่ทั้งเตือนและให้กำลังใจ

แม่ได้ให้ลูกๆของแม่เห็นนิมิตของนรกและเปิดเผยให้เขาเห็นสง่าราศีของสวรรค์  โดยอาศัยทุกสิ่งนี้  แม่เปิดเผยให้รู้ถึงความรู้สึกอันหนักหน่วงของแม่และความหนักหนาสาหัสของสถานการณ์  ดังนั้น, แม่จึงโศกเศร้าเหมือนคนที่พยายามทำทุกสิ่งแล้วแต่ประสบผลสำเร็จเพียงเล็กน้อย

ทุกคนที่รู้จักแม่จะรู้ว่าแม่ไม่เคยหยุด  ไม่หยุดแม้แต่สักชั่วครู่เดียว  แม่ไม่ยอมแพ้  แม่จะไม่ละทิ้งแผนการณ์เริ่มต้นของแม่  แม่ค้ำจุนเกื้อหนุนพระศาสนจักรให้เป็นแสงสว่างส่องนานาชาติและใช้พระสันตปาปาของแม่เป็นเครื่องมือในการช่วยโลกให้รอดจากการล่มสลาย

แผนการณ์นี้ยังคงอยู่ในกลางดวงใจของแม่  มันมีเวลาของมัน  มันจะไม่ล้มเหลวแต่ลูกไม่ต้องรอคอย  จงใช้แต่ละวันพร้อมกับแม่แล้วแผนการของแม่จะมาถึงอย่างรวดเร็ว  เราจะไม่พ่ายแพ้ต่อความมืดมิด

การเสด็จเยี่ยมประเทศต่างๆของพระสันตปาปา

ทำไม  แม่จึงหลั่งพระหรรษทานจากดวงพระทัยของแม่เช่นนี้?  ทำไมแม่จึงแสดงบาดแผลซึ่งเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ทำร้ายต่อแม่?  มันไม่ง่ายกว่าหรือที่จะเงียบและอยู่เฉยๆ?  ไม่เลย  ถ้าหากแม่ไม่พูดออกมา  ก็จะไม่มีใครเข้าใจพระธรรมล้ำลึกของความดีและความชั่ว

ช่างเป็นเรื่องสำคัญยิ่งนักที่โลกจะต้องเข้าใจว่า  มันกำลังเข้าไปสู่ห้วงเวลาของความมืดมิดอันสุดจะทนทานได้  ผู้นำทั้งหลายของโลกได้พูดถึงเรื่องนี้บ้างไหม?  พวกเขาเข้าใจเรื่องนี้บ้างไหม?  พวกเขานำประชาชนของเขาไปในหนทางของพระเป็นเจ้าบ้างหรือเปล่า?  พวกเขาเห็นแต่เพียงเวลาปัจจุบันในขณะนี้เท่านั้น  เขาเห็นแต่ปัญหาในปัจจุบันและการแก้ปัญหาในเวลาปัจจุบัน  ไม่ใช่เลย, การแก้ปัญหาของพวกเขาไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาแต่อย่างใด

แม่ต้องการพูดถึงพระสันตปาปา  พระองค์ทรงมองเห็นในทุกแง่มุมอย่างถ่องแท้  ทรงเข้าใจจากส่วนลึกของหัวใจของพระองค์ ว่าหายนภัยที่เกิดขึ้นทุกอย่างมาจากปีศาจผู้ซึ่งพระองค์เกลียดชัง  พระองค์ทรงทราบว่าจะต้องไม่ไปสนทนากับมัน  เมื่อพระองค์เสด็จไปแต่ละประเทศ  พระองค์จะตรัสถึงความจริงในเรื่องนี้  และพระองค์จะทรงวิงวอนต่อประชาชนผู้สัตย์ซื่อและมีความเชื่อ  แม่จะชี้นำแก่พระดำรัสของพระองค์เองซึ่งจะถูกถ่ายทอดไปทั่วโลก  ในแต่ละวันของการเสด็จ  แม่จะมอบเวทีโลกที่ยิ่งใหญ่ให้แก่พระองค์  พระองค์จะเสด็จจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่งและจะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย  ผู้คนจะเห็นผู้ที่ทรงอาภรณ์ชุดสีขาว  เชื้อเชิญโลกทั้งมวลให้หันกลับมาสู่ความรักความห่วงใยแห่งดวงหทัยของแม่  แม่จะชี้นำพระองค์  แต่ทุกคนต้องสวดภาวนาด้วย 

พระสันตะปาปาและพระเมตตา

หัวใจของแม่เต็มไปด้วยความโศกเศร้ามากมายจนไม่อาจบรรยายได้  ความปรารถนา ความทะเยอทะยานของมนุษย์ช่างยิ่งใหญ่จนผลักดันให้เขากระทำแม้จะเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายและการทำลายให้ล่มสลาย  ด้วยหัวใจที่เคียดแค้นและพยาบาทของพวกเขาซึ่งสามารถทำลายโลกนี้ได้  และพวกเขายังมีวิธีที่จะสื่อสารให้ผู้คนนับล้านได้รู้ถึงความชั่วร้ายของเขาได้

เร็วเข้าเถิด, สันติภาพได้กลายเป็นสงครามแล้ว  และความสงบได้กลายเป็นความวุ่นวาย  ลูกได้เห็นสิ่งเหล่านี้ในประเทศแล้วประเทศเล่า  รัฐบาลที่มั่นคงต้องล่มสลายลง  สังคมถูกฉีกทึ้งเป็นส่วนๆ  ชัยชนะเป็นของศัตรูที่กำลังหัวเราะเย้ยหยัน  เหตุการณ์ทั้งหมดนี้มาจากหัวใจที่ชั่วร้ายซึ่งในเวลานี้มันมีวิธีที่จะสื่อสารกับคนนับล้านคนให้ได้รู้  โลกไม่เคยเห็นเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน  มนุษยชาติไม่เคยมีเครื่องมือสื่อสารที่ทรงประสิทธิภาพเช่นนี้ซึ่งสื่อสารไปได้ทั่วโลกในเวลาสั้นๆ

เวลานี้  แม่ได้เชิดชูเกื้อหนุนพระสันตะปาปาที่มาพร้อมกับสาส์นแห่งพระเมตตา  เสียงของพระองค์ได้ยินไปทั่ว  พระองค์ได้รับการยกย่องแม้แต่หนังสือพิมพ์ของโลก  พระองค์ผลักดันเป้าหมายของพระองค์ทีละขั้น  พระองค์ไม่เกรงกลัว  ถ้าหากพระองค์ทำผิดพลาดไป  พระองค์ก็ทรงแก้ไขและดำเนินงานต่อไป  สาสน์ออกมาจากใจของพระองค์และพระองค์ดำเนินชีวิตตามเสียงเรียกของหัวใจมานานนับสิบปีแล้ว  นี่แหละคือผู้ที่แม่ได้เลือกให้มาอยู่บนบัลลังก์ของเปโตร  พระองค์เรียกร้องให้ประชาชนกลับใจและอยู่ห่างไกลจากความเกลียดชังและความแตกแยก  สาส์นของพระองค์จะเป็นการเตรียมหนทาง  พระสันตปาปาองค์ต่อไปจะทำตามแบบอย่างของพระองค์ผู้ซึ่งจะทำให้พระพรของการถวายประเทศรัสเซียเสร็จสมบูรณ์
 
*********************************
(หมายเหตุ - ไม่ปรากฏชื่อของผู้เขียนบทความนี้)
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น